ตร.ไซเบอร์เตรียมเสนอปิดเว็บไซต์ดัง เปิดเดิมพันเหตุการณ์สำคัญของโลก ผ่านคริปโตเคอร์เรนซี่ เผยแอปมือถือ 2 ค่าย เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมฯ
ตร.ไซเบอร์เตรียมเสนอปิดเว็บไซต์ดัง เปิดเดิมพันเหตุการณ์สำคัญของโลก ผ่านคริปโตเคอร์เรนซี่ เผยแอปมือถือ 2 ค่าย เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมฯ
ตร.ไซเบอร์เตรียมเสนอปิดเว็บไซต์ Polymarket.com เปิดเดิมพันเหตุการณ์สำคัญของโลก ผ่านคริปโตเคอร์เรนซี่ ด้าน ผบช.สอท.เผยแอปมือถือ 2 ค่าย เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมฯ
(14 ม.ค.68) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าว "ตำรวจไซเบอร์เตรียมเสนอปิดเว็บไซต์ Polymarket.com เปิดให้มีการเดิมพันเหตุการณ์สำคัญของโลก ผ่านคริปโตเคอร์เรนซีี
โดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ เปิดเผยว่า บช.สอท.ได้ดำเนินการเฝ้าติดตามเว็บไซต์การพนันออนไลน์ ที่มีลักษณะเข้าข่ายผิดกฎหมายในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่า ปัจจุบันมีการพัฒนาเข้าสู่ยุค เว็บ 3.0 และมีการนำคริปโตเคอร์เรนซี่ มาใช้เป็นสื่อกลางในการทำธุรกรรม ซึ่งเพิ่มความซับซ้อนและความยากในการตรวจสอบและติดตาม จากการสืบสวน พบว่า เว็บไซต์ Polymarket.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ระดับโลก ที่ให้บริการการทำนายผลหลากหลายประเภท เช่น การเมือง , กีฬา , บันเทิง และเศรษฐกิจ มีลักษณะเข้าข่ายการพนันออนไลน์ที่ผิดกฎหมายในประเทศไทย เนื่องจาก การใช้คริปโตเคอร์เรนซี่ในการแลกเปลี่ยนและเดิมพัน ขัดต่อกฎหมาย และเว็บไซต์ดังกล่าวยังถูกปิดกั้นหรือควบคุมการเข้าถึงในหลายประเทศ เช่น ไต้หวัน , ฝรั่งเศส และสิงคโปร์ เพื่อป้องกันผลกระทบต่อประชาชน และความมั่นคงของระบบเศรษฐกิจ
บช.สอท.เห็นว่า การดำเนินการระงับเว็บไซต์ Polymarket.com มีความสำคัญ เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของการพนันออนไลน์ และเพื่อป้องกันการนำคริปโตเคอร์เรนซี่ ไปใช้ในกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างร้ายแรง สำหรับการเฝ้าระวังและความร่วมมือระหว่างประเทศ ทางตำรวจได้จัดตั้งทีมงานเฉพาะกิจ เพื่อเฝ้าระวังและรวบรวมข้อมูล รวมถึงประสานความร่วมมือกับหน่วยงาน ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามเว็บไซต์ลักษณะดังกล่าว การดำเนินการนี้สะท้อนถึงความพยายามร่วมกันของนานาประเทศ ในการควบคุมและป้องกันกิจกรรมที่อาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย
ฝากเตือนประชาชน ให้หลีกเลี่ยงการเข้าร่วมกิจกรรมบนเว็บไซต์ที่ไม่ได้รับอนุญาต และระมัดระวังการใช้คริปโตเคอร์เรนซี่ในทางที่ผิด หากพบข้อมูลหรือเบาะแสเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย สามารถแจ้ง ข้อมูลได้ที่สายด่วน AOC 1441 หรือแจ้งความออนไลน์ที่ https://thaipoliceonline.go.th/
ส่วนกรณีแอปพลิเคชันที่มากับระบบปฏิบัติการมือถือ ของ 2 ค่ายนั้น พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า ทางตำรวจไซเบอร์เมื่อทราบข่าวก็ได้มีการตรวจสอบ พบว่าแอปพลิเคชันดังกล่าว มากับตัวปฏิบัติการคัลเลอร์โอเอส ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่กำหนดเอง พัฒนาโดยบริษัทของมือถือดังกล่าว โดยใช้พื้นฐานจากระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ แต่คันเลอร์โอเอส จะมาคลุมที่แอนดรอยด์อีกชั้นหนึ่ง และปรับแต่งรูปแบบแอปพลิเคชันให้แนบเนียนไปกับโทรศัพท์ ซึ่งแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 15 ที่เป็นเวอร์ชั่นปัจจุบัน พบว่ามีแอปฟินอีซี่ และสินเชื่อความสุข ติดตั้งมากับโทรศัพท์ค่ายดังกล่าวด้วย โดยติดตั้งมาเอง ซึ่งผู้ซื้อโทรศัพท์ไม่ได้เป็นคนโหลดติดตั้ง
เมื่อพบว่าเป็นลักษณะนี้ ก็ต้องมาตรวจสอบว่า จะเข้าข่ายความผิดตามกฏหมายหรือไม่ ซึ่งการกระทำดังกล่าวก็จะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 13 "จำหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคำสั่งที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด" มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีปรับไม่เกิน 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะนี้ทางตำรวจไซเบอร์ ยังไม่ได้รับเรื่องจากผู้เสียหายในส่วนนี้ แต่หากมีผู้เสียหายก็อยากสอบถามถึงประเด็นการเข้าใช้งานต่างๆ เพื่อพิจารณาว่าเกิดความเสียหายขึ้นหรือไม่ และการเข้าใช้งานแอปฯเป็นอย่างไร เพื่อพิจารณาว่าจะเข้าข่ายความผิดอื่นอีกหรือไม่ - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :