บุกคลินิก “ดิ ไอคอน” หลังเอาผิด “หมอเอก” หมอปลอม

บุกคลินิก “ดิ ไอคอน” หลังเอาผิด “หมอเอก” หมอปลอม

36216 ต.ค. 67 12:21   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

เจ้าหน้าที่บุกตรวจค้นคลินิกและสถานบริการด้านสุขภาพและความงามในเครือของ “ดิ ไอคอน กรุ๊ป” หลังมีการแจ้งเอาผิด “หมอเอก” แอบอ้างตัวเป็นหมอ

(15 ต.ค. 67) เวลา 10.00 น. นายกองตรี ดร. ธนกฤต จิตรอารีรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม การกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค(ปคบ.) เจ้าหน้าที่จากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) เจ้าหน้าที่จากสำนักงานอาหารและยา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เข้ามาตรวจสอบที่คลินิกในเครือดิไอคอนกรุ๊ป ภายในโครงการแห่งหนึ่ง ย่านรามอินทรา กรุงเทพ


นายกองตรี ดร.ธนกฤต เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบ หลังเมื่อวานนี้ได้ไปดำเนินการกล่าวโทษ นายฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ หรือ บอสหมอเอก ที่แอบอ้างเป็นคุณหมอตามที่ปรากฏในภาพสื่อ ในวันนี้จึงเข้าตรวจสอบที่คลินิกดังกล่าว


เบื้องต้นพบว่าคลินิกดังกล่าวปิดให้บริการ แต่เมื่อมีการปิดก็จะมีการลงพื้นที่มาตรวจค้นใหม่ โดยเฉพาะเรื่องยาที่ไปฉีดให้กับคนไข้เป็นยา อะไรกันแน่ ซึ่งพอเข้าตรวจค้นแล้วคลินิกปิดให้บริการนั้นถือว่าเป็นทีเด็ดสำหรับวันนี้ เนื่องจากจุดหมายต่อไปที่เจ้าหน้าที่กำลังลงพื้นที่จะมีมีความสำคัญมาก หลังจากนายเอกไปพูดกับหลายเวทีว่าเป็นหมอ หมายถึงหมออะไร และนี่สื่อจะได้ยินชัดเจนว่าสมาชิกเข้าใจว่าเป็นเช่นนั้น ซึ่งได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว ซึ่งข้อยุติคือต้องดำเนินคดีกับนายเอกให้เรียบร้อย 


โดยเฉพาะคลิปที่ปรากฏ ลักษณะคล้ายกับคลินิกหรือสถานพยาบาลและมีการรักษาให้กับผู้หญิง และจากข้อมูลทราบว่ามีไม่น้อยกว่าห้าคน ที่เข้ารับการฉีดขณะนั้น การกระทำลักษณะดังกล่าวเป็นการแสดงถึงผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ต้องมาเอาข้อเท็จจริงให้ทราบ และเชื่อว่าประชาชนเข้าใจว่าผู้ที่สวมชุดกราวน์และใส่หูฟัง เหมือนหมอ และพยายามพูดอยู่เสมอว่าตัวเองเป็นหมอ ซึ่งผู้ที่เป็นเทคนิคการแพทย์ไม่ใช้คำนี้ ดังนั้นผู้ที่ไม่ได้เป็นหมอและไม่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ก็ถือว่าเป็นหมอเถื่อน ไม่สามารถเรียกว่าหมอเอกได้ ตอนนี้เรียกอย่างให้เกียรติแล้ว และจะให้เกียรติมากกว่านี้หากคุณออกมาพบ แต่หากไม่ออกมาพบกระบวนการต่อไปคือออกหมายเรียกและออกหมายจับ ท่านต้องออกเพราะท่านคือส่วนหนึ่งที่ทำให้คุณเข้าใจผิด



ขณะที่ ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เผยว่า การตรวจสอบว่าเป็นแพทย์หรือไม่ ของแพทยสภาสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ เพราะจะมีฐานข้อมูล ซึ่งหากไม่มีในฐานข้อมูล ก็ไม่ใช่แพทย์ตามที่ขึ้นทะเบียนกับแพทยสภา ก็เป็นหมอเถื่อน ถ้าหากหลอกลวง ก็จะมีความผิดตามกฎหมายวิชาชีพเวชกรรม ซึ่งจะมีโทษจำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ถือเป็นโทษขั้นรุนแรง และหากมีการประกอบวิชาชีพในสถานที่ที่ไม่ได้รับอนุญาต ก็จะมีโทษจำคุกอีก 5 ปี หรือถ้าแสดงตนเป็นผู้ดำเนินการ ก็จะมีโทษของผู้ดำเนินการอีก 5 ปี จึงขอฝากเตือน หากไม่ใช่ผู้ประกอบวิชาชีพก็อย่าแสดงตนหรือไปให้บริการเพราะโทษค่อนข้างร้ายแรง 


ส่วนคลินิกที่เข้ามาตรวจสอบ พบว่า เป็นคลินิกเวชกรรมให้การรักษาโรคทั่วไป เป็นคลินิกที่จดทะเบียนถูกต้อง แต่เนื่องด้วยคลินิกปิด จึงยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ จึงจะต้องมาใหม่เพื่อมาตรวจสอบว่าเครื่องไม้เครื่องมืออุปกรณ์ และบุคคลากรที่ให้บริการเป็นไปตามมาตรฐาน และมีความเหมาะสมที่เป็นไปตามมาตรฐานทางการแพทย์หรือไม่ 

 

และผู้ประกอบกิจการที่จะขออนุญาติได้ จะต้องเป็นบุคคลมีอายุเกิน 20 ปี มีถิ่นอาศัยในประเทศไทย ก็สามารถเปิดคลินิกได้แล้ว ซึ่งผู้ประกอบการผ่านการกลั่นกรองแล้วว่าถูกต้องตามกฎหมาย แต่แพทย์ผู้ดำเนินการจะต้องควบคุมกำกับดูแลการประกอบวิชาชีพ ถ้าปล่อยปละให้คนอื่นที่ไม่ใช่แพทย์มาให้บริการ ก็จะมีโทษตามกฎหมาย จำคุก 2 ปี และต้องควบคุมไม่ให้ผู้มาใช้บริการกับคนที่ไม่ใช่หมอ



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง