“อุยกูร์” คือใคร? ทำไมถึงต้องลี้ภัยจากจีน

“อุยกูร์” คือใคร? ทำไมถึงต้องลี้ภัยจากจีน

127428 ก.พ. 68 18:08   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

ทำความรู้จัก “ชาวอุยกูร์” กลุ่มชาติพันธ์ที่มีความแตกต่างกับชาวจีน ทั้งด้านเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม พร้อมเหตุผลที่ต้องเสี่ยงเดินทางไกลเพื่อลี้ภัยจากบ้านเกิด

(เรียบเรียงโดย อพัชชา ทองสนิท)

ชาวอุยกูร์ เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีต้นกำเนิดในแถบเอเชียกลาง โดยมีรากฐานทางเชื้อชาติจากชนชาติเติร์กและมักนับถือศาสนาอิสลามนิกายสุหนี่ ชาวอุยกูร์ส่วนใหญ่เคยอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่เป็นที่รู้จักในปัจจุบันว่าเป็น “ซินเจียง” ซึ่งหมายถึง “ดินแดนใหม่” ในภาษาจีน โดยซินเจียงเป็นพื้นที่ทางตะวันตกสุดของประเทศจีนและเป็นพื้นที่สำคัญที่เชื่อมต่อกับเอเชียกลางและเอเชียใต้


ในศตวรรษที่ 8 ชาวอุยกูร์ได้สถาปนาอาณาจักรของตนเองชื่อว่า “อุยกูร์คานาเต” ซึ่งปกครองพื้นที่กว้างขวางและมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับราชวงศ์ถังของจีน อย่างไรก็ตาม อาณาจักรอุยกูร์ล่มสลายในศตวรรษที่ 9 หลังจากถูกกองกำลังคีร์กีซโจมตี ส่งผลให้ชาวอุยกูร์จำนวนมากต้องอพยพไปทางใต้สู่พื้นที่ที่ปัจจุบันคือ “เขตปกครองตนเองซินเจียง” ของจีน

 

ชาวอุยกูร์เกิดความขัดแย้งกับรัฐบาลจีน ทำให้รัฐบาลจีนกดขี่และเลือกปฏิบัติกับชาวอุยกูร์ และได้ออกมาตรการปราบปรามชาวอุยกูร์อย่างรุนแรง ซึ่งชาติตะวันตก รวมทั้งสหรัฐฯ และอังกฤษ เรียกว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์


ในปี 2022 สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่า การปฏิบัติของรัฐบาลปักกิ่งต่อชนกลุ่มน้อยในซินเจียงอาจถือเป็น “อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ”

 

ทำไมรัฐบาลจีนถึงกดขี่และเลือกปฏิบัติกับชาวอุยกูร์


การควบคุมความมั่นคง รัฐบาลจีนกลัวว่าชาวอุยกูร์จะสร้างความไม่สงบเรียบร้อยในซินเจียง โดยมีบางกลุ่มที่เรียกร้องความเป็นอิสระหรือแยกตัวออกจากจีน เช่น การเคลื่อนไหวที่เรียกร้องให้มี "สาธารณรัฐอุยกูร์" หรือการต่อต้านการปกครองของจีน ดังนั้น จีนจึงดำเนินนโยบายที่เข้มงวดในการควบคุมความมั่นคงในพื้นที่นี้ รวมทั้งการจำกัดสิทธิของชาวอุยกูร์

 

ความแตกต่างทางชาติพันธุ์และศาสนา ชาวอุยกูร์เป็นชนกลุ่มน้อยที่มีวัฒนธรรมและศาสนา ต่างจากชนชาวฮั่นที่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์หลักในจีน การเลือกปฏิบัติและการกดขี่เกิดขึ้นเมื่อรัฐบาลจีนพยายามหลอมรวมชาวอุยกูร์ให้เข้ากับอัตลักษณ์จีน โดยการจำกัดการปฏิบัติทางศาสนา เช่น การห้ามสวมฮิญาบและการจำกัดการสอนศาสนาในโรงเรียน รวมถึงการข่มขู่หรือควบคุมการใช้ภาษาของชาวอุยกูร์

 

การควบคุมทางการเมืองและเศรษฐกิจ ซินเจียงมีทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ เช่น น้ำมันและแร่ธาตุ ซึ่งเป็นที่ต้องการของรัฐบาลจีน การรักษาความควบคุมพื้นที่นี้เป็นสิ่งสำคัญในการสนับสนุนเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์ของประเทศ นอกจากนี้ จีนยังต้องการให้ชาวอุยกูร์ยอมรับการปกครองของรัฐบาลกลาง โดยการกำหนดนโยบายที่บีบบังคับพวกเขาให้หลอมรวมกับวัฒนธรรมจีน

 

ความกลัวในเรื่องการแบ่งแยกดินแดน เนื่องจากซินเจียงเป็นภูมิภาคที่มีพรมแดนติดกับประเทศอื่นๆ เช่น คาซัคสถาน ปากีสถาน และอินเดีย รัฐบาลจีนจึงมีความกังวลเกี่ยวกับการแทรกแซงจากภายนอกและความเป็นไปได้ที่ชาวอุยกูร์อาจได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มต่างชาติในการเรียกร้องอิสรภาพหรือการแยกตัวออกจากจีน

 

ทั่วโลกมีความคิดเห็นอย่างไร?

• องค์การสหประชาชาติ (UN) องค์การ Amnesty International และ Human Rights Watch ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลจีนเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในซินเจียง โดยเฉพาะในเรื่องการกดขี่และการเลือกปฏิบัติกับชาวอุยกูร์ ตัวอย่างเช่น การกักขังในค่าย การจำกัดศาสนาและวัฒนธรรม รวมไปถึงการใช้เทคโนโลยีในการสอดส่อง

 

• สหรัฐอเมริกา เป็นหนึ่งในประเทศที่วิจารณ์จีนอย่างรุนแรงเกี่ยวกับสถานการณ์ในซินเจียง โดยในปี 2021 สหรัฐฯ ประกาศว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในซินเจียงเป็น "การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" และเรียกร้องให้จีนรับผิดชอบต่อการกระทำเหล่านี้ รวมทั้งมีการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรหลายประการต่อเจ้าหน้าที่จีนที่เกี่ยวข้อง

 

• สหภาพยุโรป (EU) ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในซินเจียง และได้มีการคว่ำบาตรจีนในบางกรณี แต่บางประเทศในยุโรปก็ยังมีความสัมพันธ์ทางการค้ากับจีน และมีการแสดงความระมัดระวังในการแสดงความคิดเห็น

 

นอกจากนี้บทความจากสภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ยังเปิดเผยอีกว่ามีแรงงานชาวอุยกูร์จำนวนมากถูกบังคับให้ทำงานในโรงงานต่างๆ ทั่วประเทศจีนโดยไม่ได้รับค่าตอบแทนที่เป็นธรรม โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมฝ้ายและสิ่งทอ เนื่องจากซินเจียงเป็นแหล่งผลิตฝ้ายรายใหญ่ของโลก

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง