ล่าคนขับเก๋งสุดอันตราย จอดข้างทางดักยิงสิบล้อ
ล่าคนขับเก๋งสุดอันตราย จอดข้างทางดักยิงสิบล้อ
สุดอันตราย! ชายขับเก๋งจอดริมถนน ยืนถือปืนรอสิบล้อขับผ่านก่อนยิง กระสุนเข้าเป้า 2 นัด หวิดเป็นข่าวเศร้า คาดคนขับเก๋งไม่พอใจที่ถูกสิบล้อบีบแตรเตือนที่ปาดหน้า
(7 ต.ค. 67) ผู้ใช้เฟซบุ๊ครายหนึ่งโพสต์คลิปภาพเหตุการณ์จากกล้องหน้ารถ จับภาพชาย สวมเสื้อและกางเกงสีดำ สวมหมวกดำ สวมแมสปิดบังใบหน้า ลงจากรถเก๋งฮอนด้าสีดำ ก่อนชักปืนสั้น ยิงใส่รถสิบล้อพ่วงที่ขับตามมาหลายนัด บนถนนทางหลวงสาย 33 (ถ.สวรรณศร)ช่วง อ.ปากพลี จ.นครนายก
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง สภ.ปากพลี พบกับนายสิงหา อายุ 39ปี คนขับรถสิบล้อพ่วงที่เดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน กรณีที่ถูกชายไม่ทราบชื่อจอดรถเก๋งข้างถนนแล้วใช้อาวุธปืนสั้นยิงใส่ขณะขับรถบนถนน
นายสิงหาเล่าว่า ตนขับรถบรรทุกมาจากจังหวัดสระบุรี บรรทุกหินเพื่อไปส่งที่จังหวัดปราจีนบุรี เมื่อตนขับมาถึงบริเวณโค้งใกล้จุดยูเทิร์น พื้นที่ตำบลบ้านพร้าว อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก ตอนนั้นเวลาประมาณ 14.00 น. ช่วงหลุดจากไฟแดง คู่กรณีที่ขับรถเก๋งได้กลับรถตัดหน้ารถของตน ตนจึงได้บีบแตรเตือน จากนั้นตนก็ปล่อยให้คู่กรณีขับรถแซงหน้าไป
จนกระทั่งมาถึงบริเวณโค้งอำเภอปากพลีคู่กรณีได้จอดรถริมถนนตนก็ขับผ่านไป จากนั้นคู่กรณีได้ขับรถต่อไปจอดรถบริเวณแยกไฟแดงข้างหน้าอีกครั้ง พฤติกรรมมองหน้าตนตอนนั้นตนก็ไม่ได้คิดอะไร ก็ได้ขับรถต่อไปเรื่อยๆ จนเวลาประมาณ 14.45 น. ตรงนั้นมีลักษณะเป็นทางโค้ง ตนได้ขับหลุดโค้งมาจึงเห็นคู่กรณีจอดรถและมีอาวุธปืนที่มือ ก่อนจะใช้อาวุธปืนยิงมาที่ตัวรถ
ตอนนั้นตนได้ก้มหลบและรีบขับออกจากจุดเกิดเหตุเพราะไม่รู้ว่ากระสุนปืนจะเข้ามาทางไหนบ้าง ตนได้โทรแจ้งตำรวจก่อนจะไปหยุดรถที่ป้อมตำรวจอำเภอปากพลี ขณะที่คู่กรณีหลังจากที่ใช้อาวุธปืนยิงตนก็ไม่เห็นว่าขับรถตามมา เมื่อตรวจสอบร่องรอยรอบตัวรถ พบมีรอยกระสุน 2 จุด ประตูข้างซ้ายคนขับและกันชนด้านหน้ารถ และมีกระสุนปืนตกอยู่ในห้องโดยสาร 1 นัด
พ.ต.อ. ณรงค์ศักดิ์ วงศ์กาฬสินธุ์ ผู้กำกับสภ.ปากพลี ได้ส่งชุดสืบสวนสภ.ปากพลีไปยังจุดเกิดเหตุ พร้อมไล่ภาพจากกล้อววงจรปิดจากจุดต่างๆ ที่ได้รับข้อมูลจากนายสิงหาแล้ว ขณะเดียวกันมีข้อมูลว่ามีบุคคลลักษณะคล้ายกับคนในคลิป เคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันหรือไม่ แต่ได้ล๊อกเป้าหมายไว้แล้ว พร้อมกับรวบรวมพยานหลักฐานที่แน่ชัด หากเป็นบุคคลคนเดียวกันก็จะดำเนินการควบคุมมาดำเนินคดีต่อไป