2 สาวหลอกยาย 91 เข้าห้องน้ำฉกเงินทำบุญก้อนเดียวในชีวิตลอยนวล

2 สาวหลอกยาย 91 เข้าห้องน้ำฉกเงินทำบุญก้อนเดียวในชีวิตลอยนวล

94402 ส.ค. 67 21:36   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

2 สาวหลอกยาย 91 เข้าห้องน้ำฉกเงินทำบุญก้อนเดียวในชีวิตลอยนวล ยายสุดช้ำลั่น “คนทรยศคน หาหลอกลวงคนอื่นทั่วไป ทำอะไรไว้ต้องรับกรรม”

(2 ส.ค.67) ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์คลิปที่บันทึกคำบอกเล่าของคุณยายคนหนึ่ง ซึ่งบอกว่าถูกหญิงสองคน เข้ามาในบ้านหลอกถามซื้อกระชาย ก่อนที่ทำทีของเข้าห้องน้ำแล้วรื้อค้นทรัพย์สินของคุณยายหายไปเป็นเงินสดกว่าหมื่นบาท และต่างหูทองคำอีก 2 ข้าง พร้อมระบุข้อความว่า 


“เตือนภัย ฟังยายเล่า เป็นอุทาหรณ์ สำหรับคนแก่อยู่บ้านคนเดียว คนร้ายจิตใจทำด้วยอะไรน้อ มาหาหลอกคนแก่ ได้เงินยายได้หมื่นกว่าบาท ยายบอกจะเก็บเงินไว้ทำบุญ สู้ๆๆนะยาย” พร้อมกับได้นำสิ่งของจำนวนหนึ่งไปมอบเป็นกำลังใจให้กับยาย


คุณยายสุข อายุ 91 ปี อาศัยอยู่ภายในบ้านเพียงลำพัง โดยบ้านของคุณยายสุขเป็นบ้านหลังสุดท้ายของหมู่บ้าน ติดกับทุ่งนา ห่างจากแหล่งชุมชนไปประมาณเกือบ 200 เมตร  


โดยในวันนี้นายเติบ ชัชวาล นายกเทศมนตรีตำบลอรพิมพ์ ได้นำข้าวของเครื่องใช้และอาหารแห้งจำนวนหนึ่งไปเยี่ยมให้กำลังใจคุณยาย พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดมวลชนสัมพันธ์ สภ.ครบุรี เพื่อให้คุณยายมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น 


คุณยายสุขฯ เล่าว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา มีหญิงสาวสองคน คนหนึ่งสูงอีกคนเตี้ย สวมหมวกกันน็อกและพันผ้าปิดบังหน้าตา บุกเข้ามาในบ้านกะทันหัน ทำทีมาติดต่อขอซื้อกระชาย ซึ่งตัวเองก็บอกว่าตอนนี้กระชายยังต้นเล็กอยู่ ไม่น่าจะมีหัวให้ได้ขาย แต่คนร้ายก็ไม่ฟัง คว้าเสียมไปลองขุดดู ก็พบว่ากระชายยังเล็ก จึงไม่เอาไป 


พร้อมกับพูดกันสองคนว่า คนแนะนำหนทางมาให้แน่นอนจริงๆ ซึ่งทั้งสองคนมีสำเนียงคล้ายกับคนแถบนี้ หลังจากไม่ได้กระชาย ทั้งคู่ก็ยังพูดคุยเรื่องสัพเพเหระกับยายตลอด ก่อนที่หญิงสาวคนเตี้ยจะทำทีขอเข้าห้องน้ำที่อยู่หลังบ้าน ซึ่งยายก็อนุญาต 


ระหว่างนั้นหญิงอีกคนที่ตัวสูงก็ดึงยายให้ออกมาคุยกันหน้าบ้าน เวลาผ่านไปนานพอสมควร เมื่อคนที่เข้าห้องน้ำออกมา ทั้งคู่ก็พากันขอตัวกลับ ซึ่งยายก็ไม่ได้เอะใจอะไร  


กระทั่งในช่วงเย็นคิดได้ว่าจะต้องนำเงินไปจ่ายค่าไฟฟ้า จึงเข้าไปในห้องนอน เพื่อค้นหาเงินที่เก็บเอาไว้หวังจะทำบุญ มาแบ่งจ่ายค่าไฟก่อน แต่ก็มาพบว่าห้องนอนถูกรื้อค้นกระจุยกระจาย ห่อเงินที่เก็บไว้หายไปทั้งหมด เป็นเงินสดประมาณ 12,000 บาท ซึ่งตัวเองเก็บเก็บหมอรอมริบมานานหลายปี 


ทั้งจากเงินยังชีพผู้สูงอายุและจากเงินที่ลูกหลานเอามาให้ตอนที่มาเยี่ยมเยียน รวมถึงต่างหูทองที่ตัวเองอุตส่าห์รับจ้างถอนกล้ามาตั้งแต่อายุ 15 ปี และพระเครื่องต่างๆสมัยพ่อแม่ที่สืบทอดมาอีก 3 พวง ถูกคนร้ายใจบาปมาขโมยเอาไปทั้งหมด


ยายสุข บอกอีกว่า ที่ตัวเองต้องอยู่คนเดียวเพียงลำพัง เพราะยังอยากที่จะอยู่บ้านเก่าดังเดิม เพราะห่วงบ้าน แม้ว่าลูกหลานจะมาคะยั้นคะยอให้ไปอยู่ด้วยกันตามภูมิลำเนาอื่นๆ แต่ก็ยังยืนยันจะอยู่ที่นี่ เพราะไม่อยากให้เป็นภาระลูกหลาน อีกทั้งตัวเองก็ยังพอมีแรง ได้ปลูกผัก ออกกำลังกายอยู่บ้านแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว 

เมื่อมาถูกกระทำอย่างนี้ตัวเองรู้สึกเสียใจและเสียดายอย่างมาก เพราะตัวเองไม่เคยมีเงินมากขนาดนี้มาก่อน เงินที่เก็บเอาไว้ก็หมายใจว่าจะเอาไว้ทำบุญสร้างกุศลก่อนที่จะล้มหายตายจากโลกนี้ไป กลับมาถูกคนใจบาปมาตัดเส้นทางบุญเสียได้ 


อย่างไรก็ตามส่วนตัวคิดว่า ใครทำอะไรเอาไว้ก็จะต้องได้ผลกรรมเช่นนั้น เมื่อเสียไปแล้วก็เสียไป หากยังไม่ตายลูกหลานก็คงจะหามาให้รวมถึงเก็บเองจากเงินผู้สูงอายุได้มากกว่านั้น แล้วตัวเองก็ยังยืนยันว่าจะนำเงินที่ได้ไปทำบุญตามที่ตั้งใจเอาไว้ ส่วนคนที่เอาไปจากนี้ไปก็คงต้องเจอกับกรรมและคงไม่มีความสุขในชีวิตอีกต่อไปเพราะเป็น “คนทรยศคน หาหลอกลวงคนอื่นทั่วไป”


ทางด้าน น.ส.ผุสดี หวนกระโทก อายุ 39 ปี ผู้ที่โพสต์ กล่าวว่า กรณีนี้ตัวเองได้รับรู้ข่าวคราวมาจากเพื่อนบ้านมาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งคิดอยู่นานว่าอยากที่จะนำเรื่องราวนี้มาบอกเล่า และเตือนภัยให้กับสังคม แต่กังวลว่าคุณยายจะยังเสียใจและคิดมากกับเรื่องดังกล่าว จึงรอให้สภาพจิตใจของคุณยายดีขึ้นก่อน จนมีโอกาสได้เข้าไปช่วยดำเนินการใช้สิทธิบัตรประชารัฐ จึงได้ถามไถ่และขออนุญาตถ่ายคลิปยาย เพื่อนำไปเผยแพร่เตือนภัยต่อสังคม เพราะตัวเองมองว่าเรื่องนี้เป็นภัยร้ายแรงต่อสังคม 


โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่อยู่บ้านเพียงลำพัง อย่างคุณยายสุขที่อาศัยอยู่ท้ายหมู่บ้าน เปลี่ยวและห่างไกลจากแหล่งชุมชน ไม่มีกล้องวงจรปิด และการกระทำของคนร้ายทั้งสองก็ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ไร้จิตสำนึก ไร้มนุษยธรรมร้ายแรง อาศัยความใจดีมีเมตตาขอคนแก่มาก่อเหตุ  


ซึ่งหากเหตุการณ์นี้ได้ถูกเผยแพร่ไป จะเป็นจุดที่กระตุ้นให้ทุกๆคนหันมาใส่ใจและช่วยกับบอกเตือนญาติมิตร เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมาซ้ำอีก และอยากฝากถึงคนร้ายที่ก่อเหตุทั้งสองคนว่า 


"จากนี้ไปจะไปทำมาหากินอะไรก็คงไม่สำเร็จได้แน่นอน มาทำเวรทำกรรมกับคนเฒ่าคนแก่ มีมือมีเท้าครบ ไม่น่าจะมาทำกับคนแก่อย่างนี้เลย" และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับตัวคนร้ายพวกนี้มาดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดให้หมดสิ้นไปเสียที เพราะคนร้ายพวกนี้ยังมีอีกมากในสังคมไทย 


จากการสอบถามความคืบหน้าในการติดตามตัวคนร้ายจากทาง สภ.ครบุรี ได้รับคำตอบว่า สำหรับกรณีดังกล่าวนั้นเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ก.ค.67 ที่ผ่านมา ซึ่งผู้เสียหายมาลงบันทึกประจำวันเอาไว้เมื่อวันที่ 25 ก.ค.67 โดยหลังจากที่ได้รับแจ้งเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนก็ได้ลงพื้นที่หาข่าว และแกะรอยหาตัวคนร้ายมาอย่างต่อเนื่อง 


แต่เนื่องจากในช่วงเกิดเหตุไม่มีพยานผู้เห็นเหตุการณ์ อีกทั้งบริเวณที่คนร้ายก่อเหตุก็อยู่ห่างไกลจากแหล่งชุมชน ไม่มีกล้องวงจรปิด ทำให้การติดตามเบาะแสของคนร้ายทำได้ลำบาก แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้นิ่งนอนใจ และยังคงดำเนินการติดตามหาเบาะแสและตัวคนร้ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด 


จึงอยากฝากเตือนไปยังประชาชนให้ระมัดระวังคนร้ายประเภทนี้ ซึ่งเป็นภัยอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่อยู่บ้านลำพัง ควรหมั่นมาเยี่ยมเยียน คอยกำชับเตือนให้ระวังเป็นพิเศษ ขณะเดียวกันก็จะได้เพิ่มความถี่ในการออกตรวจตราป้องปรามเหตุมากขึ้นด้วย


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง