“อังคณา” ชี้ช่อง ครม.ยืดอายุคดีตากใบได้ถ้าต้องการ

“อังคณา” ชี้ช่อง ครม.ยืดอายุคดีตากใบได้ถ้าต้องการ

15322 ต.ค. 67 18:12   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

“สว.อังคณา” ชี้ช่อง ครม.สามารถออก พ.ร.ก. ยืดอายุความคดีตากใบได้หากต้องการ - ฝากถึงรัฐบาลหยุดสร้างวาทกรรมที่โยนความผิดให้ผู้เสียหาย

(22 ต.ค. 67) ที่รัฐสภา นางอังคณา นีละไพจิตร วุฒิสมาชิกในฐานะเป็นประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุม กมธ. ถึงความคืบหน้าของคดีตากใบที่เหลืออายุความ 3 วัน ว่า ยืนยันว่ารัฐบาลสามารถออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เพื่อขยายอายุความในคดีตากใบได้ แต่จากที่ฟังนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่าอาจจะไม่ทัน แต่ส่วนตัวมองว่าเป็นสิ่งที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) สามารถทำได้


นางอังคณากล่าวต่อว่า กรณีดังกล่าวถือเป็นความหวังสุดท้ายของผู้เสียหาย หากรัฐบาลสามารถขยายหรือชะลออายุความไว้ก่อน แต่หากประตูบานนี้ถูกปิดก็ยังมองไม่ออกว่าผู้ถูกกล่าวหา หรือจำเลยไม่มาศาลในวันที่ 25 ตุลาคม ก็ถือว่าคดีหมดอายุความไปตามกฎหมาย เช่นเดียวกับคดีมัสยิดกรือเซะที่มีผู้เสียชีวิต 31 คน ที่ได้หมดอายุความไปแล้ว


ส่วนหากคดีหมดอายุความไปแล้วจริง จะมีแนวทางอื่นในการดำเนินการได้หรือไม่นั้น หากกลไกภายในประเทศไม่สามารถดำเนินการได้ ก็ยังมีช่องทางให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายคือร้องต่อศาลระหว่างประเทศได้ เช่น สหภาพยุโรปในหลายประเทศ ก็อนุญาตให้ผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนสามารถฟ้องร้องในคดีได้ และเมื่อศาลมีคำพิพากษาบุคคลนั้นจะไม่สามารถเดินทางเข้าไปในประเทศที่เกิดเหตุได้ กลับไปก็จะถูกจำคุก แต่ประเทศไทยก็ยังไม่มีประสบการณ์ในการทำคดีแบบนี้มาก


นางอังคณากล่าวต่อว่า ตนมองว่าคดีอาญาแผ่นดินที่มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ไม่ควรเป็นหน้าที่ของญาติผู้เสียชีวิตที่จะฟ้องร้องเอง แต่ควรเป็นหน้าที่ของอัยการ และคดีนี้ทำให้เกิดความเปรียบเทียบว่าหากประชาชนทำผิดต้องถูกลงโทษ และจับกุม แต่เมื่อเจ้าหน้าที่รัฐทำผิด แทบจะไม่เคยจับกุมผู้กระทำผิดได้เลย โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ถือว่าเป็นพื้นที่เปราะบาง ซึ่งส่วนตัวมองว่าจำเป็นต้องมีการปฏิรูปกฎหมาย ทั้งกรณีความผิดในการละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรง ต้องไม่มีอายุความ และต้องขยายนิยามของผู้เสียหายให้กว้างขึ้น ให้รวมถึงสามีภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส เพื่อให้สอดคล้องกับอนุสัญญาว่าด้วยการทรมานและบังคับสูญหาย


“ทุกฝ่ายตระหนักถึงเรื่องนี้ แต่เราก็ปล่อยโอกาสที่จะทำให้เกิดความจริงในศาลให้หมดไป เพราะเราไม่สามารถนำตัวจำเลยมาปรากฏตัวต่อหน้าศาลได้ คงหลีกเลี่ยงยากในการที่จะเกิดความรุนแรงตามมา จึงได้แต่พูดว่าเสียดายกับความไว้เนื้อเชื่อใจที่เคยมี ซึ่งอาจจะหมดไป” นางอังคณากล่าว


เมื่อถามว่า อยากฝากอะไรถึง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะที่กำกับดูแลส่วนที่เกี่ยวข้อง นางอังคณากล่าวว่า เราได้เห็นความพยายามของท่าน แต่หน่วยงานที่อยู่ใต้กำกับของกระทรวงอื่น รวมถึงนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้ให้การสนับสนุนส่งเสริมการพิสูจน์ความจริง และปล่อยให้ผู้ต้องหาหายไปได้ จึงเป็นคำถามที่ท้าทายอย่างมากว่าเราจะคืนความยุติธรรมให้ประชาชนอย่างไร


“อยากฝากถึงรัฐบาลว่า รัฐบาลต้องหยุดสร้างวาทกรรมที่โยนความผิดให้ผู้เสียหาย เราจะเห็นบางหน่วยงานรัฐพยายามพูดว่ากรณีของตากใบ เป็นการกระทำของขบวนการให้เกิดการชุมนุม แต่หลายฝ่ายกำลังตั้งคำถามว่า ใครจะรับผิดชอบการเสียชีวิตของผู้ชุมนุม ไม่ว่าเขาจะมาจากไหน มีความเชื่ออย่างไร บุคคลเหล่านั้นต้องไม่เสียชีวิตภายใต้การควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ นี่คือประเด็นสำคัญ” นางอังคณากล่าว



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง