'เจ๊นัท​' เปิดปากสารภาพฆ่า​นศ.แล้วเผาอำพรางศพ​

จากกรณีเหตุนักศึกษาชายมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกคนร้ายแทงเสียชีวิต ก่อนใช้ผ้าห่มพันร่างกายแล้วจุดไฟเผาอำพรางในห้องพักย่านประชาชื่น​ เหตุเกิดตั้งแต่วันที่​ 7/08/67​ ช่วงเวลา​ ( 14.18​ น.)​ 

ล่าสุดเช้านี้​ เวลา​ ( 09/08/67)​ 10.00 น.​ตำรวจควบคุมตัวนายณัฐวุฒิ หรือเจ๊นัท สวมหมวกกันน็อค ขึ้นไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงมูลเหตุที่เกิดเหตุ แต่ทางเจ๊นัทได้ปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามกับสื่อมวลชนแต่อย่างใด

โดยจุดแรกที่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ชี้คือบริเวณที่จอดรถจักรยานยนต์ที่อยู่บริเวณหน้าหอพัก และหน้ารถกระบะคันสีขาว ตามภาพจากกล้องวงจรปิดวันที่เกิดเหตุ​ ซึ่งวันนี้เจ๊นัดสวมเสื้อสีฟ้าใส่หมวกกันน็อคเต็มใบสีดำ เจ้าหน้าที่ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทำร้ายผู้ก่อเหตุ​ หลังจากนั้นได้พาผู้ก่อเหตุ ขึ้นไปชี้จุด ที่เกิดเหตุบริเวณชั้น 6​ ห้องพักของผู้ตาย

สำหรับผู้ก่อเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบจังหวัดนครสวรรค์​ สืบภูธรภาค 1​ และสืบ สภ.รัตนาธิเบศร์​ ร่วมกัน จับกุมตัวคนก่อเหตุนายณัฐวุฒิ หรือ เจ๊นัท อายุ 21 ปี ตามหมายจับในข้อหาฆ่าผู้อื่นได้แล้ว ที่บ้านเกิดใน อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ หลังก่อเหตุฆ่านายวิศว หรือ ซัน อายุ 22 ปี แล้วจุดไฟเผาอำพรางศพ ในหอพักแห่งหนึ่ง อ.เมืองนนทบุรี ก่อนนำตัวมาสอบปากคำที่สภ.นิคมบ่อเขาแก้วนาน จ.นครสวรรค์ โดยมีปู่กับย่า ผู้ก่อเหตุ นั่งร่วมรับฟังสอบปากคำด้วย

ผู้ก่อเหตุให้การว่า ก่อเหตุฆ่านายวิศวจริง สาเหตุโกรธแค้นมาจากเรื่องเงิน หลังจากลงมือฆ่านายวิศวเสียชีวิต แล้วนำโทรศัพท์มือถือผู้เสียชีวิตไปขายได้เงิน 7,000 บาท แล้วหลบหนีไปภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ ก่อนเดินทางมาหา ปู่กับย่าที่บ้านเกิด กระทั่งถูกจับกุม

ด้าน พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณผู้กำกับสภ.รัตนาธิเบศร์​เผยว่า​ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ซึ่งสอดคล้องกับพยานหลักฐานที่ตำรวจรวบรวมมา ครั้งก่อนก่อเหตุและหลังก่อเหตุ​ รายรับสารภาพว่าได้เอากองผ้านวมสูงบนร่างของ ผู้เสียชีวิตแล้วจุดไฟเผา​ ส่วนปมในการก่อเหตุ เป็นเรื่องเงิน ผู้ต้องหาเผยว่า มีปัญหาเรื่องเงินกับผู้ตายที่มีการหยิบยืมกันไปก่อนหน้านี้ โดยผู้ต้องหาได้มีการพูดคุยกับผู้ตาย​แล้วไม่ลงตัว​ เป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท และเปลี่ยนเป็น 5,000 บาท หลังจากนั้นมีเรื่องทะเลาะกัน​ เดี๋ยวผู้ต้องหารับสารภาพว่าได้ใช้มีดที่อยู่ภายในห้อง​ ก่อเหตุเสร็จได้ใช้มีดโยนลงบนกองไฟ​ แล้วหลบหนีหลังจากนั้นก็ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ขโมยมาหลบหนีไปที่สถานีรถไฟ​กรุงเทพฯ​ 

ผู้ต้องหายอมรับว่ารู้จักกับผู้ตายผ่านทาง facebook เมื่อต้นปีที่ผ่านมาและมีการติดต่อกันมาโดยตลอด แล้ววันที่เกิดเหตุคือวันที่นัดเจอกันครั้งแรก ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหา ไปขโมยรถจักรยานยนต์ของชาวบ้าน ผู้ก่อเหตุให้การว่า ผู้ตายได้นัดหมายมาที่ห้องพัก ผู้ก่อเหตุจึงเดินทางจากโรงแรม ย่านพญาไทมาที่สถานีรถไฟกรุงเทพฯ จากนั้นคิดว่าห้องพักของผู้ตายอยู่ใกล้จึงเดินทางมาจนถึงซอยชินเขตโดยดู Map มาเรื่อยๆ พอเห็นว่าเริ่มไกลแล้วเห็นว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าวพากุญแจไว้จึงได้ขับขี่มาที่หอพัก​ ส่วนทรัพย์สินที่ผู้ก่อเหตุ ขโมยไปเท่าที่รับสารภาพและมีโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง​ 

เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา 4 ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา วางเพลิงเผาทรัพย์ อำพรางศพ ลักทรัพย์ ส่วนลักษณะอาการของผู้ต้องหา​ เบื้องต้นมีอาการเครียด

ส่วนการหลบหนีหลังจากก่อเหตุผู้ต้องหาได้เดินทางไปที่จังหวัดเพชรบูรณ์ หลังจากนั้นถึงย้อนกลับมาที่จังหวัดนครสวรรค์ แต่ก่อนหน้าที่จะมาก่อเหตุผู้ต้องหาได้เดินทางไปเที่ยวที่เชียงใหม่ แล้วเดินทางกลับมาที่กรุงเทพฯวันที่ 5 เข้าพักที่โรงแรม แห่งหนึ่งย่านพญาไทแล้วเช็คเอาท์ออกมาจากนั้นก็เดินทางมาหาผู้ต้องหาในวันที่ 7 วันที่เกิดเหตุ

จากผลการชันสูตรศพ มีรอยบาดแผลจากการแทง มีควันไฟในปอด มีที่ใช้ในการก่อเหตุเป็นมีดที่อยู่ในห้องอยู่แล้ว หลังจากแทงแล้วก็โยนมีดในกองไฟ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

พบเบาะแส "ฆ่าหนุ่มนักศึกษา" ก่อนเผาอำพรางคดี

แม่เปิดโพสต์สุดท้ายก่อนลูกถูกฆ่าเผาอำพรางในหอพัก

สยอง! แทงหนุ่มนักศึกษาก่อนห่อผ้าจุดไฟเผาดับคาหอพัก