หนุ่มเมายา ถือมีดพร้าอาละวาด ฟัน รปภ.สถานีรถไฟอุดรฯ
หนุ่มเมายา ถือมีดพร้าอาละวาด ฟัน รปภ.สถานีรถไฟอุดรฯ
หนุ่มเมาถือมีดพร้าอาละวาด ฟัน รปภ.สถานีรถไฟอุดรฯ ตำรวจรวบตัว จับตรวจเจอฉี่ม่วง
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 21 กันยายน 2567 ขณะที่ ร.ต.อ.วิทยา ศิริเทพ รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังตำรวจสายตรวจ ออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง ว่ามีชายมีอาการมึนเมา ถือมีดอาละวาดอยู่ที่ชานชาลาสถานีรถไฟอุดรธานี ถนนประจักษ์ ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี สร้างความแตกตื่นตกใจให้กับประชาชน ขณะที่สายตรวจเขตงานหนองบัว กำลังเจรจากับหนุ่มเมารายนี้อยู่บนชานชลา จึงนำกำลังสายตรวจรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ เมื่อตำรวจสายตรวจไปถึง พบนายวิธวัช (สงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี รปภ.สถานีรถไฟอุดรธานี ยืนอยู่ที่ชานชาลา และชี้ให้จับกุมชายไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงขาสั้นสีแดง มีลักษณะมึนเมาสุราหรือสารเสพติดบางอย่าง ยืนอยู่รางรถไฟ พร้อมกับเล่าว่า ชายคนดังกล่าว ใช้มีดพร้าฟันที่หน้าอกตน ซึ่งก่อนเกิดเหตุ ขณะตนยืนอยู่ในชานชาลา เห็นชายมีอาการเมาเดินถือมีดเข้ามากับเพื่อน และพูดเสียงดังเอะอะโวยวาย ตนจึงเดินเข้าไปห้ามและให้ออกไปจากชานชาลา ชายเมาก็เดินออกไป
แต่ชายดังกล่าว ก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับมีดพร้า ตนก็เดินมาไล่ให้ออกไปตามอำนาจหน้าที่ จึงโดนชายเมาใช้มีดฟันที่หน้าอกตน 1 ครั้ง โชคดีที่มีดไม่คม อีกทั้งตนสวมเสื้อ 2 ชั้น จึงไม่ได้รับาดเจ็บ จากนั้นชายเมาก็เดินออกไปจากสถานีฯ ตนจึงแจ้งตำรวจมานำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากนั้น ตำรวจจึงเรียกชายคนดังกล่าวกลับมา ทราบชื่อนายจำลอง (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ XX หมู่ 15 ต.พันดอน อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ให้การสับสนและตาขวางด้วยอาการเมาว่า ตนมาทำงานรับจ้างทั่วไปในตัวเมืองอุดรธานี และมาอาศัยอยู่กับเพื่อน ตนเดินมาหาคู่อริที่อยู่แถวสถานีรถไฟ ที่ใช้มีดแทงแขนเพื่อนรุ่นพี่ของตน แต่กลับโดน รปภ.ไล่ออกจากสถานีรถไฟ จึงเดินกลับไปเอามีดพร้ากลับมา แต่ก็โดน รปภ.ไล่ตนกลับไปอีก และทำร้ายตนก่อน
ยอมรับว่าตนใช้มีดฟันหน้าอก รปภ. 1 ครั้ง แล้วจะเดินกลับบ้าน ถ้าตำรวจจับตน ก็จะแจ้งความดำเนินคดีกับ รปภ.เช่นเดียวกัน
ตำรวจจึงควบคุมตัวนายจำลอง ไปโรงพัก ตรวจปัสสาวะพบมีสารเสพติดในร่างกาย (ฉี่ม่วง) ซึ่งยอมรับว่าเสพยาบ้า 1 เม็ด จึงแจ้งข้อหา “เสพยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย , ประพฤติตนวุ่นวาย และ พกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้านและทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” คุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ข่าวที่คล้ายกัน :
