หนุ่มหลอนยาผูกคอเชือกขาด จุดไฟเผาบ้านแทน

วันที่ 24 สิงหาคม 2567 พ.ต.ท ปรีดา เจริญราช สารวัตร (สอบสวน) สภ.นาโพธิ์ รับแจ้ง เหตุเพลิงไหม้บ้านหลังหนึ่ง ที่หมู่บ้านหนองแวง ต.ดอนกอก อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ จึงประสานรถดับเพลิง อบต.ดอนกอก เข้าระงับเหตุ เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง พบไฟกำลังลุกไหม้บนชั้นสองของบ้านเจ้าหน้าที่เพลิงกับชาวบ้านช่วยกันดับไฟไว้ได้ทัน มีเพียงฝาบ้านได้รับความเสียหายไม่มากนัก กับที่นอนบนบ้านถูกไฟไหม้เสียหาย

ส่วนคนก่อเหตุ คือ นายประวิตร หรือ กบ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี เป็นลูกชายเจ้าของบ้าน ตำรวจนำตัวไปสอบสวน นายกบ เล่าว่า สาเหตุที่เผาบ้าน เพราะไม่พอใจหลายเรื่อง โดยเฉพาะรำคาญพ่อที่ปลุกตอนเช้าทุกวัน

ด้านนายบัวลา (สงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี เจ้าของบ้านซึ่งเป็นพ่อของผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ตนนอนอยู่ชั้นล่าง ส่วนลูกชายนอนอยู่ชั้นบน ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 08.30 น. ตนเห็นว่าสายแล้ว จึงตะโกนเรียกลูกชายให้ลงมากินข้าว แต่ไม่มีเสียงตอบรับ จึงตะโกนพร้อมกับบอกไปว่า "ทำไมต้องให้พ่อตื่นก่อน"

จากนั้นไม่นาน ได้ยินเสียงดัง "ตึ้ง" เหมือนกับมีสิ่งของล้มลงอยู่บนบ้าน แต่ไม่ได้สนใจ สักพักมีเพื่อนบ้านตะโกนบอกว่าไฟไหม้บ้าน ก่อนจะให้ชาวบ้านมาช่วยดับไฟ แล้วเรียกรถดับเพลิงมาช่วย โชคดีไฟไม่ได้ไหม้บ้านทั้งหลัง คาดว่า ลูกชายน่าจะผูกคอตัวเอง เพราะเห็นเก้าอี้กับเชือกผูกอยู่ แต่เชือกอาจจะขาด จึงหันไปเผาบ้านแทน

นายบัวลา ระบุด้วยว่า ลูกชายเคยติดคุกมาแล้ว เพราะไปทุบรถเพื่อนบ้าน หลังจากออกมา ก็มีพฤติกรรมเสพยาเสพติดเคยสอนหลายครั้งแล้วแต่ไม่สนใจ เคยนำตัวไปบำบัดแล้ว กลับมาก็เสพยาฯเหมือนเดิม ยอมรับว่าลูกชายสติไม่ค่อยดีแล้วเพราะยาบ้า เคยทำร้ายตนมาแล้วด้วย ซึ่งตอนนี้ ตนทนไม่ไหวแล้ว จะถอนชื่อออกจากทะเบียนบ้าน แล้วให้ไปอยู่อื่น จะไปไหนก็แล้วแต่ ย้ำว่า ที่นี่ไม่รับแล้ว เพราะไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะก่อเหตุอะไรอีก

ขณะที่ นางคนึง (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี เพื่อนบ้าน ให้ข้อมูลว่า ได้ยินเสียงพ่อของผู้ก่อเหตุตะโกนเรียกหลายครั้ง จากนั้นได้ยินเสียงดัง ไม่นานก็เห็นควันไฟ จึงเรียกเจ้าของบ้านให้ไปดับไฟ

ส่วนสาเหตุ น่าจะมาจากการเสพยาจนหลอน เพราะนายกบ เคยติดยาบ้างอมแงม ถึงขั้นไปขุดแมลงจิดโป่ม (จิ้งโกร่ง) ไปขายได้วันละ 70-80 บาท แล้วเอาไปซื้อยาบ้า บางครั้งเอาจิดโป่มไปแลกยาบ้ามาเสพ

สำหรับทางด้านคดี ตำรวจได้ควบคุมตัวนายกบ ไปสอบสวนที่ สภ.นาโพธิ์ แต่ยังไม่ได้ตั้งข้อหา ซึ่งจะรอการพิสูจน์หลักฐาน หรือความประสงค์ของเจ้าของบ้านก่อน จึงจะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป