'ทนายตั้ม-เอกภพ' เผยรอดูเทวดาตัวจริงผู้เป็นอาจารย์ของ 'บอสพอล'

'ทนายตั้ม-เอกภพ' เผยรอดูเทวดาตัวจริงผู้เป็นอาจารย์ของ 'บอสพอล'

71316 ต.ค. 67 11:57   |     AdminNews

ทนายตั้ม-เอกภพ สายไหมต้องรอด พาพยานสำคัญพบอธิบดีดีเอสไอเพื่อให้ข้อมูลหลังจากมีกรณี 'เทวดา' รับเครื่องเซ่นไหว้ เผยเทวดาตัวจริงใหญ่กว่ารัฐมนตรี

16 ต.ค.67 จากกรณีข่าวสะเทือนแวดวงธุรกิจขายสินค้าออนไลน์ที่เกี่ยวกับเรื่องราวของธุรกิจอย่าง “บริษัทดิไอคอน กรุ๊ป” (The iCon Group) ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพและความงาม ซึ่งต่อมามีผู้เสียหายร้องเรียกว่า ถูกหลอกให้ร่วมลงทุน และสูญเสียเงินมูลค่ากว่าหลักแสนและหลักล้าน


ต่อมาทาง “บอสพอล-วรัตน์พล วรัทย์วรกุล” ได้เข้าไปให้ปากคำกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เป็นที่เรียบร้อย ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ นั้น 


ล่าสุดวันที่ 16 ต.ค. 67 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า


จริงๆ แล้วกุนซือของบอสพอล หรือ บอสคนสุดท้าย เคยพยายามโทรและนัดพบผมมาหลายครั้ง ในหลายปีแล้ว ทั้งชวนเล่นการเมือง ทั้งชวนทำธุรกิจ ผ่านนักข่าวคนหนึ่ง แต่ผมไม่เคยสนใจ จนเมื่อวานสายลับได้พูดถึงในรายการถกไม่เถียง ทำให้ผมนึกย้อนมาได้ว่า บอสคนสุดท้าย ผู้เป็นอาจารย์ของบอสพอล และปรามาจารย์ของธุรกิจขายตรงแบบเครือข่าย คือ “บอส ธ” ผู้เป็นเจ้าของวลี #ขยันถูกที่ปีเดียวรวย 

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน พร้อมด้วย นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้พาพยานสำคัญที่รู้เห็นการจ่ายสินบนให้แก่เจ้าหน้าที่ DSI ระดับสูง เข้าพบนายยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้ข้อมูลลับ

นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ช่วงที่เทวดาเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทดิไอคอน คือช่วงปี 2563 เทวดาได้มีการฝากฝัง “บุคคลคนหนึ่ง” ให้เข้ามาอยู่ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยให้มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบหน่วยงานที่เกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่โดยตรง ซึ่งเรื่องนี้มีมูลความจริงในปีนั้นมีการฝาก และระบุเฉพาะเจาะจงว่า จะต้องเป็นเจ้าหน้าที่คนนี้มาดูแลหน้าที่ตรงนี้


ซึ่งคอยดูแลคุ้มครองเกี่ยวกับเรื่องแชร์ลูกโซ่โดยตรงโดยจะมีการนำเครื่องเซ่นไหว้มาถวายให้ ซึ่งสายลับ อาจจะเคยเป็นผู้ประสานเพื่อที่จะนำเครื่องเซ่นไหว้มาให้กับเทวดาที่ดีเอสไอ เพราะว่าสายลับคนดังกล่าวรู้เบื้องลึกเบื้องหลังรู้ขั้นตอนรวมถึงรู้ว่าจะต้องไปเบิกเงินถอนเงินเป็นนามสกุลอะไร พร้อมบอกว่าเทวดาที่ดีเอสไอเป็นระดับผู้บริหารแน่นอนว่าจะต้องมีลูกน้องที่ตามมาอยู่ด้วย 


เมื่อถามว่าบุคคลที่อยู่ในคลิปเสียงที่มีการหลุดออกมานั้นจะเชื่อมโยงกับเทวดาหรือไม่ นายเอกภพ ระบุว่า บุคคลในคลิปเสียงเป็นเพียงแค่ลูกกรอกของเทวดาไม่ใช่เทวดาตัวจริง ถ้ามีการเปิดเผยตัวจริงของเทวดาออกมาหลายคนน่าจะตกใจ


เมื่อถามว่า เป็นระดับรัฐมนตรีหรือไม่ นายเอกภพบอกว่า รัฐมนตรีอาจจะเป็นลูกน้องก็ได้ ข้าราชการที่หน่วยงานนี้รู้แก่ใจว่า เทวดาฝากมาจริงไหม แต่อธิบดี กรมสอบสวนคดีพิเศษคนปัจจุบันยังไม่รู้เรื่อง เนื่องจากเป็นรองอธิบดีและอยู่ที่กรมอื่น โดยที่จะต้องให้ความเป็นธรรมกับท่านอธิบดีคนปัจจุบันด้วย


และที่สายลับบอกว่ามี การเซ่นไหว้ให้ 4 หน่วยงานเมื่อวานที่ปรากฏมานี้ ถ้ารู้ว่าใครเป็นหน้าเสือในการดูแลทุกคนจะต้องตกใจ แล้วตนเองกับทนายตั้มยืนยันว่าจะเดินทางยื่นหนังสือกับอีก 3 หน่วยงานที่ถูกกล่าวอ้างว่ารับเครื่องเซ่นไหว้ ถ้าหากไปแล้วไม่มีใครออกมารับหนังสือก็จะฝากหนังสือไว้กับศาลพระภูมิหรือรปภ.


และที่ก่อนหน้านี้บอสพอลออกมาพูดว่า ไม่รู้ว่าตนเองกำลังสู้อยู่กับอะไร นายเอกภพ ระบุว่า บอสพอลอาจจะสู้อยู่กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์คลิปที่หลุดออกมาอาจจะเป็นการพยายามสื่อไปถึงเทวดาว่า จะต้องปกป้องคุ้มครองบอสพอล เพราะถ้าหากไม่ปกป้องบอสพอลก็จะพาทุกคนไปตายด้วยกันทั้งหมด จึงอยากเรียกร้องให้บอสพอลออกมาเปิดเผยข้อมูลหากกลัวตายก็ให้ประสานมาที่นายเอกภพหรือทนายตั้มยืนยันว่าก็จะปลอดภัยส่วนทรัพย์สินต่างๆให้นำไปขายคืนกับผู้เสียหาย


ด้านทนายตั้ม ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวละคร “ธ” ในวันนี้ไม่อยากที่จะเปิดเผยข้อมูล เนื่องจากกลัวเจ้าตัวจะไหวตัวทัน แต่ได้บอกว่า บุคคลคนนี้เป็นเหมือนเกจิอาจารย์ของบอสพอล เคยติดต่อมาหาทนายตั้มตั้งแต่ปี 61 ก็ได้มีการติดต่อมาหาทนายตั้มไปทำธุรกิจร่วมลงทุน แต่ทนายตั้มได้ปฏิเสธไปและมั่นใจว่าไม่เคยเจอแต่น่าจะเคยคุยโทรศัพท์และเชื่อว่าบุคคลดังกล่าวตนรู้จักเป็นอย่างดี


ส่วนกรณีที่ “ธ” ได้มีการออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจของบอสพอล ทนายตั้มย้ำว่าพรุ่งนี้ก็จะได้รู้ เพราะจะงัดหลักฐานเด็ดมาให้ได้ดูกัน


ภายหลัง ทนายตั้ม และ นายเอกภพ เข้าพูดคุยกับอธิบดี DSI ก็ได้มีการ ออกมาให้สัมภาษณ์อีกครั้ง โดยระบุว่า หลัวพูดคุยกับ ทางอธิบดี DSI ก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น และท่านก็ได้รับหนังสือเรียบร้อยแล้ว


เบื้องต้นได้มีการพูดคุยและให้ข้อมูล ซึ่งท่านอธิบดีระบุว่า เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก และหากมีการตรวจสอบแล้วพบว่า ใครมีส่วนเกี่ยวข้อง หรือรู้เห็นข้อมูลเกี่ยวกับ The icon จะดำเนินการสั่งย้ายทันที และช่วงบ่ายนี้เชื่อว่า ทาง DSI จะเริ่มปฏิบัติงานทันที

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง