ทนายเดชา ย้ำ ทนายตั้ม ไม่คืนเงิน 71 ล้าน ยันพี่อ้อยให้ด้วยความพิศวาส ด้าน ทนายรณรงค์ ปัดตบทรัพย์ร่วมทนายตั้ม แนะให้ทนายตั้มมีสติ

ทนายเดชา ย้ำ ทนายตั้ม ไม่คืนเงิน 71 ล้าน ยันพี่อ้อยให้ด้วยความพิศวาส ด้าน ทนายรณรงค์ ปัดตบทรัพย์ร่วมทนายตั้ม แนะให้ทนายตั้มมีสติ

27131 ต.ค. 67 16:42   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

ทนายเดชา ย้ำ ทนายตั้ม ไม่คืนเงิน 71 ล้าน ยันพี่อ้อยให้ด้วยความพิศวาส ด้าน ทนายรณรงค์ ปัดตบทรัพย์ร่วมทนายตั้ม แนะให้ทนายตั้มนึกคิดบ้าง คิดจะพูด คิดจะทำอะไรก็อยากให้มีสติ

(31 ต.ค.2567) ที่อาคารมาลีนนท์ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ และนายรณณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวถึงกรณีที่นาย ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ถูก น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย แจ้งความดำเนินคดี ในข้อหาฉ้อโกงเงิน 71 ล้านบาทนั้น ว่า จากการพูดคุยกับ “ทนายตั้ม” เบื้องต้น ทาง”ทนายตั้ม” ยังคงยืนยันว่า เขาไม่ได้เป็นคนผิด เป็นการให้เงินโดยเสน่หา จะไม่มีการคืนเงินใด ๆ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างเตรียมทนายสู้คดี พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้มีการฉ้อโกงแต่อย่างใด และหากมีหมายเรียกจากทางเจ้าที่ตำรวจมาทาง”ทนายตั้ม” ก็ยินดีที่จะเข้าพบทันที  


ในส่วนการแนวทางต่อสู้คดีของ “ทนายตั้ม” นั้น ตนไม่ได้มีการแนะนำอะไร เพราะทาง “ทนายตั้ม” ก็มีการแต่งตั้งทีมทนายอยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับพวกตน หากถามในมุมมองของทนายความเกี่ยวกับเรื่องคดีนั้น ทาง “ทนายตั้ม”เองก็ยืนยันว่า มีหลักฐานที่จะสามารถพิสูจน์ได้ว่าเจ๊อ้อยให้เงินด้วยความเสน่หา ซึ่งก็ต้องรอศาลตัดสินว่า ใครผิดใครถูก โดยในตอนนี้ต่างคนก็ต่างพูดกันไป ซึ่งพวกตนไม่ขอเข้าไปเกี่ยวข้องในการให้คำแนะนำอะไร



ในส่วนประเด็นกรุ๊ปไลน์กลุ่มของทนายความที่มี “ทนายตั้ม”เข้ามามีส่วนร่วมด้วยนั้น ตนมองว่า ก็มีผลกระทบเล็กน้อย เพราะทุกคนถูกมองว่า มีการวางแผนร่วมกับ “ทนายตั้ม” ซึ่งตนยืนยันว่า นอกจาก “ทนายตั้ม” ไม่มีใครเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีใครได้ส่วนแบ่งอะไร


ในส่วนประเด็นที่มีกระแสข่าวว่ากลุ่มทนายจะมีการรวมตัวไปร้องสภาทนายความให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบมารยาทของ “ทนายตั้ม” นั้น ตนไม่ขอแสดงความเห็นแต่อย่างใด ใครอยากจะทำอะไรก็ให้เขาทำไป อีกทั้ง “ทนายตั้ม” ก็ไม่ค่อยมีการมาว่าความที่ศาลเท่าไร ตนจึงมองว่ามันไม่ได้สำคัญอะไร ส่วนตัวตนอยากจะฝากถึงนายกสภาทนายความที่จะมีการลงโทษจริยธรรมของ “ทนายตั้ม” ในคดีที่ถูกกล่าวหาว่า โกงเงินลูกความ นั้น มันต้องมีคำพิพากษาให้ถึงที่สุดก่อน เพราะทนายความที่ไปโกงเงินลูกความไม่ได้มีแค่รายเดียว อีกทั้ง ยังไม่มีการส่งฟ้อง ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา จะไปถอดใบอนุญาติทนายความของ “ทนายตั้ม” ได้อย่างไร


ทนายเดชา เผยต่อว่า จากกรณีที่เมื่อวานนี้ทางทนายความของ “บอสพอล” ได้มีการสัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า มีทีมทนายในการมีการเตรียมกับผู้เสียหายในการให้ปากคำกับทางเจ้าที่ตำรวจนั้น ทนายเดชา เผยว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ตนไม่เคยทำ ตนทำเพียงแต่หนังสือร้องทุกข์ฉบับเดียว และให้ผู้เสียหายเพียงแค่คนเดียว แล้วก็ไปแจ้งความ ซึ่งสามารถถามเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนได้เลย เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทนายความของ “บอสพอล” พูดนั้น เป็นการบิดเบือน ไม่ถูกต้อง และคลิปเสียงที่มีคนคุยกันนั้น เป็นการสร้างหลักฐานเท็จ ซึ่งถ้าหากทางทนายความของ “บอสพอล” มีหลักฐานก็สามารถนำมาเปิดเผยได้เลย 


ในส่วนประเด็น “ทนายความของบอสมิ้น” ที่มีการยื่นคำร้องให้สภาทนายความตรวจสอบมรรยาทของทนายความที่ออกมาแสดงความคิดเห็นประเด็นนี้ นั้น ตนมองว่า คดีนี้ผู้ต้องหาไม่ได้ใหญ่โตขนาดนั้น แม้กระทั่งนายกสภาทนายความก็ไม่ได้มีหน้าที่มาตัดสินว่า มีหน้าที่บริหารสภาทนายความ ส่วนการจะตรวจสอบพฤติกรรมของทนายความว่าผิดมรรยาทนั้น ก็เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบมรรยาท 


ในส่วนประเด็นของทางนายรณณรงค์ที่ถูกกระแสสังคมมองว่า เข้าไปมีส่วนร่วมในการตบทรัพย์ร่วมกับ”ทนายตั้ม” นั้น ตนยืนยันว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ถึงแม้ตนจะเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับ ”ทนายตั้ม” ก็ตาม อีกทั้งก็ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่า มีเจ้าทุกข์เข้าไปแจ้งความ 


ในส่วนประเด็นที่ตนออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก ตัดพ้อก่อนหน้านี้นั้น ตนมองว่า ตนเหมือนเป็นคนโง่ ที่ผ่านมาตนไม่ได้ทำงานคนเดียว ตนมีลูกน้องหลายคน และทำงานด้วยจิตอาสา ซึ่งที่ผ่านมาตนทำงานแล้วความศรัทธา ไม่ได้ทำงานเพียงแค่ปาก  


จากกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ออกมาชี้แจงในประเด็นที่ “ทนายตั้ม” เคยถูกตั้งข้อหาพรากผู้เยาว์นั้น ตนไม่ทราบข้อมูลต้องไปถามกับเจ้าตัว ซึ่งพวกตนก็ไม่ใช่คนที่ชอบกระทืบใครซ้ำ 


ในส่วนประเด็น “ทนายความของบอสมิ้น” ที่มีการยื่นคำร้องให้สภาทนายความตรวจสอบมรรยาท ของทนายความที่มีอักษรย่อที่คล้ายชื่อตนนั้น ตนอยากถามว่า ทนายความคนดังกล่าวนั้น คือใครให้เขาพูดชื่อออกมา ไม่ใช่มาพูดลอยๆ ถ้าอยากจะต่อสู้คดีกันก็สู้ให้มันยุติธรรม ทั้งนี้ พวกตนอยากให้ “ทนายตั้ม” มีสติในการนึกคิดบ้าง คิดจะพูด คิดจะทำอะไรก็อยากให้มีสติ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง