“ทนายบอสพอล” เข้าให้การว่าบุคคลในคลิปเสียงหมายถึงใคร

“ทนายบอสพอล” เข้าให้การว่าบุคคลในคลิปเสียงหมายถึงใคร

49801 พ.ย. 67 12:06   |     AdminNews

“ทนายบอสพอล” ให้การเพิ่มกรณีคลิปเสียงนักร้องสาว ก.ไก่ ด้าน 'โค้ชแล็ป' ยันไม่มีการเรียกรับเงิน 9 ล้านจากตำรวจ ชี้ยังไม่แน่ใจจะมีการยื่นประกันตัว

เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 1 พ.ย.67 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล เดินทางเข้าให้การเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน เกี่ยวกับกรณีไฟล์เสียง ของนักร้อง ก.ไก่ ที่ได้ยื่นหลักฐานให้พนักงานสอบสวนไปแล้วก่อนหน้านี้ 


นายวิฑูรย์ เปิดเผยว่า วันนี้มาดำเนินการเกี่ยวกับนักร้องสาวให้เสร็จสิ้น หลังจากที่ค้างคามานาน โดยวันนี้เป็นการเดินทางมาให้การเพิ่มเติม หลังจากที่ส่งคลิปเสียงให้กับทางเจ้าหน้าที่ไปแล้ว โดยในวันนี้ตนจะให้การตามไฟล์เสียงว่าบุคคลในคลิปเสียงหมายถึงใคร และเข้าข้อหาอะไร ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยจะต้องไปถามบอสพอล กับน.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร หรือบอสปัน ในเรือนจำ ซึ่งหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าไปสอบพยานในเรือนจำต่อ


โดยในวันนี้คาดว่ามีทีมทนายอีกชุดหนึ่งที่ได้รับมอบอำนาจ จะเข้าแจ้งความเอาผิดนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ในข้อหาพ.ร.บ.คอม เนื่องจากนายเอกภพมีการโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก และพยานเท็จที่นำมาให้การกับตำรวจในข้อหาหมิ่นประมาท ซึ่งขณะนี้ตนเองทราบชื่อของพยานที่นายเอกภพพามาแล้ว โดยเป็นการสืบหาเอง ไม่ได้รู้จักพยานเท็จคนดังกล่าวแต่อย่างใด และพบว่าไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป ส่วนจะเกี่ยวข้องอย่างไรกับนายเอกภพหรือไม่นั้น ตนเองไม่ทราบ 


ในส่วนที่แม่ของบอสพอลเป็นผู้ถือหุ้นในดิไอคอน กรุ๊ป แต่ไม่โดนคดีอะไรนั้น นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวเป็นคนละเรื่องกัน เป็นเพียงคนถือหุ้น ไม่มีความผิด 


ส่วนกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานมูลนิธิชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม อ้างว่ามีตำรวจกองปราบเรียกรับเงินจำนวน 9 ล้านบาท จากนายจิระวัฒน์ แสงภักดี หรือโค้ชแล็ปนั้น ไม่เป็นความจริง เนื่องจากตนได้ถามโค้ชแล็ปแล้ว ยืนยันว่าไม่มีตำรวจคนใดมาเรียกรับผลประโยชน์ รวมถึงทนายความและภรรยาของโค้ชแล็ปก็ยืนยันว่าไม่เป็นความจริงด้วยเช่นกัน และขออย่าให้ไปพูดแบบนั้นเพราะทางตำรวจจะเสียหาย


ทั้งนี้ในสัปดาห์หน้าตนยังไม่แน่ใจที่จะทำการยื่นประกันตัวกลุ่มบอสของดิไอคอน ส่วนกรณีที่เพจเฟซบุ๊กของดิไอคอนกรุ๊ป โพสต์ว่า จะปิดตึกใหญ่ในโครงการนั้น นายวิฑูรย์ ระบุว่า จริง โดยเป็นการปิดตึกสำนักงานใหญ่ ให้ไปใช้พื้นที่ของไอคอน เฮ้าส์ คาเฟ่แทน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย เช่น ค่าไฟ เนื่องจากขณะนี้บัญชีของบริษัทถูกอายัดและอยู่ในกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งส่วนตัวก็ยังกังวลเรื่องการจ่ายเงินให้กับผู้ที่ร่วมทำธุรกิจเช่นกัน โดยยืนยันว่าการปิดสำนักงานใหญ่ไม่กระทบกับการดำเนินกิจการ ขณะนี้โรงงานยังคงผลิตสินค้าเพื่อส่งให้ลูกค้าตามออเดอร์ และเชื่อว่าไม่ได้กระทบภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือของบริษัท


ส่วนผู้เสียหายที่จะเข้ามาลงทะเบียนขอรับการเยียวยากับบริษัทนั้น นายวิฑูรย์ ระบุว่า ขณะนี้ขอปิดการลงทะเบียนชั่วคราว เพื่อตรวจสอบก่อนว่ารายชื่อที่ลงมาเบียน ใครบ้างที่เป็นผู้เสียหายที่แท้จริง เพื่อตรวจสอบก่อนว่ารายชื่อที่ลงมาเบียน ใครบ้างที่เป็นผู้เสียหายที่แท้จริง

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง