ถูกหลอกออนไลน์ทำแบบนี้ มีโอกาสได้เงินคืน!

(เรียบเรียงโดย อพัชชา ทองสนิท)

การถูกหลอกลวงจากมิจฉาชีพผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ นับวันยิ่งเป็นปัญหาที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ของสังคมไทย หลายคนต้องเสียทั้งเงิน เสียทั้งสุขภาพจิต รวมถึงต้องลุ้นว่าจะได้รับเงินคืนหรือไม่ เพราะหากชักช้า เงินอาจถูกผ่องถ่ายออกจากบัญชีม้าไปก่อนแล้ว

วันนี้ ข่าวเวิร์คพอยท์23 นำข้อมูลดีๆ มาฝากผู้อ่านทุกท่าน ถึงแนวทางการรับมือหลังถูกหลอก ว่าจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้เรามีโอกาสได้เงินคืนมากที่สุด

ตั้งสติให้มั่น แจ้งอายัดบัญชีทันที

ปกติแล้วคนที่ถูกหลอกมักจะตกใจ ทำอะไรไม่ถูก จนทำให้พลาดช่วงเวลาสำคัญที่จะอายัดบัญชีธนาคารปลายทางที่เราโอนเงินไป ก่อนที่มิจฉาชีพจะทันโยกเงินไปยังบัญชีอื่นๆ หากคุณถูกหลอก ขอให้ตั้งสติไว้ แล้วโทรหาคอลเซ็นเตอร์ของธนาคาร(ด้วยการกดตัวเลขเองเท่านั้น) เพื่อขออายัดบัญชีปลายทางได้ทันที

หมายเลขคอลเซ็นเตอร์แจ้งอายัดบัญชีธนาคาร

• ธนาคารกสิกรไทย : 0-2888-8888 กด 1
• ธนาคารกรุงไทย : 0-2111-1111 กด 108
• ธนาคารกรุงศรีอยุธยา : 1572 กด 5 
• ธนาคารกรุงเทพ : 1333 หรือ 0-2645-5555 กด * 3
• ธนาคารไทยพาณิชย์ : 0-2777-7575
• ธนาคารทหารไทยธนชาต : 1428 กด 03
• ธนาคารออมสิน : 1115 กด 6
• ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย : 0-2626-7777 กด 00
• ธนาคารไทยเครดิต : 0-2697-5454
• ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ : 0-2459-0000 กด 8
• ธนาคารอาคารสงเคราะห์ : 0-2645-9000 กด 33
• ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร : 0-2555-0555 กด *3
• ธนาคารยูโอบี : 0-2344-9555
• ธนาคารซิตี้แบงค์ : 0-2344-9555
• ธนาคารเกียรตินาคินภัทร : 0-2165-5555 กด 6
• ธนาคารทิสโก้ : 0-2633-6000 กด * 7

รีบแจ้งความภายใน 72 ชั่วโมง

หลังแจ้งอายัดบัญชีปลายทางแล้ว ทางธนาคารจะระงับธุรกรรมของบัญชีดังกล่าวเป็นการชั่วคราว 7 วัน แต่คุณต้องรีบไปดำเนินการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภายใน 72 ชั่วโมง หากเกินกำหนด 72 ชั่วโมงแล้วยังไม่มีการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ธนาคารสามารถปลดอายัดบัญชีดังกล่าวได้ เพื่อป้องกันการแจ้งอายัดเพื่อกลั่นแกล้งกัน

สำหรับการแจ้งความ สามารถทำได้ 2 ช่องทาง คือ

1. แจ้งความที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน: สามารถรวบรวมหลักฐานการถูกหลอกลวง ทั้งข้อความแชต สลิปโอนเงิน และอื่นๆ เข้าแจ้งความไปที่สถานีตำรวจได้เลย มีขั้นตอนดังนี้

1. พนักงานสอบสวนรับคำร้องทุกข์ไว้ และจะสอบถามเจ้าทุกข์ว่าแจ้งอายัดบัญชีกับธนาคารหรือยัง หากยังให้ดำเนินการแจ้งให้เรียบร้อย
2. หากเจ้าทุกข์แจ้งอายัดบัญชีแล้วพนักงานสอบสวนจะรับคำร้องทุกข์และแจ้งธนาคาร (ผ่านระบบระหว่างตำรวจ-ธนาคาร) และดำเนินการเกี่ยวกับบัญชีดังกล่าวภายใน 7 วัน
3. พนักงานสอบสวนจะสอบและบันทึกปากคำของเจ้าทุกข์ ลงข้อมูลในระบบรับแจ้งความเพื่อออกเลข Case ID (ไม่ใช่เอกสารแจ้งความ หรือ บันทึกประจำวันอิเล็กทรอนิกส์) และออกเอกสารลงลายมือชื่อผู้รับแจ้งความ มอบให้เจ้าทุกข์เป็นหลักฐานการรับคำร้อง
4. พนักงานสอบสวนแจ้งธนาคารเพื่ออายัดบัญชีที่รับแจ้งไว้ผ่านระบบของตำรวจ-ธนาคาร จากนั้นจะมีการดำเนินการอายัดบัญชีและดำเนินคดี ติดตามตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษต่อไป

2. แจ้งความออนไลน์-แจ้งผ่านสายด่วน: หากไม่สะดวกเดินทางออกไปสถานีตำรวจในทันที สามารถดำเนินการแจ้งความเบื้องต้นผ่าน สายด่วน 1441 หรือเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th หรือ www.thaipoliceonline.com โดย

1. จะต้องเลือกหน่วยงานที่ต้องการไปพบพนักงานสอบสวนซึ่งมี 3 แห่ง ได้แก่ สถานีตำรวจ, กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.), หรือกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บก.ปอท.)
2. รอการติดต่อกลับจากพนักงานสอบสวน โดยหลังจากที่แจ้งความผ่านระบบไปแล้วจะมี “แอดมินตำรวจ” ทำหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลในระบบตลอด 24 ชม. เมื่อมีคดีในระบบต้องพิจารณาว่าเป็นคดี 1 ใน 14 คดีออนไลน์ตาม พ.ร.ก. หรือไม่ และคดีที่สถานีตำรวจ แยกประเภทคดีเพื่อส่งต่อไปยังหน่วยที่รับผิดชอบ 
3. พนักงานสอบสวนติดต่อกลับทางโทรศัพท์เพื่อแนะนำเรื่องการแจ้งอายัดบัญชีปลายทาง พร้อมทั้งดำเนินการประสานธนาคารหลังเจ้าทุกข์แจ้งอายัดบัญชี
4. พนักงานสอบสวนนัดหมายเจ้าทุกข์มาบันทึกปากคำภายใน 7 วัน พร้อมลงข้อมูลในระบบรับแจ้งความเพื่อออกเลข Case ID (ไม่ใช่เอกสารแจ้งความ หรือ บันทึกประจำวันอิเล็กทรอนิกส์) และออกเอกสารลงลายมือชื่อผู้รับแจ้งความ มอบให้เจ้าทุกข์เป็นหลักฐานการรับคำร้อง
5. พนักงานสอบสวนแจ้งธนาคารเพื่ออายัดบัญชีที่รับแจ้งไว้ผ่านระบบของตำรวจ-ธนาคาร จากนั้นจะมีการดำเนินการอายัดบัญชีและดำเนินคดี ติดตามตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษต่อไป

ขั้นตอนการแจ้งความผ่านเว็บไซต์

1. เข้าเว็บไซต์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ www.thaipoliceonline.go.th หรือ www.thaipoliceonline.com
2. คลิก ‘แจ้งความออนไลน์’
3. ในกรณีเคยสมัครแล้ว สามารถพิมพ์อีเมล และรหัสผ่านที่ใช้สมัครเพื่อเข้าสู่ระบบ
4. ในกรณีไม่เคยสมัคร ให้กดลงทะเบียนเพื่อสมัครใช้งานระบบแจ้งความออนไลน์ก่อน
5. เลือก ‘แจ้งเรื่องใหม่’
6. อ่านข้อความยินยอม เลือก ‘ยอมรับ’
7. ตอบคำถามก่อนการแจ้งความให้ครบถ้วน 
8. เมื่อแจ้งอายัดบัญชีเรียบร้อยแล้ว ให้กรอกรหัสอ้างอิงธนาคารที่ได้รับ เลือก ‘ถัดไป’
9. กรอกข้อมูลส่วนตัวผู้เสียหาย เลือก ‘ถัดไป’
10. กรอกรายละเอียดของการเกิดเหตุโดยย่อ เลือก ‘ถัดไป’
11. กรอกรายละเอียดบัญชีต้นทาง และบัญชีปลายทาง เลือก ‘ถัดไป’
12. กรอกข้อมูลเกี่ยวกับคนร้ายคร่าวๆ เลือก ‘เพิ่มรายการ’ และเลือก ‘ถัดไป’
13. แนบไฟล์เอกสาร หลักฐานต่างๆ เพิ่มเติม เลือก ‘เพิ่มรายการ’ และเลือก ‘ถัดไป’
14. เลือกข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดที่เกิดขึ้น เลือก ‘ถัดไป’
15. ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล เลือก ‘ยืนยัน’
16. การแจ้งความออนไลน์โดนหลอกโอนเงินเป็นอันสำเร็จ

สำหรับขั้นตอนการแจ้งความผ่านเว็บไซต์หรือสายด่วน สามารถปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) โทร 1441 และ 081-866-3000 (ตลอด 24 ชั่วโมง)

ทำตามขั้นตอนนี้แล้วจะได้เงินคืนเมื่อไหร่?

ไม่สามารถการันตีได้ว่าหากทำตามขั้นตอนที่ว่ามาข้างต้นจะสามารถได้รับเงินคืนได้เมื่อไหร่ และจะได้รับเงินคืนมากน้อยเท่าใด เพราะการจะได้รับเงินคืนนั้นจะขึ้นอยู่ที่มิจฉาชีพมีการถอนหรือโอนเงินออกจากบัญชีไปแล้วเท่าไหร่ และมีเงินคงค้างอยู่ในบัญชีดังกล่าวเท่าไหร่ แต่หากดำเนินการขั้นตอนของการอายัดบัญชีได้เร็ว ก็จะยิ่งมีโอกาสที่จะได้รับเงินส่วนที่ยังคงค้างอยู่ในบัญชีสูงขึ้นเท่านั้น