รวบแล้วสาวทอมป่วยจิตเวช ขโมยรถป้ายแดงกลางห้างดัง

กรณีสาวทอมก่อเหตุขโมยรถยนต์ฮอนด้า HRV ป้ายแดง กลางห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านรัชดา จนทำให้ผู้เห็นเหตุการณ์ และ รปภ. พยายามสกัดกั้นรถคันดังกล่าว แต่คนร้ายได้ขับรถยนต์ของผู้เสียหายไล่ชนรั้วเหล็กและสิ่งกีดขวางขับหนีออกไป กระทั่ง ตำรวจใช้เวลาไล่ล่าและติดตามนานกว่า 8 ชั่วโมง จนสามารถจับกุมคนร้ายได้ที่ ซอยนาคนิวาส 16 เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ระทึก! คนร้ายลักรถป้ายแดงกลางห้างกลางวันแสกๆ

ล่าสุดวันนี้ (3 ตุลาคม 2567) คุณเนย ณัฏฐ์ชนิตว์ ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ พูดคุยกับ นางสาวเมย์ (นามสมมติ) อายุ 26 ปี ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเจ้าของรถที่ถูกสาวทอมขโมย เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (2 ตุลาคม 2567) เวลาประมาณ 14.00 น. ตนเองและแฟนขับรถไปทำธุระที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านรัชดา (เดอะสตรีท รัชดา) ขณะที่ไปได้พาแมว ชื่อ “มอตี้” เพศผู้ วัย 2 ปี ขึ้นรถไปด้วย ซึ่งเป็นปกติ เพราะที่ผ่านมาก็จะพาแมวออกไปด้วยตลอด ขณะที่ไปถึงห้าง ตนเองจอดรถยนต์ฮอนด้า HRV สีดำ ไว้บริเวณที่จอดด้านหน้าห้าง ใกล้เคียงกับร้านกาแฟที่ตนเองและแฟนลงไปทำธุระ โดยได้สตาร์ทรถไว้ เพราะแมวอยู่ในรถ 

ผ่านไปไม่นาน ตนเองกำลังเดินกลับมาที่รถ ปรากฏว่าเดินสวนกับรถของตนเอง ที่ถูกสาวทอมผู้ก่อเหตุขโมย ขับสวนมาพอดี ตนเองจึงได้ตะโกนขอความช่วยเหลือจาก รปภ. และคนที่เห็นเหตุการณ์ ซึ่งขณะนั้นทุกคนพยายามช่วยกันสกัดรถ ใช้แผงเหล็กขวางรอบรถ แต่ปรากฏว่า ผู้ก่อเหตุไม่หยุด และขับรถของตนเองพุ่งชนรั้วเหล็ก ไม้กั้นทางออกห้าง จากนั้นก็ขับหนีออกไป ซึ่งตนเองได้มีการดูภาพจากกล้องวงจรปิดของทางห้างก็พบว่า ผู้ก่อเหตุมีการนั่งอยู่บริเวณด้านหน้าร้านกาแฟ ก่อนที่จะขึ้นรถยนต์ของตนเอง และเมื่อขึ้นไปบนรถยนต์ของตนเองนั้น ได้ขับออกจากจุดที่ตนเองจอดเอาไว้ และไปวนหาที่จอดรถบริเวณอื่นภายในห้าง มีการถอยรถเพื่อจอดในช่องจอดรถอยู่ 2 ครั้ง ก่อนที่จะวนกลับมาและสวนกับตนเองพอดี จนกลายเป็นเหตุการณ์ที่ปรากฏตามคลิป

หลังเกิดเหตุ ตนเองได้แจ้งความไว้ที่ สน.ห้วยขวาง ส่วนแฟนของตนเอง มีวินรถจักรยานยนต์ใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ พาขี่รถตามรถยนต์ของตนเองไป แต่ไม่สามารถตามได้ทัน ยอมรับว่าขณะนั้นตนเองทั้งตกใจ และเป็นห่วงความปลอดภัยของแมวที่อยู่ในรถ กลัวว่าจะถูกผู้ก่อเหตุปล่อยทิ้งกลางทาง 

ตนเองได้มีการประกาศตามหารถและแมวที่อยู่ในรถผ่านทางโซเชียล กระทั่งช่วงกลางดึกเมื่อคืนที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถไปสกัดจับผู้ก่อเหตุ พร้อมรถของตนเองได้ และมีการแจ้งกับตนเองว่า แมวปลอดภัยดี ซึ่งตนเองยอมรับว่าดีใจมาก และภาพที่เห็นคือแมวนอนแอบอยู่ใต้เบาะรถยนต์ ซึ่งตนเองได้ไปรับแมวกลับมาเรียบร้อยแล้ว แมวมีอาการหวาดกลัวเล็กน้อย ไม่ร่าเริงเหมือนเดิม 

ส่วนความคืบหน้าทางคดีนั้น ตำรวจ สน.ห้วยขวาง มีการเรียกตนเองเข้าไปให้ปากคำเมื่อวานนี้ และทราบว่าผู้ก่อเหตุมีประวัติรักษาอาการป่วยจิตเวช แต่ตนเองยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะตนเองมองว่าทางผู้ก่อเหตุ เหมือนมีการวางแผนทุกอย่างไว้ทั้งหมดแล้ว เพราะหลังจากที่ขโมยรถยนต์ของตนเองขับออกไปนั้น ผู้ก่อเหตุมีการถอดแผ่นป้ายทะเบียนออก และไปหลบหนีก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับกุมตัวได้

จากการสอบปากคำผู้ต้องหาสามารถพูดคุยสื่อสาร ตอบโต้กับเจ้าหน้าที่ได้อย่างปกติ แต่ขณะเดียวกันก็ได้รับข้อมูลจากทางครอบครัวว่า ผู้ต้องหาเคยได้รับการรักษาอาการทางจิตที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น เมื่อประมาณ 2 - 3 ปี หลังเริ่มมีอาการผิดปกติ มักพูดคนเดียว และมีอาการคล้ายเจ้าเข้า และมักมีอาการมากขึ้น เมื่อถูกขัดใจ

เบื้องต้นหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบปากคำพยานผู้เกี่ยวข้องไปแล้วทั้งหมด 7 ปาก ทั้งเจ้าของรถ แฟนเจ้าของรถ ผู้รับมอบอำนาจจากห้าง และพนักงานรักษาความปลอดภัยที่อยู่ในเหตุการณ์ และในวันนี้จะมีการนัดสอบปากคำผู้เสียหายที่เป็นเจ้าของรถยนต์คันที่ผู้ต้องหาขับไปเฉี่ยวชนในระหว่างการหลบหนีเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติมอีก 2 - 3 ปาก รวมถึงมีการนัดหมายทางครอบครัวของผู้ก่อเหตุเข้ามาพบในวันนี้ด้วยเช่นกัน เพื่อจะได้ทราบข้อเท็จจริงจากครอบครัว

ส่วนอาการป่วยทางจิตนั้น ก็ต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติม และขอดูเอกสารจากทางครอบครัวอย่างละเอียด ซึ่งอำนาจการควบคุมของตำรวจ 48 ชั่วโมง ทางพนักงานสอบสวนจะตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเฉพาะอาการป่วย ซึ่งหากไม่มั่นใจ ตำรวจสามารถดำเนินการส่งผู้ต้องหาให้แพทย์ประเมินอาการทางจิต หากยังเห็นว่าสภาวะทางจิตสามารถต่อสู้คดี ได้ก็จะส่งตัวดำเนินคดีต่อ แต่หากไม่สามารถควบคุมได้ก็จะต้องส่งไปรักษาก่อน

เบื้องต้นเมื่อคืนนี้ ชุดสืบสวนได้ตรวจสอบประวัติการรับโทษ ไม่พบประวัติอาชญากรรมหรือเคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาก่อน โดยตำรวจได้ตั้งไว้ 2 ข้อหา ลักทรัพย์หรือรับของโจร และ ทำให้เสียทรัพย์

ส่วนกรณีแมวที่ติดไปกับรถคันที่ถูกขโมยผู้กำกับสน. ห้วยขวาง ยืนยันว่าน้องแมวปลอดภัยดีแต่อาจจะมีอาการตกใจ ซึ่งเมื่อคืนนี้ทางเจ้าของได้รับกลับไปดูแลเรียบร้อยแล้ว