'สนธิญา' ร้องสอบ บ.ขายตรงอื่นๆ พฤติกรรมคล้าย 'ดิไอคอนกรุ๊ป'

'สนธิญา' ร้องสอบ บ.ขายตรงอื่นๆ พฤติกรรมคล้าย 'ดิไอคอนกรุ๊ป'

46214 ต.ค. 67 12:59   |     AdminNews

'สนธิญา' ร้องตรวจสอบบริษัทขายตรงในไทยกว่า 100 แห่ง หลังพบว่ามีไม่ต่ำกว่า 35 บริษัทมีพฤติกรรมคล้ายกับ 'ดิไอคอนกรุ๊ป' หวั่นเป็นระบบลูกโซ่ เผยครอบครัวของตนก็เคยตกเป็นเหยื่อเสียหายหลักแสนจากธุรกิจขายตรงเช่นกัน

14 ต.ค.67 นายสนธิญา สวัสดี ได้เดินทางมายื่นเรื่องต่อ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อขอให้ตรวจสอบและสอบสวนพฤติกรรมของบริษัทขายตรงในประเทศไทยที่มีมากกว่า 100 แห่ง ทั้งที่เป็นบริษัทจากต่างประเทศและบริษัทภายในประเทศว่า ได้ดำเนินธุรกิจเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ เพราะตนมีข้อมูลว่า หลายบริษัทไม่ต่ำกว่า 35 บริษัทที่มีลักษณะพฤติกรรมคล้ายคลึงกับ 'ดิไอคอนกรุ๊ป' ต้องหาลูกข่ายมาซื้อสินค้าไปขายคล้ายลูกโซ่และก่อให้เกิดความเสียหายไม่ต่างกัน ซึ่งส่วนตัวครอบครัวก็เคยมีประสบการณ์ถูกบริษัทขายตรงเจ้าอื่น ๆ หลอกและก่อให้เกิดความเสียหายเป็นหลักแสนเช่นเดียวกัน 

ตนจึงมองว่า จากกรณีของ 'ดิไอคอนกรุ๊ป' ทางเจ้าหน้าที่รัฐจึงควรจะต้องลงมาตรวจสอบอย่างจริงจังกับบริษัทขายตรงทุกบริษัท หากบริษัทไหนที่ทำดีอยู่แล้วตามกฎหมายก็ไม่เป็นไร แต่หากพบมีผู้เสียหายจากบริษัทเหล่านั้น ก็ควรจะต้องดำเนินการตรวจสอบว่ามีความผิดหรือไม่ 


โดยตนเรียกร้องให้ผู้เสียหายไม่ว่าจะเป็นเคสของ 'ดิไอคอนกรุ๊ป' หรือเคสบริษัทใดก็ตามเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจทุกสถานีทั่วประเทศและขอให้สำนักงานตรวจแห่งชาติมีคำสั่งให้สถานีตำรวจทั่วประเทศต้องรับแจ้งความคดีความเสียหายจากบริษัทขายตรงทุกกรณีด้วย โดยไม่มีข้อยกเว้น นอกจากกรณี 'ดิไอคอนกรุ๊ป'

ทั้งนี้ นายสนธิญาเชื่อว่า ภายใน 2 สัปดาห์นี้ คดี 'ดิไอคอนกรุ๊ป' จะเข้าสู่คดีพิเศษของกรมสอบสวนคดีพิเศษอย่างแน่นอน เพราะมูลค่าความเสียหายเชื่อว่าน่าจะเข้าหลักเกณฑ์ที่เป็นคดีพิเศษได้ โดยตนเน้นย้ำว่า ผู้เสียหายจาก 'ดิไอคอนกรุ๊ป' ทุกคนต้องรวมกลุ่มกันเอาไว้และต้องต่อสู้ให้คดีถึงที่สุด ขณะเดียวกัน ผู้บริหารของ 'ดิไอคอนกรุ๊ป' ควรจะต้องมีสำนึกในการจ่ายเงินเยียวยาให้ผู้เสียหายในระหว่างการต่อสู้คดี เพราะผู้เสียหายหลายรายแทบสิ้นเนื้อประดาตัวและต้องใช้ระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 5 ปีกว่าจะครบ 3 ศาล ถึงจะสามารถได้รับเงินชดเชยคืน แต่ขอเน้นย้ำว่า ผู้เสียหายต้องไม่เซ็นรับเงื่อนไขยอมความใด ๆ ทั้งสิ้น 


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง