กัญชาไทยล้นตลาด แนะวิสาหกิจฯหาทางรอด ผันตัวสู่บริษัทผลิตเพื่อส่งออก

กัญชาไทยล้นตลาด แนะวิสาหกิจฯหาทางรอด ผันตัวสู่บริษัทผลิตเพื่อส่งออก

61220 ส.ค. 67 18:09   |     Tum1

กัญชาไทยล้นตลาด แนะวิสาหกิจฯหาทางรอด ผันตัวสู่บริษัทผลิตเพื่อส่งออกตลาดยุโรป-ออสเตรเลีย

วันที่ 20 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อุตสาหกรรมกัญชาในประเทศไทย กำลังเผชิญกับปัญหาราคาผลิตภัณฑ์ตกต่ำอย่างหนัก เนื่องจาก การผลิตที่ล้นตลาด ทำให้ราคาช่อดอกกัญชาแห้ง ตกลงเหลือเพียง กิโลกรัมละไม่ถึง 2,000 บาท ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ต่อเกษตรกรและผู้ผลิตในประเทศ ขณะเดียวกัน บริษัทผู้ผลิตบางราย ได้หันมาใช้เทคโนโลยีการปลูกแบบใหม่ เพื่อเพิ่มคุณภาพและมูลค่าของผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะ การปลูกในระบบ Aeroponic ที่ช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพสูง จนสามารถขายได้ในราคาที่สูงขึ้นในตลาดต่างประเทศ


เช่นบริษัท โอเรียนทอล แพลนเทชั่น จำกัด ตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมสุรนารี ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองนครราชสีมา ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใช้ระบบ Aeroponic ในการปลูกกัญชาในระบบปิด 100% (การปลูกพืชระบบรากแขวนอยู่บนอากาศ พืชจะถูกแขวนไว้เหนือห้องที่มีหมอก โดยมีหัวฉีดน้ำขนาดเล็กใต้ราก) สามารถผลิตกัญชาที่มีคุณภาพสูง และตรงตามมาตรฐานการส่งออก สู่ตลาดยุโรปและออสเตรเลีย ทำให้สามารถขายกัญชาในราคาสูงถึง กิโลกรัมละ 100,000 บาท โดยขณะนี้ มีออร์เดอร์จากประเทศออสเตรเลีย และเยอรมนี สั่งเข้ามาแล้ว เตรียมส่งมอบสินค้าล็อตแรกในปลายเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งบริษัทตั้งเป้าหมายว่า จะผลิตให้ได้ปีละไม่ต่ำกว่า 1 ตัน



นายอภิบาล ศรียาภัย ผู้บริหารของบริษัทฯ กล่าวว่า การใช้เทคโนโลยี Aeroponic ในการปลูกกัญชา ทำให้บริษัทสามารถผลิตสินค้าที่มีมาตรฐานสากล และมีความสม่ำเสมอมากขึ้น ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการแข่งขันในตลาดต่างประเทศ ที่มีความเข้มงวดด้านคุณภาพและมาตรฐาน

ตลาดกัญชาในยุโรป โดยเฉพาะในเยอรมนี ที่เป็นผู้บริโภคกัญชาทางการแพทย์รายใหญ่ที่สุดในยุโรป กำลังเป็นเป้าหมายหลักของบริษัทไทย ในการขยายการส่งออก อย่างไรก็ตาม ตลาดนี้มีการแข่งขันสูง และบริษัทไทยต้องปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องกับกฎระเบียบและมาตรฐานที่เข้มงวด ซึ่งรวมถึงการได้รับการรับรองมาตรฐานสากลที่เกี่ยวข้อง


ในส่วนของสถานการณ์ภายในประเทศ การปลูกกัญชายังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนด้านกฎหมาย แม้จะมีการเปิดเสรีบางส่วนในการปลูกและใช้กัญชาทางการแพทย์ แต่การควบคุมยังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้น ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาผลิตภัณฑ์ล้นตลาดในประเทศ หากไม่มีการจัดการที่เหมาะสม ส่งผลให้ราคาผลิตภัณฑ์ลดลงอย่างต่อเนื่อง



เพื่อรับมือกับปัญหานี้ นายอภิบาล เสนอว่า การส่งออกเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการสร้างรายได้ และเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ในตลาดต่างประเทศที่มีกำลังซื้อสูง ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะขยายการปลูกกัญชาเพิ่มเติมในพื้นที่อื่นๆ ของประเทศไทย และร่วมมือกับวิสาหกิจชุมชนเพื่อพัฒนาการผลิตที่มีคุณภาพสูง และมีความยั่งยืนในระยะยาว

การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ในการปลูกกัญชาเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญ ที่สามารถยกระดับอุตสาหกรรมกัญชาไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ แต่ความสำเร็จในระยะยาว ยังคงขึ้นอยู่กับการสนับสนุนจากภาครัฐ และการปรับตัวของบริษัทไทย ให้สนองต่อความต้องการของตลาดโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง