'ทุเรียนแช่เยือกแข็ง' ตอบโจทย์การส่งออกตามแนวทางเศรษฐกิจใหม่

'ทุเรียนแช่เยือกแข็ง' ตอบโจทย์การส่งออกตามแนวทางเศรษฐกิจใหม่

43328 ส.ค. 67 12:59   |     sureeporn.t

ซินโครตรอน กระทรวง อว. ชูผลงานเด่น 'ทุเรียนแช่เยือกแข็ง' ในมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ ’67 เพื่อตอบโจทย์การส่งออกตามแนวทางเศรษฐกิจใหม่

สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ส่งผลงานทุเรียนแช่เยือกแข็งเพื่อการส่งออก เข้าร่วมจัดแสดงภายในงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2567” ชูจุดเด่นของผลงานช่วยคงความสดใหม่ให้ทุเรียนได้นาน 12 เดือน ตอบโจทย์การส่งออกตามแนวทางเศรษฐกิจใหม่ โดยนิทรรศการของสถาบันฯ จัดแสดงที่บูธ CL3 และหนึ่งในผลงานเด่นที่สถาบันฯ จัดแสดงคือผลงาน “แสงซินโครตรอนยกระดับทุเรียนแช่เยือกแข็งเพื่อการส่งออกมุ่งเน้นเศรษฐกิจใหม่” 


ดร.ศิริวรรณ ณะวงษ์ นักวิทยาศาสตร์ระบบลำเลียงแสง หัวหน้าส่วนวิจัยด้านอาหารและการเกษตร สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน เจ้าของผลงานทุเรียนแช่เยือกแข็งกล่าวว่า เราได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีแสงซินโครตรอน เพื่อการรักษาคุณภาพทุเรียนแช่เยือกแข็ง โดยได้พัฒนากระบวนการแช่เยือกแข็ง (Cryogenic Freezing) ร่วมกับสารละลายไครโอโพรเทกแทนต์ (Cryoprotectant) เพื่อยืดอายุการเก็บรักษาทุเรียนสด ที่ช่วยคงคุณค่าทางโภชนาการเอาไว้ได้ และเพิ่มมูลค่าการส่งออกทุเรียนด้วยแสงซินโครตรอน

นักวิทยาศาสตร์ได้ใช้เทคนิคแสงซินโครตรอนติดตามการเปลี่ยนแปลงในทุเรียนแช่แข็ง ซึ่งมี 3 เทคนิคที่ใช้ คือ เทคนิคที่ใช้แสงอินฟราเรดจากแสงซินโครตรอนในการวิเคราะห์องค์ประกอบภายในทุเรียน เทคนิคเอกซเรย์โทโมกราฟีหรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สามมิติเพื่อศึกษาโครงสร้าง 3 มิติของทุเรียนแช่แข็ง และเทคนิคการเรืองรังสีเอกซ์เพื่อตรวจวิเคราะห์ธาตุองค์ประกอบของตัวอย่างเนื้อทุเรียนที่แช่แข็งร่วมกับสารละลายไครโอโพรเทกแทนต์ชนิดต่างๆ


“ผลการวิเคราะห์ด้วยเทคนิคต่างๆ ข้างต้นพบว่า คุณภาพทางกายภาพและโครงสร้างทางเคมีของทุเรียนแช่เยือกแข็งมีความใกล้เคียงกับทุเรียนสดใหม่ และเมื่อทดสอบทางประสาทสัมผัสได้ผลว่าผลิตภัณฑ์ทุเรียนแช่เยือกแข็งที่อายุการเก็บรักษานาน 12 เดือน ไม่แตกต่างจากทุเรียนสดใหม่อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งผลการศึกษาครั้งนี้เป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการยกระดับทุเรียนแช่เยือกแข็ง เพื่อการส่งออกสู่การมุ่งเน้นตามแนวทางเศรษฐกิจใหม่ สามารถผลิตทุเรียนสดนอกฤดูกาลได้ตลอดทั้งปี และช่วยเหลือชุมชนในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลผลิตทางการเกษตร” ดร.ศิริวรรณ ณะวงษ์ กล่าว


นอกจากนี้ สถาบันฯ ยังนำผลงานอื่นมาจัดแสดง อาทิ ระบบห่อหุ้ม mRNA โดยใช้เทคโนโลยีไมโครฟลูอิดิกส์ สำหรับการพัฒนาวัคซีน mRNA โดยคนไทยเพื่อลดการพึ่งพาต่างประเทศ และสร้างความยั่งยืนให้แก่ระบบสาธารณสุขไทย ระบบสุญญากาศแบบ NEG Pump เพื่อผลิตสุญญากาศโดยไม่ใช้ไฟฟ้าสำหรับเครื่องเร่งอนุภาค  และห้องสุญญากาศอะคริลิคเพื่อรักษาสภาพฟอลซิลกระดูกช้างโบราณสำหรับจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ รวมถึงได้นำตัวอย่างผลงานผลิตภัณฑ์ที่ร่วมพัฒนากับภาคอุตสาหกรรมมาจัดแสดงในงานนี้อีกด้วย

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง