ขบวนการ 'ทุนจีนเทา' หลอกข้ามทวีป เร่งช่วยเหยื่อแอฟริกากลับบ้าน
ขบวนการ 'ทุนจีนเทา' หลอกข้ามทวีป เร่งช่วยเหยื่อแอฟริกากลับบ้าน

เปิดโปงขบวนการ 'จีนเทา' หลอกเหยื่อแอฟริกาข้ามทวีป คาดยังมีเหยื่อตกค้างในอาณาจักร ไท่ฉาง 1 และ 2 อีกกว่า 4,000 คน
จากกรณี คุณพรทิพย์ โม่งใหญ่ ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ได้ไปสำรวจอาณาจักร ไท่ฉาง 1 และ 2 ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม บ้านช่องแคบ ต.ช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก และภาพเหยื่อที่ถูกทรมานทารุณ จนได้ขนานนามว่าเป็นแหล่งสแกมเมอร์ที่โหดร้ายที่สุด
ล่าสุดผู้สื่อข่าวเวิร์คพอยท์ได้มีโอกาสเข้าไปในเขตปกครองของทหารกะเหรี่ยง DKBA ผู้ที่ปกครองไท่ฉางนี้ หลังทางทหารได้ปฏิบัติการกวาดล้างนายทุนจีนสีเทา ที่ทำธุรกิจแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สามารถช่วยเหลือเหยื่อชาวแอฟริกาหลายร้อยคนได้ ซึ่งคุณพรทิพย์ โม่งใหญ่ ได้มีโอกาสพูดคุยกับเหยื่อกลุ่มนี้ พร้อมกับ ความต้องการช่วยเหลือล่าสุด โดยเฉพาะเหยื่อที่ตั้งครรภ์
สำหรับ"ไท่ฉาง" เมืองสแกมเมอร์ ที่ขึ้นชื่อว่าโหดร้ายที่สุดในฝั่งเมียนมา เพราะจากคำให้การของเหยื่อหลายคนที่หนีมา และเหยื่อบางส่วนได้รับการช่วยเหลือมา เล่าตรงกันว่า พวกเขานี่ถูกทารุณกรรมด้วยสารพัดวิธี เช่น ช็อตไฟฟ้า จับแขวนกุญแจมือ โหดร้ายที่สุดคือ ยิงจนเสียชีวิต
จากการตรวจสอบภาพเหยื่อที่ไท่ฉาง 1 และ 2 พบบาดแผลที่เกิดขึ้นกับเหยื่อ บาดแผลนี้เกิดจากน้ำร้อนที่ลวกทั้งแผ่นหลัง สภาพผิวหนังที่หลุดลอกจนเห็นเนื้อด้านใน ร่องรอยการถูกตีตามร่างกาย ทั้งแผ่นหลัง ต้นขา หนาขา ไม่ว่าจะเป็นเหยื่อผู้หญิง ผู้ชาย ถูกทำร้ายในลักษณะเหมือนกันเมื่อไม่สามารถทำงานได้ตามเป้าหมายของนายทุนจีน
เหยื่อที่ไท่ฉาง ส่วนใหญ่เป็นชาวผิวสีในทวีปแอฟริกา เช่น ซิมบับเว , แคเมอรูน , ไนจีเรีย , กาน่า , มาลาวี , ยูกันดา และที่มากที่สุดคือ "เอธิโอเปีย" ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มประเทศที่มีประชากรฐานะยากจน พวกเขาถูกหลอกข้ามทวีปให้มาเป็นแรงงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของนายทุนจีน โดยถูกหลอกมีงานที่ดี เงินดี และโอกาสที่ดีให้กับพวกเขา
ทีมข่าวได้พูดคุย นายอันดาเน ชาวเอธิโอเปีย อายุ 27 ปี เล่าว่า เขาถูกหลอกให้มาทำงานที่นี่ นาน 11 เดือน โดยถูกหลอกจากหัวหน้าคนหนึ่งบอกว่ามีงานให้ทำ ไปทำอีกประเทศหนึ่ง พอเดินทางมาถึงที่นี่ ถูกให้ทำงานในบริษัท ฉ่างกิ้ง ที่นั้นมีหัวหน้าคนจีน สั่งให้ทำงานเป็นโรแมนซ์แสกรมตกแต่งโพรไฟล์ให้เป็นอีกคนแล้วไปหลอกหาเหยื่อ ซึ่งแต่ละวันพวกเขาถูกบังคับให้ทำงานหลอกเงินเหยื่อให้ได้ตามยอดที่หัวหน้าคนจีนกำหนดไว้ ถ้าไม่ได้ จะถูกทำร้ายร่างกาย
นายอันเดน่า เล่าอีกว่า เพื่อน ๆ เขาจากทวีปแอฟริกา และจากทวีปอื่น ๆ เช่น อิรัก ปากีสถาน ซาอุดีอาระเบีย ดูไบ ล้วนถูกทารุณกรรม บางคนถูกตี ถูกช็อตไฟฟ้า ให้สก็อตจั้ม 500 - 1,000 ครั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่าเคยเห็นเพื่อนถูกฆ่าตายหรือไม่ นายอันดาเน่ บอกว่า ไม่เคย แต่ที่เคยเห็นมีเหยื่อคนหนึ่งถูกขังในห้องมืด พอออกจากห้องมาพบว่ามีรอดบาดแผลไปทั้งตัว
เช่นเดียวกับ นายเอสเชตรู อายุ 30 ปี ถูกหลอกให้มาทำงานที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ทุนจีนสีเทามา 9 เดือน ที่โชว์รอยแผลที่แผ่นหลังให้ดู พร้อมเล่าว่าเขาถูกตีจากหัวหน้าคนจีนหลังทำงานไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เขาบอกว่าเขาไม่เข้าใจว่าหัวหน้าคนจีนให้ทำงานอะไร งานที่เขาบังคับให้ทำมันยากมาก
เมื่อให้เหยื่อเล่ารายละเอียดบริษัท เขาเล่าว่า มันยากมากที่จะอธิบายว่าบริษัทมีลักษณะอย่างไร เพราะแต่ละวันต้องทำงานวันละ 18 ชั่วโมง เมื่อเสร็จงานก็ถูกบังคับให้ไปนอน หากทำงานไม่ได้ จะถูกทำโทษทั้งสก็อตจั้ม 500 - 2,000 ครั้ง ที่นี่มันอันตรายมากสำหรับชีวิตพวกเขา
จากการพูดคุยกับเหยื่อจากทวีปแอฟริกาหลายคน เล่าตรงกันว่า พวกเขาเดินทางมาด้วยความหวังจะได้งานที่ดี มีเงินมีใช้ เพราะประเทศพวกเขายากจนและไม่มีโอกาสที่ได้มีงานที่ดี หากประเทศเขามีงานที่ดี มีชีวิตที่ดี คงไม่มาเสี่ยงในประเทศที่เขาไม่รู้จักเพื่อมาหารายได้ ซึ่งไม่ต้องสูญเสียอิสรภาพ โอกาส และความหวัง ต้องจากครอบครัว ตอนนี้ทุกคนมีครอบครัวที่อยากกลับไปหา
ปฏิบัติการกวาดล้างธุรกิจแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ไท่ฉาง 1 และ 2 ของทหารกะเหรี่ยง DKBA สามารถช่วยเหลือเหยื่อแล้วประมาณ 700 คน โดยมีเหยื่อ 261 คน ทั้งหมด 8 สัญชาติ ส่งมาพักคอยที่ประเทศไทยเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ปัจจุบันได้ส่งกลับประเทศของพวกเขาทั้งหมดแล้ว และกองกำลัง DKBA ได้ช่วยเหลือส่งเหยื่อหรือผู้เสียหายประมาณ 300 กว่าคน ไปอยู่ศูนย์พักคอยที่เมียวดีเพื่อรอการส่งกลับ
แต่ข้อมูลจากเครือข่าย The Civil Society Network for Human Trafficking Victims Assistance หรือ CSNHTV ยังได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากเหยื่อและครอบครัวเหยื่อ อีกจำนวนหลายร้อยคนที่ยังตกค้าง ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ พวกเขายังคงถูกทรมาน ถูกกักขังและบังคับให้ทำงาน ซึ่งเหยื่อได้พยายามติดต่อเพื่อขอความช่วยเหลือ โดยคาดว่าน่าจะยังมีเหยื่อที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือทั้งหมดราว 6,500 คน
เป็นเวลากว่า 1 เดือน 2 สัปดาห์ที่เหยื่อหรือผู้เสียหายที่ทหาร DKBA ช่วยเหลือและนำเหยื่อมาไว้ที่ศูนย์แห่งนี้จำนวน 320 คน ที่นี่มี คนหลายสัญชาติ เช่น แคเมอรูน ไนจีเรีย ยูกันดา สภาพความเป็นอยู่ในศูนย์แห่งนี้อยู่กันอย่างแออัด แม้จะได้รับการดูแลที่ดีจากเจ้าหน้าที่ทหาร DKBA ที่ดูแลเรื่องอาหารและความปลอดภัยให้
แต่ด้วยคนจำนวนมากทำให้ศูนย์แห่งนี้ต้องการความช่วยเหลือ โดยเฉพาะอาหารของใช้จำเป็นทั้งผู้หญิงและผู้ชาย และผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ ซึ่งในทางเครือข่าย CSNHTV ได้นำอาหารแห้ง ของใช้เช่น สบู่ แชมพู ยาสีฟัน ผ้าอนามัย และเสื้อผ้ามอบให้ผู้เสียหาย เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
คุณพรทิพย์ ได้พูดคุยกับผู้เสียหายหลายคนเล่าว่า ในแต่ละวันจะได้รับอาหารวันละ 2 มื้อ น้ำดื่มและอาหารไม่เพียงพอ ห้องน้ำไม่เพียงพอ และทุกคนต้องนอนบนพื้นปูนเปล่า นอนเบียดกัน 11 - 12 คนในห้องเล็ก ๆ สิ่งที่พวกเขาต้องการไม่ใช่สิ่งของเพื่อมาอำนวยความสะดวกสบาย แต่สิ่งที่พวกเขาต้องการคือ การได้กลับประเทศของของพวกเขาโดยเร็ว พวกเขาคิดถึงบ้าน คิดถึงครอบครัว
เช่นเดียวกับนายอันดาเน เล่าความรู้สึกว่า เขาถูกหัวหน้าคนจีน ยึดโทรศัพท์และพาสปอร์ตไป ทำให้ไม่สามารถติดต่อครอบครัวได้ และไม่รู้จะเดินทางกลับประเทศอย่างไร ซึ่งเขาไม่ได้อยากอยู่ที่ศูนย์แห่งนี้ เป้าหมายของเขาคือได้กลับประเทศโดยเร็วที่สุด
จากการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ทหาร DKBA และผู้เสียหายเข้ามาขอความช่วยเหลือมีหลายคนป่วย มีโรคประจำตัว และยาของพวกเขากำลังจะหมด หลายคนไม่สบาย แต่ที่ไท่ฉางไม่มีโรงพยาบาลหรือ แม้แต่ยาที่จะรักษาพวกเขาได้
สิ่งที่น่ากังวลคือ ในศูนย์แห่งนี้มีหญิงตั้งครรภ์ประมาณ 12 คน โดยกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ เล่าว่า แต่ละคนถูกหลอกให้มาทำงานที่ไท่ฉาง ประมาณ 4 - 6 เดือน โดยมีเพื่อนร่วมชาติที่ถูกหลอกมาทั้งหมด 27 คน แต่กระจัดกระจายไป ไม่สามารถติดต่อได้ทุกคน สิ่งที่อยากได้รับการช่วยเหลือให้กลับประเทศของตนโดยเร็วที่สุด หรืออย่างน้อย ถ้ายังไม่สามารถกลับประเทศตัวเองได้ ขอได้ข้ามไปอยู่ฝั่งไทย เพราะพวกเขามีครรภ์ ซึ่งกังวลว่าสภาพความเป็นอยู่ในศูนย์อาจจไม่ปลอดภัยต่อลูกในครรภ์และทำให้เสี่ยงแท้งลูกได้
ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นได้ ทางครอบครัวพร้อมที่จะส่งเงินเพื่อให้ซื้อตั๋วเครื่องบินกลับประเทศของตนเองได้ เพียงขอให้สถานทูตประเทศไทยประสานกับสถานทูตยูกันดา โดยเฉลี่ย หญิงชาวยูกันดาตั้งครรภ์แล้วประมาณ 1-3 เดือน
สำหรับข้อมูลที่ทางเครือข่าย CSNHTV สามารถรวบรวมได้จากกลุ่มผู้เสียหาย พบว่า ขณะนี้มีผู้เสียหายประมาณ 30 - 40 สัญชาติ เช่น ปากีสถาน บังกลาเทศ ศรีลังกา ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ไต้หวัน ญี่ปุ่น และจีน
เหยื่อบางส่วนได้รับการประสานกับสถานทูตรับผู้เสียหายเดินทางกลับประเทศต้นทางได้ สำหรับประเทศที่มีความพร้อมในเรื่องงบประมาณส่งกลับ ส่วนเหยื่อที่อยู่ในศูนย์พักคอยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มกันแอฟริกัน โดยเฉพาะกลุ่มคนจากประเทศเอธิโอเปีย ซึ่งประเทศไทยไม่มีสถานทูตเอธิโอเปีย แต่มีที่ใกล้ที่สุด คือ ที่นิวเดลี ซึ่งทางทูตเอธิโอเปียได้ลงพื้นที่มาดูประชาชนของเขาแล้ว แต่ยังขาดทุนทรัพย์ในค่าใช้จ่าย
ขณะเดียวกันทางเครือข่ายได้พูดคุยกับผู้เสียหายหลายรายพบว่า ผู้เสียหายบางรายสามารถติดต่อครอบครัวได้พร้อมจะออกค่าใช้จ่ายเอง บางรายมีตั๋วเครื่องบินขากลับที่อาจจะยังใช้ได้ โดยจะต้องนำตั๋วมาตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน สิ่งที่ทางเครือข่าย CSNHTV มีความกังวลคือ ผู้ที่อยู่ต้นขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และกลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์ ยังไม่ได้ถูกจับกุมซึ่งมีโอกาสที่จะกลับก่อเหตุได้อีก ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเร่งส่งเหยื่อกลับประเทศให้มากที่สุด
จากข้อมูลที่ได้รับแจ้งจากเหยื่อ พบว่า ยังมีผู้ที่เป็นเหยื่อที่ตกค้างยังไม่ถูกได้รับความช่วยเหลือประมาณ 4,000 คน ทั้งในที่เขตควบคุมของกองกำลัง DKBA และกองกำลัง BGF ขณะนี้ทางเครือข่ายพยายามประสานกองกำลังทั้ง 2 แห่ง เร่งให้ความช่วยเหลือ เพื่อส่งผู้เสียหายกลับประเทศต้นทางโดยเร็วที่สุด
ข่าวเวิร์คพอยท์23
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สสส.เตือน!!! พิษสุนัขบ้าอันตรายถึงชีวิต พบเสียชีวิตแล้ว 2 ราย หากถูกกัด ข่วน รีบล้างแผล พบแพทย์ทันที ควรพาหมา แมว ฉีดวัคซีน
