เก๋งหักหลบซากหมา ชนกระบะเจ็บระนาว 5 ราย
เก๋งหักหลบซากหมา ชนกระบะเจ็บระนาว 5 ราย
รถเก๋งวัยรุ่นหักหลบซากหมากลางถนน เสียหลักพุ่งชนกระบะของพ่อแม่ลูกที่วิ่งสวนมาในเลนฝั่งตรงข้าม รถพังยับ คนเจ็บระนาว 5 ราย
(18 ต.ค. 67) เวลา 19.30 น. งานนี้(17 ต.ค.) ร.ต.ท.หญิง จุฑามาศ เกื้อสกุล รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถชนกันที่บ้านหนองลีหู ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี มีผู้บาดเจ็บหลายราย หลังรับแจ้งจึงรีบเดินทางไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมฯ กู้ชีพ อบต.สามพร้าว
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่กู้ภัยและกู้ชีพต้องรีบช่วยเหลือคนเจ็บทราบว่ามีจำนวน 5 รายด้วยกัน บาดเจ็บหนัก 3 ราย อีก 2 รายบาดเจ็บเล็กน้อย กู้ภัยรีบนำส่ง รพ.ศูนย์อุดรธานีเพื่อให้การช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน
พบว่ารถที่ชนกัน 2 คัน เป็นรถยนต์กระบะสีเงิน ทะเบียนหนองบัวลำภู ชนเข้ากับรถยนต์เก๋ง Chevrolet สีขาว ทะเบียนอุดรธานี โดยรถเก๋งหงายท้องขวางถนน สภาพรถเก๋งพังยับเกือบทั้งคัน ส่วนกระบะด้านหน้าถูกพังชนพังยับไปถึงห้องเครื่อง ห่างจากจุดรถเก๋งชนรถกระบะประมาณ 10 เมตรพบสุนัขสีขาวถูกรถชนตาย เจ้าหน้าที่ฯ จึงนำออกข้างทาง
ตร.สอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ทราบว่ารถเก๋งมาด้วยกัน 2 คนทราบชื่อคือนายอนุชา อายุ 22 ปี ชาว จ.หนองคาย และ น.ส.วนิดา อายุ 20 ปี ชาว อ.บรรพตวิสัย จ.นครสวรรค์ ขับรถมาจาก ม.ราชภัฏสามพร้าวมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองอุดรธานี
ส่วนผู้โดยสารที่มากับรถกระบะ ทราบชื่อคือนายสว่าง อายุ 61 ปี, นางหว่าง อายุ 63 ปี, และ น.ส.วิภวานี อายุ 38 ปี ทั้งหมดเป็นพ่อแม่ลูกกัน โดยนายสว่างและนางหว่างเพิ่งไปรับลูกสาวที่สนามบิน เพื่อกลับมาเยี่ยมบ้านในวันออกพรรษาที่บ้านสร้างแป้น อ.เพ็ญ โดยรถเก๋งหักหลบซากสุนัขนอนตายกลางถนนแล้วเสียหลักไปชนรถกระบะที่สวนทางมาอย่างจัง
นายธนพงษ์ อายุ 36 ปี ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์บอกว่า ขณะที่นั่งอยู่เพิงหญ้าคาริมทางหน้าร้านเพื่อดื่มฉลองวันออกพรรษา จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงรถชนกันโครม ตกใจรีบวิ่งไปดูเพื่อช่วยเหลือคนเจ็บ เห็นคนเจ็บหลายคน ก็รีบช่วยคนเจ็บออกจากกลางถนน เพราะมีรถสัญจรผ่านไปมาเยอะ เกือบมีรถอีกหลายคันชนซ้ำซ้อน จากนั้นก็รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ฯ ให้มาช่วยคนเจ็บ ส่วนสาเหตุยังไม่รู้รถคันไหนเสียหลักมาชนกัน
หลังจาก ตร.ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุและสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ จะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้ที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุของการอุบัติเหตุในครั้งนี้ที่แท้จริงต่อไป