ตำรวจค้านการประกันหัวหน้าแก๊งมิจฉาชีพ หลอกยายวัย 71 ซื้อลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ปลอม
ตำรวจค้านการประกันหัวหน้าแก๊งมิจฉาชีพ หลอกยายวัย 71 ซื้อลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ปลอม
ตำรวจค้านการประกันตัว หัวหน้าแก๊งมิจฉาชีพ หลอกยายวัย 71 ซื้อลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ปลอม จ่อออกหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุอีก 2 ราย
(8 ม.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณี คุณยายสม (นามสมมุติ) อายุ 71 ปี ถูกคนร้ายหลอกขายลอตเตอร์รี่รางวัลที่ 1 ปลอม ให้ในราคา 430,000 บาท เมื่อวันที่ 25 พ.ย.67 โดยผู้ก่อเหตุมีทั้งหมด 3 คน เป็นผู้ชาย 2 คนกับผู้หญิง 1 คน ใช้รถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า วีออส สีดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอม วันที่เกิดเหตุ คุณยายกำลังยืนอยู่ที่ทุ่งนา ในพื้นที่หมู่ 1 ต.แม่ลา อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นมีชาย 1 คน อ้างว่า เป็นเจ้าหน้าที่เกษตร ประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาพูดคุยเกี่ยวกับการซื้อขายที่ดิน โดยมีผู้หญิงอีกคนแสดงตัวเป็นเลขานุการ ต่อมามีหน้าม้าอ้างตนเป็นคนต่างด้าว มาเสนอขายถุงมือการเกษตรกับตน และได้ทำลอตเตอร์รี่ตก คนร้ายที่อ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่เกษตรฯ จึงได้หยิบขึ้นมาดูและบอกกับตนว่า ลอตเตอร์รี่ดังกล่าวถูกรางวัลที่ 1 งวดวันที่ 16 พ.ย.67 เลข 187221 ได้เงินรางวัล 6 ล้านบาท จากนั้นก็หยิบลอตเตอรี่เอามาให้ยายดู ซึ่งยายดูแล้วเห็นว่าเป็นรางวัลที่หนึ่งจริง
จากนั้นทั้ง 3 คน หลอกยายว่า จะร่วมกันซื้อและไปขึ้นรางวัลร่วมกัน แต่ต้องออกเงินให้ต่างด้าว(เมียนมา) ไปก่อน 1 ล้านบาท โดยชายที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่เกษตรฯ บอกคุณยายว่า ถ้ามีเงินให้ออกไปก่อน จะมอบลอตเตอรี่ไว้ให้กับยาย และจะไปขึ้นเงินกันในวันรุ่งขึ้น เงินที่ได้มาจะหาร 3 จากนั้น ก็ไปนำสมุดบัญชีธนาคารจากบ้าน และนั่งรถกันไป 4 คน เพื่อไปถอนเงินสดที่ธนาคารออมสิน สาขาคลองสวนพลู จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อถอนเงินมา 4.3 แสนบาท แล้วก็มอบให้มิจฉาชีพดังกล่าว จากนั้นกลุ่มมิจฉาชีพได้นำลอตเตอร์รี่ปลอม มัดใส่ถุงอย่างแน่นหนาให้ยายเก็บไว้ ก่อนพาไปส่งที่ทุ่งนา แล้วขับรถหลบหนีไป
เมื่อคุณยายวัย 71 กลับมาเปิดถุงเพื่อดูลอตเตอรี่ ก็พบว่าลอตเตอรี่ใบที่ได้มาเป็นเลข 174360 ไม่ใช่ใบเดียวกันกับที่มิจฉาชีพเอาให้ดู จึงแน่ใจว่าถูกหลอก ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไปหลงเชื่อมิจฉาชีพ ที่พูดหว่านล้อม อะไรยายก็เชื่อไปหมด จึงไปแจ้งความลงบันทึกไว้ที่ สภ.นครหลวง
กระทั่งวันที่ 7 ม.ค.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดกวดขันวินัยจราจร สภ.พรหมบุรี และ กก.สส.ภ.จว.สิงห์บุรี ร่วมกันจับกุมตัวนายพิสัยสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้พร้อมกับรถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า วีออส สีดำ ทะเบียนนครสวรรค์ , โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง และรายงานผลการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวน 4 ฉบับ ที่บริเวณจุดกวดขันวินัยจราจร สภ.พรหมบุรี ถนนสายเอเชียพื้นที่หมู่ 3 ต.พรหมบุรี อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี
เบื้องต้น นายพิสัยสิทธิ์ ผู้ต้องหา ให้การปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครหลวง จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมทั้งของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.นครหลวง เพื่อดำเนินคดีและขยายผลหาผู้ร่วมกระทำความผิด มาดำเนินคดีตามกฎหมาย และพบว่า มีประวัติในหลายคดี
ล่าสุด วันนี้ (8 ม.ค.68)ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ สภ.นครหลวง พบว่า นายพิสัยสิทธิ์ ผู้ต้องหา "ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น” ยังคงถูกควบคุมตัวไว้ในห้องควบคุมผู้ต้องขัง จากนั้น พนักงานสอบสวนได้นำตัวออกมาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานประกอบสำนวนคดี นำตัวส่งศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในวันพรุ่งนี้ (9 ม.คง68) ซึ่งผู้ต้องหา ยังคงให้การปฏิเสธในชั้นพนักงานสอบสวน และขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น และปฏิเสธที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าว
อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวน ได้คัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน เนื่องจาก ผู้ต้องหามีคดีติตตัวหลายคดี ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุอีก 2 ราย อยู่ในขั้นตอนของขยายผลออกหาเบาะแส ซึ่งนายพิสัยสิทธิ์ ไม่ให้ความร่วมมือ แต่ตำรวจเชื่อในพยานหลักฐานที่มีจะสามารถออกหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุอีก 2 รายได้ - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน