"บิ๊กต่าย"รรท.ผบ.ตร. เผยสาเหตุโศกนาฏกรรม"ไฟไหม้รถบัสนักเรียน"

"บิ๊กต่าย"รรท.ผบ.ตร. เผยสาเหตุโศกนาฏกรรม"ไฟไหม้รถบัสนักเรียน"

118301 ต.ค. 67 18:21   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

"บิ๊กต่าย"รรท.ผบ.ตร. เผยสาเหตุโศกนาฏกรรม"ไฟไหม้รถบัสนักเรียน"พร้อมชี้แจงประเด็นต่าง ๆ เกี่ยวกับอุบัติเหตุครั้งนี้

(1ต.ค.67) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ"ไฟไหม้รถบัสนักเรียน" ระบุว่า ได้สอบสวนพยานแล้ว ขณะนี้สันนิษฐานว่าเกิดจากยางล้อรถยนต์ระเบิดขึ้นมาทำให้เกิดประกายไฟและมีถังแก๊สที่เป็นเชื้อเพลิงอยู่ในรถดังกล่าวจึงทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วเข้าไปในห้องโดยสาร 


"ส่วนตัวของคนขับรถ ขณะนี้เราให้เจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งตรวจสอบข้อมูลบุคคลเกี่ยวกับคนขับรถและบริษัท ซึ่งเราจะนำมาประกอบการสอบสวนและออกหมายจับ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนและติดตาม ซึ่งเรามีทีมและกำลังทุ่มกำลังไปเกี่ยวกับการกู้ภัย" พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุ 


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวต่อไปว่า ขั้นตอนหลังจากนี้สำหรับการตรวจอัตลักษณ์บุคคล เมื่อเรานำร่างผู้เสียชีวิตออกมาทั้งหมด ซึ่งเมื่อสักครู่ทราบว่าไม่สามารถพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลได้ภายในที่เกิดเหตุจะนำร่างผู้เสียชีวิตไปที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ โดยสั่งการผู้บัญชาการพิสูจน์หลักฐานให้ร่วมมือกับแพทย์นิติเวชในการเก็บดีเอ็นเอของร่างผู้เสียชีวิตและจะประสานกับทางญาติผู้ปกครองโดยสายเลือดเพื่อที่จะนำดีเอ็นเอไปเปรียบเทียบ 


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวอีกว่า ได้สั่งการหากได้รับดีเอ็นเอของสองฝ่ายเป็นที่เรียบร้อยต้องตรวจให้เสร็จสิ้นโดยเร็วภายในสองวัน ซึ่งทำให้ญาติผู้เสียชีวิตได้รับร่างไปดำเนินการตามประเพณีสำหรับการเก็บดีเอ็นเอของญาตินั้นต้องดูความสะดวกว่าเราจะให้แพทย์ที่จังหวัดอุทัยธานีเก็บได้หรือไม่ แต่หากจะให้ชัวร์ 100% อาจจะประสานงานขอให้เดินทางมาที่นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการเก็บดีเอ็นเอต่อหน้าแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ 

  

ประเด็นรถบัสมีประตูฉุกเฉินแต่ทำไมเปิดไม่ได้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ บอกว่า จากการสอบถามคุณครูทราบว่าเหตุที่เกิดขึ้นเร็วมากประกายไฟที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นมาเกิดได้อย่างรวดเร็วขณะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมายังไม่ทัน ส่วนประตูนั้นมีทั้งเด็กและครูลงมาได้นั่นหมายถึงว่าประตูเปิดได้และมีเด็กบางคนกระโดดออกทางหน้าต่างและส่วนที่เหลือคิดว่ายังอยู่ในอาการตกใจจึงไม่สามารถออกมาได้ทัน และขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเด็กคนใดบ้าง

  

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวอีกว่า ส่วนรถคันที่ 2 ที่เกิดเหตุมีเด็กอยู่จำนวน 39 มีทั้งระดับอนุบาล และประถม มีทั้งเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชาย ส่วนครู 6 คน สำหรับผู้สูญหายในรถคันที่ 2 มีครู 6 คน ขณะนี้พบครู 3 อีก 3 คนยังไม่พบส่วนนักเรียนมี 39 คนเจอที่โรงพยาบาล 3 คน และอยู่ที่ศูนย์ 16 ดังนั้นนักเรียนยังหาไม่เจอ 20 คน หลังจากนี้จะมีการตรวจสอบว่าสภาพรถ เป็นอย่างไรและจะอยู่ในขั้นตอนความประมาทหรือไม่ 


สำหรับกระแสข่าวที่บอกว่าขับรถเป็นภารโรงไม่ใช่คนขับรถที่มีความเชี่ยวชาญ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ บอกว่า เรื่องนี้จะต้องมีการตรวจสอบให้มีความชัดเจนว่าเป็นพนักงานที่บริษัทรถส่งมาหรือไม่อย่างไร และรถที่ใช้เป็นของเอกชน ทั้งนี้ย้ำทางผู้การจังหวัดปทุมธานีว่าการสอบสวนต้องหาข้อเท็จจริงว่าเกิดจากความประมาทและบริษัทรถหรือไม่อย่างไร หากไม่มีอุปกรณ์ในการป้องกันแสดงว่าไม่มีความพร้อมในการแก้ปัญหาเมื่อเกิดเหตุเบื้องต้น ซึ่งเข้าข้อกฎหมายเรื่องการประมาทหรือไม่ 


"ย้ำว่าทั้งบุคคลและบริษัทจะต้องถูกดำเนินคดี และช่วงเกิดเหตุเรายังไม่ทราบข้อมูลว่าในขณะนั้นคนขับได้มีการช่วยเหลือเด็กและผู้ปกครองหรือไม่" พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุ 


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวด้วยว่า สำหรับเรื่องการตรวจสอบสภาพรถนั้นมีมานานแล้วเป็นมาตรการทั้งขนส่ง ตำรวจ รวมถึงรถสาธารณะที่มีมาตรการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และในกระบวนการสอบสวนจะดูประเด็นพวกนี้ด้วยถ้าบริษัทเจ้าของผู้ขับขี่ละเลยถือว่าเป็นองค์ประกอบความผิด 


"ยืนยันว่ากองพิสูจน์หลักฐานจะดูรายละเอียดทุกประเด็นทั้งเรื่องความเร็วของรถทั้ง 3 คัน เหตุการณ์เช่นนี้ทำให้เกิดความเศร้า สลด การจะไปช่วยปกปิดเป็นไปไม่ได้" พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุ 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง




TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง