ทลายโกดังนายทุนจีน ลักลอบนำเข้าสินค้าปลอม มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท
ทลายโกดังนายทุนจีน ลักลอบนำเข้าสินค้าปลอม มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท
ทลายโกดังนายทุนจีน ลักลอบนำเข้าสินค้าปลอม มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท
วันที่ 15 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึด นำโดย พ.ต.ต.วิสศรุษฏ์ ไทยจันอัด สว.กก.1 บก.ปอศ. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ.ได้ร่วมกัน จรวจค้น ภายในอาคารย่านถนนกาญจนาภิเษก แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร
หลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.1 บก.ปอศ. ได้รับแจ้งเบาะแสว่า มีการลักลอบนำเข้าสินค้าปลอม เครื่องหมายการค้าจากต่างประเทศ มาจำหน่ายในประเทศไทย จึงได้สืบสวนจนทราบว่า สถานที่ดังกล่าวเป็นที่กักเก็บสินค้า จากนั้นได้นำหมายค้นของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เข้าตรวจค้นอาคารดังกล่าว และตรวจยึดของกลาง 10 รายการ จำนวนทั้งสิ้น 26,493 ชิ้น ประกอบด้วย
- นาฬิกา ที่ปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อ โรเล็กซ์ , คาสิโอ , โอเมก้า และยี่ห้อ Patek Philippe จำนวน 5,067 เรือน
- น้ำหอม ที่ปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อ กุชชี่ , ดิออร์ , ชาแนล และยี่ห้อ อามานี่ จำนวน 1,150 ขวด
- โทรศัพท์มือถือ ที่ปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อ Redmi , วีโว่ และยี่ห้อ Oppo จำนวน 800 เครื่อง
- หูฟัง ที่ปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อ APPLE จำนวน 770 ชิ้น
- แบตเตอร์รี่โทรศัพท์มือถือ ที่ปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อ Sony6 จำนวน 720 ชิ้น
- ปั๊มเบรก ที่ปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อ Brembo จำนวน 122 ชิ้น
- เสื้อ ที่ปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อ พราด้า , หลุยส์ วิตตอง , H&M และยี่ห้อ บาเลนเซียก้า จำนวน 3,496 ตัว
- กางเกง ที่ปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อ หลุยส์ วิตตอง กับยี่ห้อ H&M จำนวน 2,800 ตัว
- รองเท้า ที่ปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อ โคลเอ้ กับยี่ห้อ แอร์เมส จำนวน 360 คู่
- กระเป๋า ที่ปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อ หลุยส์ วิตตอง กับยี่ห้อ NY จำนวน 5,208 ใบ
โดยมี น.ส.กันยา (สงวนนามสกุล) ผู้ดูแลสถานที่ดังกล่าว เป็นผู้นำพาตรวจค้น และให้การเบื้องต้นว่า เป็นเพียงผู้ดูแลอาคาร โดยมีคนจีนชื่อ “นายเฉิน” เป็นผู้ว่าจ้างและเป็นเจ้าของสินค้าดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึด จึงได้ทำการตรวจยึดของกลางดังกล่าว นำส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และจะได้สืบสวนสอบสวนขยายผล หาตัวผู้กระทำความผิดต่อไป