"ปลาหมอคางดำ"เกยตื้นริมทะเลเพชรบุรี ทำลายระบบนิเวศทางทะเล

(12ส.ค.67) กรณีผู้ใช้ติ๊กต๊อกโพสต์คลิปเหตุการณ์ขณะพบ"ปลาหมอคางดำ"เกยตื้นอยู่ริมทะเล ซึ่งภายในคลิปจะเห็นปลา"หมอคางดำเกยตื้น"หลายพันถึงหมื่นตัวและมีคนเข้าไปจับปลาหมอคางดำเพื่อป้องกันไม่ให้มันกลับลงทะเลไปได้ เพราะเป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำ หวั่นสัตว์น้ำสูญพันธุ์

ความคืบหน้า เวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังชายทะเล หมู่ 1 ต.บางแก้ว อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นจุดที่พบ"ปลาหมอคางดำ"ระบาดที่ปรากฏในคลิปดังกล่าว ปรากฏว่าขณะที่เดินทางไปถึงเป็นช่วงที่น้ำทะเลลงได้พบเห็นปลาหมอคางดำตายเกลื่อนอยู่ริมชายหาด

นายสายัณย์ อายุ 45 ปี หนึ่งในชาวประมงที่ปรากฏในคลิปที่กำลังจับปลาหมอคางดำ เปิดเผยว่า ปลาหมอคางดำมีการระบาดในพื้นที่ อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี มานานหลายปีแล้ว ทำเกษตรกรเลี้ยงกุ้งขาดทุนย่อยยับจนต้องเลิกกิจการไปหลายราย ที่ผ่านมาปลาหมอคางดำจะระบาดอยู่ตามลำคลองสายต่าง ๆ แต่ในปีนี้เกิดการระบาดอย่างหนัก 

นายสายัณย์ กล่าวต่อไปว่า ปลาหมอคางดำได้แพร่กระจายลงสู่ทะเลสร้างความเสียหายให้แก่ระบบนิเวศทางทะเลเป็นอย่างมาก ซึ่งขณะนี้ปลาหมอคางดำได้ปรับสภาพจากที่เคยอาศัยอยู่แต่ในน้ำจืดปัจจุบันสามารถอาศัยอยู่ในน้ำเค็มและได้กัดกินสัตว์น้ำลดลงอย่างเห็นได้ชัด ก่อนหน้านี้ที่บริเวณทะเลหน้าบ้านตนเคยทอดแหจับพันธุ์สัตว์น้ำต่าง ๆ ได้เป็นจำนวนมาก แต่ปรากฏว่าปัจจุบันเมื่อทอดสุ่มทอดแหลงไปก็จะพบแต่ปลาหมอคางดำ 

นายสายัณย์ บอกอีกว่า โดยช่วงประมาณวันที่ 6 - 7 สิงหาคม ที่ผ่านมา ได้พบปลาหมอคางดำจากคลองสาธารณะไหลลงสู่ทะเลที่บริเวณดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ตนและชาวบ้านเกรงว่าปลาหมอคางดำจะไปกัดกินสัตว์น้ำจนสูญพันธุ์จึงช่วยกันใช้เครื่องมือประมงจับขึ้นมา แต่เนื่องจากมีการกระจายลงทะเลเป็นจำนวนมากจึงจัดการไม่หมด

นายสายัณย์ กล่าวต่อไปว่า หากภาครัฐดำเนินการสร้างมูลค่าให้แก่ปลาหมอคางดำ โดยให้พ่อค้าแม่ค้าคนกลางมารับซื้อปลาหมอคางดำถึงในพื้นที่ เชื่อว่าจะมีผู้คนออกมาจับปลาหมอคางดำกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้ปลาหมอคางดำลดลงอย่างรวดเร็ว แต่หากภาครัฐยังไม่เร่งดำเนินการเกรงว่าสัตว์น้ำต่าง ๆ จะสูญพันธุ์จนเหลือแต่ปลาหมอคางดำ