"โรม"แฉอีกพบพื้นที่ชายแดนไทย - เมียนมา แหล่งแก๊งคอลฯ - เหยื่อ มากว่า 6 หมื่นคน

"โรม"แฉอีกพบพื้นที่ชายแดนไทย - เมียนมา แหล่งแก๊งคอลฯ - เหยื่อ มากว่า 6 หมื่นคน

35320 ก.พ. 68 20:28   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

"โรม"แฉอีกพบพื้นที่ชายแดนไทย - เมียนมา แหล่งแก๊งคอลฯ - เหยื่อ มากว่า 6 หมื่นคน มีการทารุณกรรมและพบศพในแม่น้ำเมยช่วงน้ำหลากเป็นประจำ

(20ก.พ.68) ที่ อาคารรัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ได้เชิญหน่วยงานด้านความมั่นคงเข้าชี้แจงแนวทางจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมข้ามชาติ ภายหลังมีกรณีที่จะมีการส่งตัวชาวจีนในแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับจีนผ่านทางสนามบินแม่สอดของไทย และจะถูกส่งตัวไปประเทศต่าง ๆ โดยไม่ผ่าน กระบวนการคัดแยกเหยื่ออาชญากร


หน่วยงานที่เข้าร่วมชี้แจงครั้งนี้ ได้แก่ ตัวแทนจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ตัวแทนจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ตัวแทนจากผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ และตัวแทนจากอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)


นายรังสิมันต์ เปิดเผยก่อนการประชุมว่า ขณะนี้กระบวนการต่อไป คือการปล่อยตัวกลุ่มชาวจีนจากเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา ให้เดินทางกลับไปยังประเทศต้นทาง แต่ปัญหาสำคัญคือการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าบุคคลที่ถูกปล่อยตัวเป็นเหยื่อหรือเป็นอาชญากร เพราะทุกคนล้วนมีข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่อยู่เบื้องหลังขบวนการคอลเซ็นเตอร์ 


"ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถใช้เพื่อทลายเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติได้ แม้ว่าจะมีการระบุตัวตนบางส่วน แต่ยังมีอีกหลายระดับที่ยังไม่สามารถระบุได้ และกังวลว่าหากจีนจัดการเรื่องของตัวเองเสร็จแล้ว แก๊งจีนเทาที่เหลือจะยังอยู่ในประเทศไทยหรือไม่" นายรังสิมันต์ กล่าว


เมื่อถามถึงมาตรการเก็บข้อมูลไบโอเมทริกซ์ นายรังสิมันต์ ระบุว่า แก๊งจีนเทาส่วนใหญ่มีทุนมหาศาล ทำให้บางคนสามารถซื้อสัญชาติหรือพาสปอร์ตของประเทศอื่นได้ หากไม่มีการจัดเก็บข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลก็ไม่มีทางรู้ได้ว่าบุคคลเหล่านี้จะไม่กลับเข้ามาก่ออาชญากรรมอีก 


"สมมติว่านาย ก.ไก่ ถือพาสปอร์ตจีนแล้วมาก่อเหตุในไทย แต่หลบหนีไปได้ วันข้างหน้าเขาอาจกลับมาอีกครั้งด้วยพาสปอร์ตวานูวาตู เราจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าคนคนนี้เคยเป็นอาชญากรมาก่อน"


นอกจากนี้ นายรังสิมันต์ ยังเปิดเผยข้อมูลที่ได้รับมาว่า ระบบเก็บอัตลักษณ์บุคคลในไทยอาจล้าสมัยหรือหมดอายุ ส่งผลให้การคัดกรองบุคคลเข้า - ออกประเทศไม่มีประสิทธิภาพ ข้อมูลตัวเลขที่ได้รับระบุว่ามีผู้เดินทางเข้า - ออกไทยกว่า 17 ล้านคน แต่ไม่มีการเก็บข้อมูลอัตลักษณ์ นอกจากภาพหน้าพาสปอร์ตตามปกติ ซึ่งหากเป็นความจริง ถือเป็นปัญหาความมั่นคงปลอดภัยระดับชาติ


ทั้งนี้ นายรังสิมันต์ ยังกล่าวถึงกรณี พล.ต.หม่อง ชิตตู ผู้นำกลุ่มติดอาวุธ Border Guard Force (BGF) ที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการคอลเซ็นเตอร์ โดยตั้งข้อสังเกตว่า การดำเนินคดีต่อบุคคลนี้เป็นการเล่นละครหรือเป็นความพยายามฟอกขาว เพราะก่อนหน้านี้อัยการมีกำหนดเดินทางไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) แต่กลับมีการยกเลิกกะทันหัน


นายรังสิมันต์ยังได้รับข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มกองกำลัง DKBA (Democratic Karen Buddhist Army) ซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่บริเวณช่องแคบเมียวดี โดยระบุว่า ภายในพื้นที่นี้อาจมีแก๊งคอลเซ็นเตอร์และเหยื่ออาชญากรรมกว่า 60,000 คน ทั้งยังมีรายงานเกี่ยวกับการทารุณกรรมและพบศพในแม่น้ำเมยช่วงน้ำหลากเป็นประจำ ผู้นำของ DKBA คือ พลจัตวา ซาย จอ หล่า หรือ โกซาย ซึ่งนายรังสิมันต์ มองว่ามีพฤติกรรมโหดร้ายไม่ต่างจาก พล.ต.หม่อง ชิตตู่


นอกจากนี้ยังได้รับรายงานว่าการจ่ายไฟฟ้าในพื้นที่ดังกล่าวถูกตัดไปหมดแล้ว และอาจมีการลักลอบขนถังแก๊สและน้ำมันไปยังพื้นที่ใกล้บ้านของโกซาย


ข่าวเวิร์คพอยท์23


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง