จับแล้ว! "ร.ต.อ." หน.แก๊งโจรกรรมร้านของเก่า หนีซุกบ้านญาติ

จับแล้ว! "ร.ต.อ." หน.แก๊งโจรกรรมร้านของเก่า หนีซุกบ้านญาติ

166514 ต.ค. 67 19:39   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

จับแล้ว! "ร.ต.อ." หน.แก๊งโจรกรรมร้านของเก่า หนีซุกบ้านญาติ ขณะที่ บิ๊กต่าย ผบ.ตร. สั่งสอบวินัย-อาญา รายงานผลภายใน 3 วัน

(14ต.ค.67) จากกรณีการออกหมายจับนายตำรวจ ยศ "ร.ต.อ." อดีตรอง สว.สส.สภ.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และ ยังถูกออกคำสั่งให้มาปฏิบัติราชการประจำศูนย์ปฏิบัติการ ภ.จ.ชลบุรี หลังถูกกลุ่มผู้ต้องหา 9 คน ซึ่งถูกตำรวจ สภ.บางละมุง จับกุมได้ก่อนหน้านี้และให้การซัดทอดว่า ร.ต.อ. รายนี้ เป็นคนสั่งให้เข้าไปลักเครื่องจักรขนาดใหญ่ หม้อแปลงไฟฟ้า รถบดถนน มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ภายในโรงงานรับซื้อของเก่าบริษัทแห่งหนึ่ง ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี รวมมูลค่าเกือบ 10 ล้านบาท สร้างความเสื่อมเสียให้วงการตำรวจอย่างมาก ตามที่มีข่าวเสนอไปแล้วนั้น


ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง ร่วมกับกองกำกับการสืบสวนภาค 4 สามารถจับกุม"ร.ต.อ. รายนี้ ซึ่งถูกออกหมายจับฐานเป็นหัวหน้าแก๊งโจรกรรมโรงงานรับซื้อของเก่าในพื้นที่ จ.ชลบุรี โดยถูกจับกุมได้ที่บ้านญาติใน จ.อุดรธานี หลังจากที่ถูกซัดทอดจากกลุ่มผู้ต้องหา 9 คนว่าเป็นผู้บงการโจรกรรมเครื่องจักร หม้อแปลงไฟฟ้า และรถบดถนน รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท


จากนั้นได้ขยายผลการจับกุมผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติมอีก 1 ราย คือ นายมนตรี ผู้ที่ได้รับคำสั่งจาก ร.ต.อ. ให้นำรถบดสั่นสะเทือน มูลค่า 3.5 ล้านบาท ไปขายในโรงรับซื้อของเก่าในพื้นที่ ต.เขาคันทรง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี อย่างไรก็ตามเมื่อเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่ารถดังกล่าวถูกชำแหละแยกชิ้นส่วนและหลอมเหลือเพียงเครื่องยนต์เท่านั้น


สำหรับเหตุการณ์นี้สร้างความเสียหายอย่างมาก ทรัพย์สินสำคัญ เช่น รถบดสั่นสะเทือน หม้อแปลงไฟฟ้า และเหล็กหนาหลายตัน ถูกขโมยและชำแหละจนไม่เหลือซาก นายนเรศขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงผู้ที่รับซื้อทรัพย์สินที่ถูกขโมยมาอย่างไม่ถูกต้อง ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้รวมแล้ว 11 ราย แต่การสืบสวนยังคงดำเนินต่อไป เพื่อขยายผลและติดตามทรัพย์สินเพิ่มเติม พร้อมนำตัวผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม


ทั้งนี้ได้มีคำสั่งให้นายตำรวจรายนี้มาปฏิบัติราชการประจำที่ศูนย์ปฏิบัติการ ภ.จว.ชลบุรี แล้ว และให้ตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ถ้าหากพบว่ามีมูลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ให้ดำเนินการทางวินัยร้ายแรงโดยทันที รวมถึงหากเข้าข่ายการกระทำผิดทางอาญาฯต้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดไม่มีการละเว้นเพื่อให้แบบอย่างต่อข้าราชการตำรวจที่มีพฤติกรรมดังกล่าว


ขณะที่วานนี้(13ต.ค.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้กำชับให้เร่งดำเนินการสืบสวนทั้งวินัยและอาญาให้แล้วเสร็จและรายงานผลภายใน 3 วัน



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง