“สว.อังคณา” เตือนรัฐบาล ส่งอุยกูร์กลับจีน อาจละเมิดสิทธิร้ายแรง

“สว.อังคณา” เตือนรัฐบาล ส่งอุยกูร์กลับจีน อาจละเมิดสิทธิร้ายแรง

22520 ม.ค. 68 15:02   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

“สว.อังคณา” รับหนังสือมูลนิธิศักยภาพชุมชน กังวลรัฐบาลอาจส่งชาวอุยกูร์ 43 คน กลับจีน ชี้ถ้าทำผลักดันกลับจะเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรง

(20 ม.ค. 68) นางอังคณา นีละไพจิตร ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา รับหนังสือจาก นางชลิดา ทาเจริญศักดิ์ ผอ.มูลนิธิศักยภาพชุมชน กรณีชาวอุยกูร์ 43 คน จะถูกบังคับส่งกลับไปเผชิญภัยอันตรายที่ประเทศจีน หลังจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนได้เข้าไปตรวจเยี่ยมชาวอุยกูร์ และทราบว่ามีการให้กรอกข้อมูลแบบฟอร์มส่งตัวกลับแต่ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าส่งกลับไปที่ใด 


“มีข่าวว่าจะมีการส่งกลับเนื่องจากมีการประชุม สมช. เพราะฉะนั้นด้วยความกังวลและเป็นห่วงจึงขอยื่นหนังสือให้กับนางอังคณา นีละไพจิตร ในฐานะประธานคณะกรรมการการพัฒนาพัฒนาการเมืองฯเพื่อติดตามเรื่อง” นางชลิดากล่าว


นางอังคณา เปิดเผยว่าได้รับการประสานในเรื่องนี้ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งกรรมาธิการไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมาได้ทำหนังสือไปถึงสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อขอเยี่ยมผู้ต้องกักชาวอุยกูร์ จำนวน 43 คน และทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้ประสานว่าขอเลื่อนการเข้าเยี่ยมออกไป และ 1 สัปดาห์ถัดมากรรมาธิการได้ส่งหนังสือฉบับที่สอง แจ้งว่ากรรมการรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยม และจะขอเข้าเยี่ยมในวันที่22 มกราคม 


“อย่างไรก็ดีสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้ส่งหนังสือตอบกลับกลับมา โดยเชิญกรรมาธิการไปพบที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่แจ้งวัฒนะ ตรงนี้ผิดวัตถุประสงค์ของกรรมาธิการ เพราะต้องการไปเยี่ยมชาวอุยกูร์ 43 คน ต้องการไปรับฟังบรรยายสรุปข้อมูล จากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งกรรมาธิการสามารถไปเยี่ยมผู้ต้องกัก พร้อมรับฟังข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้อยู่ และวันนี้จะส่งหนังสือถึงสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอีกครั้งหนึ่งเพื่อขอเข้าเยี่ยมชาวอุยกูร์ทั้ง 43 คน“ นางอังคณากล่าว


นางอังคณาระบุต่อ  ตั้งแต่ปี 2558 มีชาวอุยกูที่เข้ามาในประเทศไทยประมาณ 300 คน เนื่องจากมีความรู้สึกไม่ปลอดภัยในประเทศต้นทาง จากนั้นมีการส่งผู้หญิงและเด็ก 170 คน ไปประเทศตุรกี ต่อมามีการส่งชาวอุยกูร์ 109 คนกลับจีน คาดว่าจะเป็นช่วงเดือนพฤษภาคม 2558 โดยในช่วงนั้นมีภาพข่าวปรากฏออกมาว่าชาวอุยกูร์ ที่ถูกส่งกลับ แต่ถูกใส่กุญแจมือและมีภาพปิดหน้า ซึ่งทางสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติได้ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลต่อความไม่ปลอดภัย


ยังระบุเพิ่มเติม ปัจจุบัน เหลือชาวอุยกูร์ในประเทศไทยจำนวน 48 คน 43 คนอยู่ในห้องกักและอีก  5 คน อยู่ในเรือนจำ เนื่องจากมีความพยายามที่จะหลบหนี และที่ผ่านมากรรมาธิการได้รับเรื่องร้องเรียน ว่ามีผู้ที่มีอาการป่วยหนัก รวมถึงมีผู้ที่อดอาหาร และได้รับหนังสือจากชาวอุยกูที่ได้ส่งแจ้งเรื่องมาว่าแสดงความกังวลจะถูกส่งตัวกลับ 


“เค้าเชื่อมั่นว่าการที่ถูกส่งกลับประเทศจีนจะทำให้เขาได้รับอันตราย ตรงนี้จึงเป็นที่มาของการกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองการมีส่วนร่วมของประชาชนและสิทธิมนุษยชนพยายามขอเข้าเยี่ยม ดิฉันเคยเข้าเยี่ยมชาวอุยกูร์หลายครั้งเมื่อประมาณ2-3 ปีที่ผ่านมา ตอนเป็นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และได้รับโอกาสเข้าเยี่ยมมาตลอด แต่ในช่วงเดือนนี้ไม่ได้รับการอนุญาตให้เข้าเยี่ยม อย่างไรก็ดีกรรมาธิการจะตรวจสอบเรื่องนี้โดยจะเชิญทุกภาคส่วนมาให้ข้อมูลในวันที่ 29 มกราคม จากนั้นจะมีข้อเสนอแนะไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง” นางอังคณากล่าว


ประธานคณะกรรมการการพัฒนาการเมือง ฯ ยังกล่าวเน้นย้ำว่าการผลักดันชาวอุยกูร์กับประเทศต้นทางอาจจะเป็นการละเมิดพระราชบัญญัติทรมานและอุ้มหาย มาตรา 13 รวมถึงอนุสัญญาระหว่างประเทศที่ไทยเป็นภาคีทั้งอนุสัญญาต่อต้านการทรมาน และอนุสัญญาด้านการบังคับสูญหายของสหประชาชาติ ในบทที่ 16 ดังนั้นรัฐบาลจะต้องระมัดระวังในการกระทำการที่อาจจะนำไปสู่การละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง