สู้น้ำท่วมขัง 5 วัน สุดท้ายไม่รอด ทุเรียนยืนต้นตาย

สู้น้ำท่วมขัง 5 วัน สุดท้ายไม่รอด ทุเรียนยืนต้นตาย

68804 ส.ค. 67 16:12   |     Tum1

สวนทุเรียนเมืองจันท์สู้น้ำท่วมขัง 5 วัน สุดท้ายไม่รอด ยืนต้นตายคาสวน คาดความเสียหายหลายล้านบาท

วันที่ 4 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี แม้ว่าจะเริ่มคลี่คลายบ้างแล้ว ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายหลังน้ำลดในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่ ต.วันแซ้ม อ.มะขาม ที่มีพื้นที่เกษตรกรรมสวนผลไม้ ถูกน้ำขังนาน 5 วัน ทำทุเรียนยืนต้นตาย คาดว่า อุทกภัยครั้งนี้จะส่งผลทำให้มีความเสียหายหลายล้านบาท

ขณะที่ระดับน้ำที่แม่น้ำจันทบุรี บริเวณรอยต่อ อ.มะขาม ที่สะพานน้ำรักเกาะสาร ระดับน้ำลดลงกว่า 2 เมตร ชาวบ้านริม 2 ฝั่งคลอง ทยอยสำรวจความเสียหาย และปรากฏชัดจากสภาพต้นทุเรียน อายุ 1-4 ปี ใบกลายเป็นสีเหลือง เหี่ยวเฉา และคาดว่า หลังจากนี้อีกประมาณ 1 สัปดาห์ จะเห็นภาพความเสียหายชัดเจนมากขึ้น หรือที่เรียกว่า “ยืนต้นตาย

       

จากการสอบถาม นายบุญอยู่ ชัยดิษฐ์ อายุ 62 ปี ชาวบ้านเจ้าของสวนทุเรียน ต.วังแซ้ม อ.มะขาม จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นหนึ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากอุทกภัยครั้งนี้ สะท้อนถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นว่า หลังจากที่น้ำท่วมขังมานานเกือบหนึ่งสัปดาห์ ต้นทุเรียนอายุ 1-4 ปี มีสภาพใบเหลืองและทยอยยืนต้นตาย คาดว่า จะมีต้นทุเรียนเสียหายประมาณ 60 ถึง 80 ต้น ส่วนต้นเรียนอายุ 5 ปีขึ้นไป ที่เริ่มให้ผลผลิตแล้ว หลังจากนี้ อาจจะต้องเผชิญกับโรคเชื้อรา รากเน่า โคนเน่า ซึ่งชาวสวนจำเป็นต้องเร่งสำรวจ และหาองค์ความรู้ เพื่อมาเยีวยารักษาฟื้นฟูต้นทุเรียนที่เหลือ

หลังฝนตกหนักในช่วงวันที่ 27-28 ก.ค.67 ที่ผ่านมา ตอนแรกก็เชื่อว่า น้ำจะเข้าท่วมบริเวณสวนทุเรียน และแม่น้ำสาขาของแม่น้ำจันทบุรี จะสามารถระบายน้ำออกได้ ภายใน 1-2 วัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี แต่สำหรับน้ำท่วมครั้งนี้ กลับระบายออกได้ช้า ทิ้งช่วง ส่งผลให้ทุเรียนแช่น้ำนานประมาณ 5 วัน จนทุเรียนยืนต้นตายดังกล่าว





สำหรับในอนาคต ยังตัดสินใจไม่ได้ว่า จะปลูกใหม่ทดแทน หรือเปลี่ยนมาปลูกพืชที่ทนน้ำ จากนี้คาดว่า หน่วยงานด้านเกษตรที่เกี่ยวข้อง จะเข้ามาสำรวจความเสียหาย ซึ่งหลักเกณฑ์การเยียวยานั้น ไม่สามารถทดแทนต้นทุเรียนที่เสียหาย ไปได้ แต่ก็เป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรที่เกิดขึ้นถ้วนหน้า ที่สำคัญ คือหน่วยงานภาครัฐ จะได้หาทางแก้ไข ให้การระบายน้ำในพื้นที่ ไหลออกสู่แม่น้ำจันทบุรีได้รวดเร็วกว่าครั้งนี้


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง