เปิดประวัติ "กามิน" อินฟลูสาวเกาหลี คู่ดราม่า "แน็ก ชาลี"
เปิดประวัติ "กามิน" อินฟลูสาวเกาหลี คู่ดราม่า "แน็ก ชาลี"
เปิดประวัติ “กามิน” อินฟลูเอนเซอร์สาวเกาหลีคนดัง จากคู่จิ้นสู่คู่ดราม่า อดีตพระเอกหนังดัง “แน็ก ชาลี”
(เรียบเรียงโดย ปิยะธิดา ผ่านจังหาร)
ดรามาไม่จบไม่สิ้น! หลังจากที่ข่าวความสัมพันธ์ระหว่าง "กามิน" ติ๊กต็อกเกอร์สาวสวยชาวเกาหลี และ "แน็ก ชาลี" นักแสดงชื่อดัง กลายเป็นประเด็นร้อนแรงบนโลกโซเชียลมาสักระยะหนึ่ง และล่าสุดได้ดรามาก็ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักเธออีกครั้งกันว่าสาวสวยคนนี้คือใคร
ประวัติ
กามิน หรือ จีกามิน มีฉายาที่ชาวไทยตั้งให้คือ "น้องขมิ้น" เกิดเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 1993 เคยศึกษาที่ Woosuk University ด้านศิลปะการเต้น เธอสามารถเต้นได้ทั้งเคป๊อป แจ๊ส บัลเลต์ นอกจากนี้มีอาชีพถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณาอีกด้วย และปัจจุบันเป็นติ๊กต็อกเกอร์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ภายใต้แอ็กเคานต์ชื่อ mmimi.j โดยเธอมีผู้ติดตามกว่า 1.2 ล้านคน และผู้ติดตามบนอินสตาแกรมกว่า 3.5 แสนคน
จุดเริ่มต้นและเส้นทางสู่ความดัง
กามิน สาวสวยชาวเกาหลีใต้ ที่กลายมาเป็นที่รู้จักในวงกว้างในประเทศไทย โดยเฉพาะหลังจากการจับคู่จิ้นกับนักแสดงชื่อดังอย่าง แน็ก ชาลี ทำให้เธอได้รับความสนใจและมีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนหน้านี้ กามินเป็นติ๊กต็อกเกอร์ธรรมดาคนหนึ่งที่มีผู้ติดตามหลักหมื่น สร้างคอนเทนต์หลากหลาย เช่น การเต้น การกินอาหาร หรือการรีวิวสถานที่ต่างๆ และได้ไลฟ์วันละหลายชั่วโมงเพื่อเป็นการหารายได้ไปเรียนต่อปริญญาโท แต่จุดเปลี่ยนสำคัญคือการที่ แน็ก ชาลี ได้ออกมาไลฟ์สดและแสดงความชื่นชอบในตัวเธอ ทำให้แฟนคลับของแน็กหันมาติดตามกามินเป็นจำนวนมาก
หลังจากที่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง กามินก็มีโอกาสในการทำงานมากขึ้น เช่น การร่วมงานกับแบรนด์ การถ่ายแบบ และการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ทั้งในไทยและเกาหลี หลังจากที่เธอมีชื่อเสียงมากขึ้น ก็ได้รับเชิญไปร่วมงานอีเวนต์ใหญ่มากมาย เช่น งานบิลบอร์ดประเทศเกาหลีใต้ และงานโปรโมตการท่องเที่ยว ในฐานะทูตการท่องเที่ยวเกาะเซจู เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทย-เกาหลีใต้ ทำให้เธอได้มีโอกาสในหน้าที่การงานมากขึ้นจนสามารถดูแลครอบครัวได้
จุดเริ่มต้นของดราม่า
ก่อนหน้านี้ กามินเคยมีดราม่ากับแน็กไปแล้ว ประเด็นกลับประเทศเกาหลีแล้วขาดการติดต่อ จนฝ่ายชายน้อยใจออกมาไลฟ์ระบายความในใจ จนเป็นเรื่องเข้าใจผิดใหญ่โต สุดท้ายทั้งคู่ก็ปรับความเข้าใจกันแล้วกลับมาร่วมงานอีกครั้ง และล่าสุดดรามาก็ประทุขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากนั้น แน็ก ออกมาประกาศว่าแยกย้ายกับ กามิน จนเกิดข่าวลือเลิกกัน
จุดแตกหักของความรักสู่ดราม่าดุเดือด
จากนั้นแฟนๆของทั้งสองฝ่ายก็ต่างออกมาโต้เถียงกันไปมา มีข่าวลือให้เข้าใจผิดกันไปหลายเรื่อง จนเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2567 ทางแน็กได้ออกมาแถลงผ่านไลฟ์ติ๊กต็อกเคลียร์ทุกประเด็น พร้อมร่ายยาวถึงเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นระหว่างตัวเองกับ กามิน โดยหลังจากที่ฝ่ายหญิงกลับประเทศไปและยังไม่ได้คุยกันตั้งแต่ 18 สิงหาคม ซึ่งเป็นการยุติความสัมพันธ์ตั้งแต่ตอนนั้น
ซึ่งแน็กพูดถึงประเด็นแยกย้ายว่า "สองอาทิตย์กับกี่วันไม่รู้ที่ตัวผมยังไม่ได้คุยอะไรกันเลย ก็นั่นแหละตามที่มันเป็นก็คือแยกย้ายจริงๆ ก็ให้เขาได้ตามหลายๆ สิ่งที่เขาต้องการกันไป" เขายังพูดระบายความในใจอีกว่าฝ่ายหญิงไม่เคยอยู่อย่างลำบาก มีบ้าน มีโรงแรมให้พัก มีข้าวน้ำให้กิน ช่างแต่งหน้าก็จ้างให้ และยังบอกอีกว่า "ผมทำให้คุณมาทำงานในไทย จากที่คุณไลฟ์วันละกี่ชั่วโมง เหนื่อยวันละกี่ชั่วโมง ทำงานทั้งเดือนทั้งปี ได้เงินเดือนแค่เท่าไหร่ ผมทำให้คุณมาทำงานที่ประเทศไทย ได้ชั่วโมงละ 4 แสน - 1 ล้าน แล้วแต่งานนะครับ ไม่พอใจหรอครับ นี่คือความลำบากหรอ" นวันที่ฝ่ายหญิงกลับประเทศก็มีแม่และน้ออาเธอร์ขนกระเป๋าไปส่ง แต่ตัวเองไม่ได้ไปเพราะยังทำใจไม่ได้ ไม่ได้ไล่ให้ฝ่ายหญิงกลับตามที่ข่าวลือกัน พร้อมบอกไม่อยกให้แฟนๆต้องโจมตีกันไปมา ขอรับจบเอง
เวลาต่อมาทางฝ่ายกามินก็ได้มีการออกมาไลฟ์เช่นเดียวกัน แต่เป็นการมาไลฟ์แกะพัสดุที่ส่งมาจากไทยให้แฟนๆได้ดูกัน แต่กลับโดนแฟนคลับของทางฝ่ายชายมาถล่มว่าเป็นขโมยหอบของกลับประเทศ กอบโกยเงินแล้วก็หนีไป จนเธอร้องให้กลางไลฟ์พร้อมถามว่า "ทำอะไรผิด" แล้วก็ยอมรับว่าเลิกกับฝ่ายชายแล้วจริงๆ ขอโทษทุกคน อยากให้ทุกคนมีความสุข พร้อมบอกว่า ภูมิใจในตัวเอง ที่ซื่อสัตย์ จริงใจ และความสามารถของตนเองที่มาถึงจุดนี้ได้ ถ้าใครที่ดูแล้วไม่ชอบก็สามารถเลิกติดตามกันได้
เรียกได้ว่าเป็นมหากาพย์ดรามาที่มาแรงสุดๆตอนนี้ก็ว่าได้จากคำพูดเหล่านี้ชาวเน็ตก็เสียงแตกกัน ทั้งเข้าข้างฝ่ายชายที่เหมือนโดนหลอก โดนเอาเปรียบ พร้อมวิจารณ์ฝ่ายหญิงว่าถ้าไม่ใช่เพราะแน็ก ก็ไม่มีทางดังในประเทศไทยขนาดนี้ และอีกด้านที่เข้าข้างทางฝ่ายหญิงก็ออกมาปกป้องว่า ฝ่ายชายไม่แมน เอาแต่พูดโทษผู้หญิง ไม่มีความเป็นผู้ใหญ่เลย หลังจากนี้ได้แต่รอติดตามว่าเรื่องทั้งหมดจะเป็นอย่างไรต่อไป