ติวเตอร์สาวลวงโลก หลอกเก็บเงินผู้ปกครองสอนพิเศษ แต่ไม่สอนจริง ผู้เสียหายแห่แจ้งความ

วันที่ 12 ม.ค.68 ที่ จ.ลำพูน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.นก (นามสมมุติ) ผู้เสียหายจากการที่ถูกติวเตอร์สาวหลอกสอนพิเศษให้ลูกสาว จ่ายเงินแล้วแต่ไม่มีการสอนจริง พากลุ่มเพื่อนผู้เสียหายไปแจ้งความต่อ พ.ต.ต.ทิฐินันท์ ศรีเชียงขวาง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำพูน เพื่อดำเนินคดีกับ น.ส.พรวราณัฐ หรือ ครูป๊อบ (สงวนนามสกุล) ที่หลอกให้โอนเงินค่าสอนพิเศษของลูกสาว แต่ไม่มีการสอนจริงดังกล่าว

สืบเนื่องจาก ผู้เสียหายรายหนึ่ง ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก กลุ่มหนุ่มสาวนิคมฯลำพูน ว่าถูกครูป๊อบ หลอกให้โอนเงินเป็นค่าติวให้ลูกสาว ที่ต้องการสอบเข้าเรียนโรงเรียนชื่อดังประจำจังหวัดลำพูน เมื่อจ่ายเงินแล้ว แต่ไม่มีการสอนจริง ขอเงินคืนก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด หลังโพสต์ข้อความไปปรากฎว่า มีผู้เสียหายอีกหลายราย ติดต่อสอบถามเข้ามาว่า ตนเองก็เคยโดนลักษณะเดียวกัน

น.ส.นี (นามสมมุติ) หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า ตนค้าขายไม่มีเวลาสอนการบ้านให้ลูก และมีเวลาอยู่กับลูกน้อยมาก แต่ลูกสาวมีความประสงค์จะสอบเข้าชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนชื่อดังของจังหวัดลำพูน จึงอยากหาที่เรียนพิเศษ และได้ไปเห็นโฆษณาในเพจเฟซบุ๊ก กลุ่มหนุ่มสาวนิคมฯ จึงได้มีการติดต่อกันทางโทรศัพท์ ตกลงค่าเรียนกันสัปดาห์ละ 3 วัน จำนวน 2 เดือน รวมค่าเดินทาง เป็นเงินจำนวน 21,500 บาท ได้มีการโอนเงินจ่ายค่าเรียนไปแล้วทั้งหมด 

หลังจากนั้น ครูป๊อบ ติวเตอร์สาว ก็หายเงียบไปขาดการติดต่อ โทรไปก็ไม่รับสายบ้าง ปิดเครื่องบ้าง อ้างติดธุระบ้าง สาระพัดข้ออ้าง ล้วนเป็นเรื่องส่วนตัวทั้งนั้น มิหนำซ้ำยังมีข้อเสนอมาใหม่ว่า หากอยากให้ลูกสอบเข้าโรงเรียนดังกล่าว ต้องจ่ายอีก 30,000 บาท รับรองเข้าเรียนได้ จะฝากให้เป็นพิเศษ เพียงแค่เข้าสอบพอเป็นพิธีเท่านั้น แต่ตนไม่รับข้อเสนอนี้ และตนจึงขอเงินคืน แต่ติวเตอร์สาวก็อ้างบอกว่า สมัครเรียนไปแล้ว คืนเงินไม่ได้บ้าง จนถึงขนาดบอกว่า ได้นำเงินไปใช้ส่วนตัวแล้ว ไม่สามารถคืนเงินให้ได้ 

ตนจึงนำข้อความการติดต่อโพสต์ลงในกลุ่มหนุ่มสาวนิคมฯ ปรากฎว่า มีผู้ปกครองหลายรายติดต่อตนเข้ามาว่าโดนหลอกลวงลักษณะเดียวกัน บางรายเสียเงินหลักหมื่น บางรายหลักพัน และบางรายรับเงินไปแล้ว สอนบ้างไม่สอนบ้าง จึงพากันไปสืบค้นข้อมูลพบว่า บ้านอยู่ อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ มีพ่อเป็นอดีตข้าราชการตำรวจ แต่ไม่พบว่าครูป๊อบที่เขาเรียกกันนั้น เป็นข้าราชการครูจริงหรือไม่ เพราะไม่เคยพบเห็นแต่งกายข้าราชการครูแต่อย่างใด มีเพียงการใส่ชุดธรรมดา และชุดกีฬาที่ร่วมกิจกรรมกับโรงเรียนแห่งหนึ่งที่อ้างว่าสอนอยู่

ผู้ปกครองหลายราย คาดการณ์ว่า อาจจะเป็นเพียงลูกจ้างหรือครูอัตราจ้าง ซึ่งจะมีการสืบค้นต่อไป วันนี้จึงแน่ใจว่า ถูกหลอกแน่ๆ จึงพากันมาแจ้งความ โดยผู้ปกครองหลายคนแยกกันไปแจ้งความตามโรงพักต่างๆใกล้บ้าน เบื้องต้นพบผู้เสียหายนับ 10 ราย - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน