“ฟิล์ม” เปิดไทม์ไลน์คลิปเสียง ยืนยันแค่เสนอขายแผนประชาสัมพันธ์ ไม่ใช่ตบทรัพย์

“ฟิล์ม” เปิดไทม์ไลน์คลิปเสียง ยืนยันแค่เสนอขายแผนประชาสัมพันธ์ ไม่ใช่ตบทรัพย์

33412 พ.ย. 67 15:55   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” อดีตนักร้องดังแจงไทม์ไลน์คลิปเสียงคุยกับ “บอสปัน” ก่อนจะมีคดีความ ยืนยันไม่ได้ตบทรัพย์ แต่ทางคู่กรณีต้องการให้นำเสนอแผนงานประชาสัมพันธ์ปรับภาพลักษณ์องค์กร ตัวเลข 20 ล้านเป็น “ดิ ไอคอน” ตั้งงบมา

(12 พ.ย. 67) หลังจากรายการข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ทางช่อง 3HD ได้เปิดเผยคลิปเสียง ซึ่งระบุว่าเป็นการพูดคุยกันระหว่าง “บอสปัน” ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร ผู้ต้องหาคดี ดิ ไอคอน กับ “นักร้องเรียนหญิง” และ “ศิลปินชาย” ว่า มีการเรียกรับเงิน 20 ล้านบาท แลกกับการพาทีม ดิ ไอคอน ออกรายการดัง “โหนกระแส”


ก่อนที่ นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ ฟิล์ม อดีตนักร้องดัง จะออกมายอมรับว่าในคลิปเสียงนั้นเป็นตนเอง แต่ไม่ใช่ตนเองทั้งหมด และไม่ใช่การตบทรัพย์อย่างที่เข้าใจ


ก่อนที่นายรัฐภูมิจะตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงเรื่องนี้ โดยระบุว่าตนได้รับการติดต่อมาเมื่อเดือนมิถุนายนว่าทาง ดิ ไอคอน ต้องการให้บริษัทของตนทำแผนพีอาร์ใหม่ให้เพื่อปรับภาพลักษณ์และทิศทางการทำประชาสัมพันธ์ เนื่องจากบริษัทโดนโจมตีมาก่อน โดยคนกลางที่เป็นคนติดต่อตนมา คือ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ นักร้องเรียนหญิงที่เคยเป็นข่าวก่อนหน้านี้


ในรอบแรกที่ตนพูดคุยกับทางบริษัทดังกล่าว ได้ให้คนกลางกับ ดิ ไอคอน ไปเคาะเรื่องงบประมาณมา จากนั้นเดือนตุลาคม ก่อนที่จะมีเรื่องคดี ทาง น.ส.กฤษอนงค์ ได้โทรมาอีก บอกว่าบอสปันต้องการคุยด้วย เรื่องแผนงานพีอาร์ ซึ่งทางดิ ไอคอน ระบุว่ามีงบประมาณมาให้ 20 ล้านบาท


ในคลิปเสียงที่พูดคุยยืนยันว่าตนไม่ได้ขู่กรรโชก หรือตบทรัพย์ตามที่เป็นข่าว เรื่อง 20 ล้านบาทเป็นจำนวนเงินที่คนกลาง คือ น.ส.กฤษอนงค์ เป็นคนบอกมาว่าทางบริษัทมีงบอยู่ เรื่องออกรายการโทรทัศน์ตนเพียงชี้แนะ แนะนำให้ออกรายการเพื่อแก้ต่างแสดงความบริสุทธิ์ใจให้สาธารณชนรับทราบ โดยในเวลานั้นตนก็ยังไม่รู้ว่าบริษัทของเขาทำธุรกิจอย่างไร มีปัญหาอย่างไร


นายรัฐภูมิยอมรับว่าเคยพูดชื่อรายการโหนกระแสและ หนุ่ม กรรชัย จริง แต่จุดประสงค์เพื่อต้องการให้ขายงานแผนพีอาร์ได้เท่านั้น โดยที่ไม่ได้ไปบอกกับทางดิ ไอคอน ว่าถ้ามาออกรายการนี้แล้วรอด เพียงแค่แนะนำว่าควรออกรายการนี้ เพราะเรตติ้งดี ประชาชนเชื่อถือ แต่สุดท้ายทุกอย่างประชาชนต้องเป็นคนตัดสิน ซึ่งนี่เป็นความผิดของตนเองและเป็นบทเรียนครั้งใหญ่


ซึ่งหลังจากพยายามขายงานแล้วตนก็ไม่ได้รับการว่าจ้างงานดังกล่าว และตนมาทราบภายหลังว่าทางบริษัททำธุรกิจที่ไม่โปร่งใส ตนก็ไม่ได้เข้าไปข้องเกี่ยวและย้ายมาอยู่ฝั่งเดียวกับประชาชน-ผู้เสียหาย


ฟิล์มรัฐภูมิระบุว่า หนุ่ม กรรชัย ได้โทรศัพท์หาตนวานนี้ และได้ต่อว่าตนเหมือนกับที่ได้ต่อว่าผ่านทางรายการข่าว ซึ่งตนก็ยอมรับและรู้สึกเสียใจที่ไปหลงเชื่อคนกลาง และเสียใจที่ได้อ้างชื่อของคุณ หนุ่ม กรรชัย และรายการโหนกระแสไป


สำหรับตัว น.ส.กฤษอนงค์ นั้นตนรู้จักผ่านสื่อในสมัยที่ทำเรื่องขายตรง กอนที่เขาจะจ้างบริษัทของตนถ่ายทำคลิปพีอาร์ให้กับพรรคการเมืองของ น.ส.กฤษอนงค์


นายรัฐภูมิระบุอีกว่าหากต้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายตนก็พร้อม แต่เรื่องนี้ตนไม่ได้เข้าไปมีผลประโยชน์ใดทั้งสิ้น เป็นฝั่งของตนและบริษัทของตนเป็นผู้เสียหายด้วยซ้ำ ซึ่งตอนนี้ได้ให้ทีมทนายความรวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อดำเนินการทางกฎหมายจากฝั่งตนแล้วด้วย


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง