ผอ.โรงเรียนแจงไม่มีการเรียกรับเงินบริจาคสร้างโดม
ผอ.โรงเรียนแจงไม่มีการเรียกรับเงินบริจาคสร้างโดม
ผู้อำนวยการโรงเรียน ยืนยันทางโรงเรียนไม่มีการเรียกเงินบริจาคสร้างโดม ซึ่งขึ้นอยู่กับความประสงค์ของผู้ปกครองเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่จะมีผู้ปกครองบริจาค โดยเงินจะเข้ากองทุนไว้ใช้แจกทุนการศึกษา
(6 พ.ย. 67) จากกรณีที่นางสาวอริยา อายุ 31 ปี ผู้ปกครองของน้องออกัส อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 2 ได้ออกมาเปิดเผยว่า ถูกทางโรงเรียนเรียกให้บริจาคเงินจำนวน 2,000 บาท เพื่อบริจาคในการสร้างโดมของเรียน จนทำให้ต้องย้ายไปสมัครเข้าเรียนที่โรงเรียนเทศบาลอื่น
นายบุญธรรม โบราญกูล ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลวัดกลาง กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนั้น เริ่มจากเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนผู้ปกครองได้เดินทางมาติดต่อ เพื่อขอสมัครเข้าเรียนกลางเทอม เนื่องจากลูกชายเคยเรียนเมื่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มาก่อน แต่ต้องย้ายไปที่จังหวัดชลบุรี เพื่อทางผู้ปกครองอยากนำไปอยู่ใกล้ชิด ตนเองได้ตอบรับที่จะให้เข้าเรียน แต่จะต้องมีเอกสารรับรองผลการเรียนฉบับจริง จึงจะสามารถรับได้เข้าศึกษาต่อได้
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 67 ที่ผ่านมา ผู้ปกครองได้เดินทางมาแต่ตนเองไม่อยู่ เพราะไปพบตามที่แพทย์นัด จนกระทั่งได้มาพูดคุยกับครูของโรงเรียน โดยทางโรงเรียนได้แจ้งว่า จะต้องชำระ ค่าธรรมเนียมตามประกาศโรงเรียน ซึ่งเป็นค่าอุปกรณ์การเรียนการสอนเป็นเงินจำนวน 1,700 บาท แต่ทางผู้ปกครองบอกว่าเงินไม่พอ จะขอมาชำระในวันที่ 15 พ.ย. 67 โดยครูได้ชวนผู้ปกครองเพื่อบริจาคเงิน ในการสร้างโดมที่อยู่หน้าโรงเรียน หรือบริจาคเข้าโรงเรียน เพื่อนำไปใช้ในการเป็นทุนการศึกษา แต่ทางผู้ปกครองไม่มีเงินจะขอบริจาคจำนวน 300 บาท ทางครูก็ไม่ว่าอะไร
จนกระทั่งผู้ปกครองได้ออกจากโรงเรียน ก่อนที่จะมีการโพสต์ข้อความในโซเชียล ว่าทางโรงเรียนมีการเรียกรับเงินบริจาค ซึ่งในวันดังกล่าวหากตนเองไม่ได้ไปพบแพทย์ ตนเองก็สามารถที่จะเซ็นยกเลิกค่าธรรมเนียมของโรงเรียนได้ทันที วันต่อมาได้มีการเรียกผู้ปกครองมาพูดคุย ซึ่งทางโรงเรียนก็พร้อมที่จะรับเข้าเรียน แต่ทางผู้ปกครองได้ตัดสิน ให้ลูกไปเข้าเรียนที่โรงเรียนเทศบาลบ้านสามเหลี่ยมแทน
โดยตนเองก็บอกไปอีกว่า หากต้องการเรียนที่โรงเรียนใด ในสังกัดเทศบาลนครขอนแก่น ตนเองก็พร้อมจะช่วยเต็มที่ โดยครูที่สัมภาษณ์เด็ก พูดกับผู้ปกครอง เรื่องขอชวนบริจาคเงินสร้างโดมพร้อมตนเอง ก็ได้ยกมือไหว้ขอโทษกับทางผู้ปกครองถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากต้องการจะเรียนที่โรงเรียนเทศบาลวัดกลาง ตนเองก็พร้อมที่จะรับเข้าเรียน จากนั้นผู้ปกครองก็บอกว่าขอกลับไปปรึกษาก่อน ต่อมาจึงได้สมัครเรียนที่โรงเรียนเทศบาลบ้านสามเหลี่ยม
ส่วนโดมที่สร้างเป็นเงินงบประมาณของโรงเรียนที่ได้รับ คิดเป็นร้อยละ 90 ที่นำมาก่อสร้าง โดยใช้ในการใช้จ่ายค่าออกแบบ ค่าวัสดุก่อสร้าง อีก 10 เปอร์เซ็นต์ จะใช้เงินรายได้อื่นของโรงเรียนมาเป็นค่าจ้างแรงงานก่อสร้าง เพื่อใช้หลบแดดหลบฝน และทำกิจกรรมของนักเรียน ส่วนผู้ปกครองต้องการจะบริจาคหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับศรัทธาจะบริจาคหรือไม่บริจาคก็ได้ หรือจะบริจาคเป็นทุนการศึกษาก็ได้ เพราะในแต่ละปีคนที่บริจาคเงินเพื่อเป็นทุนการศึกษา ทางโรงเรียนจะเชิญมาร่วมในพิธีมอบทุนการศึกษา ทุกๆวันที่ 12 ส.ค. ของทุกปี ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นเกิดจากการที่สื่อสารเข้าใจผิด