ญาติบุกโรงพักจี้ถามคดีฆ่าคนตาย เจอตำรวจบ่ายเบี่ยงบอกงานเยอะ

ญาติบุกโรงพักจี้ถามคดีฆ่าคนตาย เจอตำรวจบ่ายเบี่ยงบอกงานเยอะ

224803 ก.ค. 67 11:13   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

ญาติบุกโรงพักลำปาง จี้คดีหนุ่มใหญ่วัย 39 ถูกพี่ชายเพื่อนกระทืบดับ ตำรวจเจ้าของคดีอ่านไลน์ไม่ตอบ มาเจอก็อ้างยุ่งงานจราจร สุดท้ายผู้บังคับบัญชาต้องลงมากำกับเอง

(3 ก.ค. 67) วานนี้(2 ก.ค.) ครอบครัวของนายบรรธนาชัย หรือ โย อายุ 39 ปี ผู้เสียชีวิต ประกอบด้วยนางวรันณ์ธร ผู้เป็นแม่, นางรวงทอง ภรรยา และน้องข้าวหอม ลูกสาววัย 12 ขวบ พร้อมด้วยเพื่อนๆ ของนายบรรธนาชัย เดินทางไปที่ สภ.เมืองลำปาง เพื่อนำพยานเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมและขอทราบความคืบหน้าของคดีที่นายบรรธนาชัย ถูกพี่ชายของเพื่อนทำร้ายร่างกายถึงแก่ชีวิต


โดยคดีนี้นางรวงทองเข้าแจ้งความไว้ตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้า พยายามโทรศัพท์เพื่อสอบถามความคืบหน้าของคดี แต่ก็ไม่ได้รับตอบ เนื่องจากพนักงานสอบสวนไม่รับโทรศัพท์ อ่านไลน์แต่ไม่ตอบข้อความ มาพบก็ไม่เจอ ทำให้ญาติทุกคนกังวลใจเกี่ยวกับคดีเนื่องจากเวลาผ่านเกือบ 1 เดือนแล้ว


เมื่อครอบครัวและเพื่อนของผู้เสียชีวิตมาถึงก็นั่งรอพนักงานสอบเกือบครึ่งวัน โดยพนักงานสอบสวนไม่ให้ความสนใจ บอกว่ายุ่งกับคดีจราจร ทั้งๆ ที่คดีดังกล่าวมีบริษัทประกันภัยคอยเดินเรื่อง และเมื่อญาติรอไม่ไหวจึงเข้าไปในห้องเพื่อจะบอกว่าวันนี้ได้พาพยานมาพร้อมแล้วเพื่อมาให้ปากคำเพิ่มเติม แต่ก็ไม่ทันพูดอะไร พนักงานสอบสวนกลับอารมณ์เสีย ต่อว่านางรวงทองและญาติที่เข้าไปในห้อง และบอกว่าจะเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน ไม่ทำคดีนี้แล้วเพราะงานเยอะ จะให้ไปพบกับรอง ผกก.แทน ทำให้ทุกคนถึงกับ งง  เพราะ การที่มาในวันนี้ต้องการมาถามความคืบหน้าและนำพยานมาให้ปากคำแต่กลับถูกทำเหมือนไม่มีตัวตน ไม่มีการอธิบายกับญาติผู้ตายใดๆทั้งสิ้น และเรียกให้ทนายออกจากห้องเพื่อให้ไปคุยกันบนห้อง รอง ผกก.


ผู้สื่อข่าวจึงได้รายงานพฤติกรรมดังกล่าวให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง การที่ชาวบ้านมาพบพนักงานสอบสวนเพราะร้อนใจ กังวลใจ เนื่องจากครอบครัวสูญเสีย แต่กลับได้รับการปฎิบัติแบบไม่แยแส ไม่ใส่ใจ ไม่มีความเป็นมิตรหรืออธิบายใดๆ ให้ชาวบ้านเข้าใจ  จากนั้นไม่ถึง15 นาที พนักงานสอบสวนคนดังกล่าวได้เดินลงมาจากชั้นสอง และเรียกให้ญาตินำพยาน 3 ปาก ซึ่งประกอบ แม่ของผู้ตาย เพื่อนของผู้ตายซึ่งเป็นน้องชายของผู้ก่อเหตุ และเพื่อนของผู้ตาอีก1คน เข้าไปให้ปากคำพร้อมทำหน้าที่ต่อจนเสร็จ ในเวลา 16.30 น.


จากนั้น พนักงานสอบสวนได้เดินทางไปที่บ้านของผู้ก่อเหตุเพื่อค้นหาวัตถุพยาน และวันรุ่งขึ้น(3 ก.ค.)จะได้สอบปากคำของแพทย์ในการชันสูตรพลิกศพที่ระบุว่าผู้ตายเสียชีวิตเพราะถูกทำร้ายร่างกายจนเลือดออกที่ก้านสมองจนเสียชีวิต ต่อไป


สำหรับคดีดังกล่าวนางรวงทองเล่าว่า ช่วงเย็นของวันที่ 3 มิ.ย. นายโยผู้เป็นสามีได้ออกไปดื่มสังสรรค์ที่บ้านของนายต้อม เพื่อนสนิทที่ดื่มกินด้วยกันเป็นประจำ คืนนั้นสามีไม่ได้กลับบ้าน จนกระทั่งช่วงเที่ยงนายต้อมได้พาสามีมาส่งที่บ้าน ตอนนั้นตนไปทำงาน เมื่อกลับมาบ้านในตอนค่ำจึงพบว่าสามีถูกทำร้าย หน้าตาบวมปูด โดยสามีเล่าว่าถูกพี่ชายของนายต้อมทำร้ายมา ตอนนั้นไม่คิดว่าอาการของสามีจะหนัก จึงให้กินยาแก้ปวดพาราเซตามอลแล้วนอนพัก


วันต่อมา(5 มิ.ย.) ตนไปทำงาน ตอนเย็นลูกสาวกลับจากโรงเรียนมาพบว่านายโยมีอาการอ่อนแรง อาเจียน และต้องการเข้าห้องน้ำหลายครั้ง ลูกสาวจึงพาพ่อเข้าออกห้องน้ำ 3-4 ครั้ง และพยายามถามพ่อว่าไปโรงพยาบาลไหม แต่พ่อก็ไม่ไป จนสุดท้ายพาพ่อเข้าห้องน้ำอีกครั้งแต่ครั้งนี้พ่อเงียบไปนานประมาณ 5 นาที ลูกสาวเรียกก็ไม่ตอบ จึงเข้าไปดูพ่อในห้องน้ำก็พบว่าพ่อนั่งพิงฝาไม่ได้สติ จึงเรียกย่า และรถกู้ชีพมาช่วย เมื่อมาถึงก็ปั้มหัวใจแต่ก็ไม่ทัน แพทย์โรงพยาบาลลำปาง ชันสูตรพลิกศพระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่าเลือดออกบริเวณก้านสมอง เนื่องจากถูกทำร้ายร่างกาย


นอกจากนี้นางวรันณ์ธร แม่ของนายโย ยังได้แจ้งความอีกคดีหนึ่งเพิ่มเติม ว่าถูกพระปลอม ทำทีมาร่วมเป็นเจ้าภาพงานศพของนายโย โดยระบุสิ่งของ ปัจจัยในการถวายพระไว้ให้กับนางวรันณ์ธร เพื่อจัดเตรียมตามที่บอก ซึ่งรวมเป็นเงินที่เพิ่มขึ้นจากปกติรวมแล้ว 22,488 บาท และเมื่อเสร็จงานศพลูกชาย ตนเองได้แจ้งค่าใช้จ่ายให้ทราบ ก็บ่ายเบี่ยงเรื่อยมาและสุดท้ายก็ปิดช่องทางการติดต่อ สร้างความเสียหายให้กับทางครอบครัว โดยเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าพระ 1 ใน 2 รูปนั้น เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้สึกบก ไปนั่งทานอาหารดื่มสุราที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดลำปาง และมีพฤติกรรมที่มักจะไปแอบอ้างว่าตนเองเป็นรองเจ้าคณะฯ ในจังหวัดเชียงใหม่ มักจะไปบอกบุญตามวัดเล็กๆในจังหวัดแถวเชียงรายและลำปาง เชียงใหม่ ซึ่งมีวัดบางแห่งถูกหลอกและได้แจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง