ตั้งกรรมการสอบ! หลวงตาวัย 83 ปี ปล่อยเงินกู้ให้แม่ค้าทอดมัน

(07 ก.ค. 67) ที่สำนักงานเจ้าคณะตำบลบางครุ-บางจาก วัดครุนอก ต.บางครุ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ทางพระครูโสภณวัชรปราการ เจ้าคณะตำบลบางครุ-บางจาก เจ้าอาวาสวัดครุนอก ได้มอบหมายให้ พระมหาเพชร พระวินยาธิการหรือตำรวจพระพร้อมคณะสงฆ์ น.ส.พรอิศรา ทองเจริญ ปลัดอำเภอพระประแดงฝ่ายความมั่นคง และ ร.ต.อ.รัชชานนท์ ยิ่งสมบัติ รอง สวป.สภ.พระประแดง ได้นัดหมายกันและเดินทางไปที่วัดครุใน ต.บางครุ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 

พระมหาวงษ์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าอาวาสวัดครุใน เพื่อรายงานกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และให้เรียกพระสง่า มาสอบถามข้อเท็จจริง แต่ปรากฏว่าพระสง่าได้ลาไปที่จังหวัดสระบุรี ตั้งแต่หลังเกิดเหตุ  

จากนั้นทางคณะและเจ้าหน้าที่ได้เดินไปตรวจสอบที่กุฏิของพระสง่า พบว่าประตูด้านหน้าล็อกด้วยกุญแจปิดเงียบ จากนั้นจึงได้โทรศัพท์ไปหาพระสง่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 

พระสง่า ยอมรับว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง โดยรอบแรกแม่ค้าและชาวบ้านมาด้วยกัน 3 คน ได้ขอยืมเงินไปในวงเงินจำนวน 30,000 บาท ส่วนรอบที่ 2 ได้มายืมเงินอีก และได้ยื่นข้อเสนอให้ดอกเบี้ยร้อยละ 5 ได้เอาเงินไปประมาณเกือบ 2 ปีแล้ว แต่ยังไม่เคยส่งคืนมาเลย พอเจอหน้าพระสง่าจึงได้ทวงถาม บอกเดี๋ยวมีเอาไปให้ ผัดอยู่อย่างนี้เรื่อยๆ จนบางครั้งก็มีปากเสียงกัน 

ส่วนคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง จากการได้ยินการให้การของพระสง่าทางโทรศัพท์แล้ว ยังไงก็ไม่สมควร เพราะอยู่ในฐานะพระสงฆ์ และก่อนหน้านี้ 1 เดือนทางพระสง่า โดนเรียกไปที่วัดครุนอก ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ชาวบ้านได้ร้องเรียนไปทางเจ้าคณะตำบลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบ ซึ่งมีสำนักพุทธศาสนา จังหวัดสมุทรปราการ กอ.รมน.จังหวัดสมุทรปราการ ฝ่ายปกครองอำเภอพระประแดง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระประแดง เรื่องการเดินบิณฑบาต พบพระปักหลักบิณฑบาตที่ร้านขายของใส่บาตร แล้วได้ตรวจสอบพบมีพระทำพิธีกรรมดังกล่าวจำนวน 5 รูป 1 ใน 5 คือพระสง่า แล้วพระสง่าก็มีเรื่องการปล่อยเงินกู้ 

จากนั้นจึงได้ทำทัณฑ์บนว่ากล่าวตักเตือน แต่หากพบว่ามีรูปใดกระทำความผิดซ้ำอีก จะทำการสึก ลาสิกขาบทโดยทันที จึงได้มีการลงบันทึกข้อความไว้เป็นหลักฐาน จนมาพระสง่า ได้มีเหตุการณ์นี้ขึ้นอีก ถึงอย่างไรก็ตาม ทางรองเจ้าอาวาสวัดครุใน จะทำการติดตามเรียกตัวพระสง่า มาเข้าสู่ระบบการตรวจสอบข้อเท็จจริงของเจ้าคณะตำบล  

และส่วนทางด้านกฎหมายเท่าที่ตำรวจจะรอให้ผู้เสียหาย แม่ค้าที่ขายทอดมันและชาวบ้านที่ถูกพระต่อว่ามาแจ้งความร้องทุกข์เสียก่อน หากพบการกระทำความผิดก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป