ชาวเน็ตแซวเพื่อไทยชูส่งเสริมขนส่งท้องถิ่น ทั้งที่สภาฯเพิ่งโหวตคว่ำร่างฯ

(29ส.ค.67) กรณีที่ประชุมสภาฯ วันวานนี้(28ส.ค.) มีมติไม่รับหลักการ ร่าง พ.ร.บ.ขนส่งทางบก ที่เสนอโดย สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ 1สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ด้วยคะแนนเห็นด้วย 151 เสียง , ไม่เห็นด้วย 251+3 เสียง , งดออกเสียง 2 เสียง ทำให้ร่างตกไปตั้งแต่วาระ 1

ขณะที่เฟซบุ๊ก"พรรคประชาชน" โพสต์ข้อความระบุว่า ที่ประชุมสภาฯ วันนี้ (28 ส.ค.) มีมติไม่รับหลักการ ร่าง พ.ร.บ.ขนส่งทางบก ที่เสนอโดย สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ - Surachet Pravinvongvuth สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ด้วยคะแนนเห็นด้วย 151 เสียง, ไม่เห็นด้วย 251+3 เสียง , งดออกเสียง 2 เสียง ทำให้ร่างตกไปตั้งแต่วาระ 1

ร่างกฎหมายฉบับนี้เสนอเรื่องที่เรียบง่าย คือการให้อำนาจท้องถิ่นจัดทำและจัดการรถเมล์ในพื้นที่ของตัวเอง เพราะเราเชื่อว่าปัญหาขนส่งสาธารณะใกล้ตัวประชาชน ท้องถิ่นรู้ดีที่สุด จะสามารถตอบสนองความต้องการซึ่งแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ได้ดีที่สุด ไม่ใช่ให้คนจากรัฐส่วนกลางที่อยู่ห่างไกลจากปัญหา เป็นคนอนุมัติตัดสิน

แม้ตอนอภิปราย สส.จากหลายพรรครวมถึงซีกรัฐบาล จะบอกว่าสนับสนุนการทำให้ประชาชนเข้าถึงขนส่งสาธารณะ สนับสนุนการกระจายอำนาจ แต่เมื่อโหวต ผลคะแนนก็เป็นตามที่เห็น หรือหากเห็นต่างจากสิ่งที่สุรเชษฐ์เสนอ มีข้อเสนอที่ดีกว่า ก็ทำร่างกฎหมายมาประกบได้ แต่ปรากฏว่าไม่มี

สิ่งที่เกิดขึ้น ประชาชนประเมินได้ว่าสุดท้ายคนเหล่านี้ จริงใจจริงจังต่อการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะและการกระจายอำนาจ จริงหรือไม่?

วันนี้ความฝันของประชาชนนับล้านที่จะได้ใช้ขนส่งสาธารณะ “คุณภาพดี ราคาถูก เข้าถึงง่าย” ก้าวแรกยังไม่เกิดขึ้น แต่เราจะไปต่อ ผลักดัน #ขนส่งสาธารณะเพื่อทุกคน จนกว่าจะสำเร็จ โปรดติดตามการทำงานของพรรคประชาชน ยังมีร่างกฎหมายอีกหลายฉบับเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง

ต่อมาวันนี้ เพจเฟซบุ๊ก"พรรคเพื่อไทย"โพสต์ข้อความว่า “ชนินทร์” ยืนยัน รัฐส่งเสริมระบบขนส่งสาธารณะในท้องถิ่นสามารถทำได้ พร้อมตั้งงบประมาณปี 68 สนับสนุนพร้อมให้ท้องถิ่นร่วมมีอำนาจในการตัดสินใจตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่

วันที่ 29 สิงหาคม 2567 นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความตั้งใจในการกระจายอำนาจเรื่องการขนส่งสาธารณะไปยังท้องถิ่นต่างๆ หลังการโหวตไม่รับหลักการร่างพ.ร.บ.การขนส่งทางบก ของอดีตพรรคก้าวไกลว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้ให้อำนาจท้องถิ่นเพิ่มเติมแล้วในหลายลักษณะ เช่น การออกกฎกระทรวง (ฉบับที่ 64 พ.ศ. 2567) ให้อำนาจกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถเข้ามามีส่วนร่วมเป็นผู้ดำเนินการให้บริการระบบการขนส่งด้วยรถโดยสารสาธารณะเอง และปัจจุบันคณะกรรมกลางฯ ตามพระราชบัญญัติฉบับนี้เอง ก็ได้มีการถ่ายโอนอำนาจการกำหนดราคาค่าโดยสาร และการออกใบอนุญาตประกอบการ ให้คณะกรรมการในระดับจังหวัดเป็นผู้ดำเนินการแทน และยังมีแนวคิดที่จะทยอยเพิ่มอำนาจการกำกับดูแลอื่นๆให้คณะกรรมการในระดับจังหวัดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผ่านกลไกของฝ่ายบริหาร 

นอกจากนี้ในงบประมาณ ฯ ปี 2568 ที่กำลังพิจารณาในสภาอยู่ กรมขนส่งทางบกเอง ก็ยังมีการตั้งโครงการเพื่อศึกษารูปแบบการอุดหนุนของรัฐที่ยั่งยืนในระบบโดยสารสาธารณะไว้ด้วย เพื่อออกแบบโมเดลการสนับสนุนของภาครัฐในการส่งเสริมให้ท้องถิ่นมีศักยภาพในการมีระบบขนส่งสาธารณะของตัวเองให้ได้อย่างยั่งยืน เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าผลการศึกษานี้จะเป็นประโยชน์กับท้องถิ่นต่างๆทั่วประเทศอย่างแน่นอน ทุกอย่างมีการดำเนินการอยู่ ไม่ใช่ว่ารัฐบาลไม่ทำอะไรเลย และคงไม่ช้าเกินไปหากในเวลานั้นเราจะหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณากันอีกครั้ง ในแง่มุมที่ครบถ้วนรอบด้านมากขึ้น

“เรามั่นใจว่าจะเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน พร้อมกับอีกหลายนโยบายในการยกระดับขนส่งสาธารณะอื่นๆทั้งรถเมล์ และรถไฟทางไกล เพื่อให้ขนส่งสาธารณะเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการบริการพี่น้องในแต่ละพื้นที่อย่างยั่งยืนต่อไป“ นายชนินทร์กล่าว 

ขณะที่ชาวเน็ตได้เข้าไปแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.ขนส่งทางบก ที่ สภาฯเพิ่งจะมีการโหวตคว่ำ ก่อนที่วันนี้ทางพรรคเพื่อไทยจะออกมายืนยันรัฐส่งเสริมระบบขนส่งสาธารณะในท้องถิ่น เช่น 

• ทำเมื่อไหร่บอกด้วย รัฐบาลโหวตคว่ำด้วยนะเมื่อวาน
• เมื่อวานไม่รับหลักการโหวตคว่ำ
• เมื่อวานยังคว่ำอยู่เลย
• ทำไมไม่โหวตผ่านวะ
• ตามสเตป คว่ำร่างฝ่ายค้าน เอามาทำเอง555555
• พรรคน่าจะพูดแต่ละเรื่องเร็วขึ้น ปล่อยให้ฝ่ายค้านสร้างสรรค์ตีกินก่อนทุกทีครับ
• โหวตคว่ำ แต่ทำ งงงงงง
• แต่โหวตค่ำ