เปิดประวัติ ‘บิว วราภรณ์’ จากยูทูบเบอร์สู่ CEO สาวมากความสามารถ

จากเหตุการณ์ดราม่าที่เพื่อนบ้านของบิว วราภรณ์ (ยูทูบเบอร์ชื่อดัง) ออกมาไลฟ์สดพูดถึงเหตุการณ์ที่หมาปอมของเขาถูกหมาไซบีเรียนของบิวกัดจนตาย โดยเขาเรียกร้องให้บิวออกมาขอโทษแทนที่จะให้สามีมาขอโทษ ซึ่งชาวเน็ตก็ต่างออกมาตั้งคำถามว่าทำไมเพื่อนบ้านถึงโทษบิวเพียงฝ่ายเดียว ทั้งที่เกิดจากความผิดร่วมกัน เพราะหมาหลุดด้วยกันทั้งคู่ และไม่พูดถึงความผิดของตัวเองที่ทำหมาหลุด

บิว วราภรณ์ ปิยะนันทสมดี อินฟลูเอนเซอร์และยูทูบเบอร์ชื่อดังที่มีผู้ติดตามใน YouTube กว่า 1.3 ล้านคน เคยผ่านการทำงานมาหลายอาชีพจนมาถึงจุดที่เธอเป็นที่รู้จักในวงการออนไลน์ในปัจจุบัน โดยจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตเกิดขึ้นหลังจากการสูญเสียพ่อ ทำให้บิวต้องตั้งคำถามในใจว่า "ทำไมผู้ใหญ่ถึงชอบขายของกัน?" ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้เธอลองทำตามคนอื่นบ้าง

ในช่วงเริ่มต้น บิว วราภรณ์ ทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์ร้านอาหารและพนักงานขายไอศกรีม ก่อนจะเข้ามาทำงานในวงการบันเทิงและการประกวดต่างๆ ซึ่งทำให้เธอได้รับโอกาสทำงานในโปรเจ็กต์ YAAK TV ของค่าย RS เป็นพิธีกรรายการเพลง ซึ่งเป็นการเริ่มต้นอาชีพในวงการบันเทิงอย่างจริงจัง จากนั้นก็มีงานถ่ายโฆษณาและถ่ายแบบตามมา

บิว วราภรณ์ ยังได้เริ่มธุรกิจของตัวเองด้วยการทำสินค้าสกินแคร์ ซึ่งลงทุนเพียงหลักหมื่นแต่กลับมียอดขายหลักแสนต่อเดือน ช่วยให้เธอสามารถซื้อบ้านหลังแรกและพาครอบครัวย้ายมาอยู่ด้วยกัน แต่เมื่อเวลาผ่านไปคู่แข่งก็มากขึ้น ยอดขายเริ่มลดลง เธอจึงตัดสินใจหันไปทำงานในอาชีพอื่น เช่น ผู้ช่วยครู และเซลส์บริษัทซอฟต์แวร์ แต่เงินเดือนที่ได้มาก็ไม่พอกับรายจ่าย หลังจากนั้นบิวจึงกลับไปแคสติ้งงานจริงจังอีกครั้ง จึงทำให้ได้งานถ่ายแบบ ถ่ายเอ็มวี และได้ไปถ่ายรายการ Take Me Out ทําให้มีคนรู้จักมากขึ้น และมีงานโฆษณาเข้ามาเพิ่มขึ้นในช่วงนั้น

จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อ บิว วราภรณ์ ตัดสินใจใช้เงินเก็บจากการถ่ายแบบในการซื้ออุปกรณ์ทำ YouTube โดยเริ่มต้นทำคอนเทนต์เกี่ยวกับการแต่งหน้า โดยไม่มีความคิดที่จะทำเป็นอาชีพหลักในตอนแรก แต่ไม่นานก็เริ่มมีผู้ชมและลูกค้าเข้ามา จนบิวตัดสินใจทุ่มเทให้กับ YouTube อย่างเต็มที่ และกลายเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดัง

ปัจจุบัน ช่อง YouTube ของ บิว วราภรณ์ ได้พัฒนาไปเป็นคอนเทนต์เปลี่ยนเป็นไลฟ์สไตล์ ซึ่งทำให้เธอได้รับความนิยมอย่างมาก นอกจากการเป็นยูทูบเบอร์แล้ว บิว วราภรณ์ ยังเป็น CEO ของแบรนด์ "Bondi Jelly" ซึ่งผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และ "Bonnana" ซึ่งเป็นแบรนด์เค้กกล้วยหอมที่กำลังได้รับความนิยม