สายหมูดิบต้องระวัง! ไข้หูดับอาจพาชีวิตดับด้วย

สายหมูดิบต้องระวัง! ไข้หูดับอาจพาชีวิตดับด้วย

100005 พ.ค. 68 15:04   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

แค่คำเดียวอาจเปลี่ยนทั้งชีวิต! รู้จักโรคไข้หูดับ ภัยเงียบจากหมูดิบที่คร่าชีวิตคนไทยปีละหลายสิบคน พร้อมแนะวิธีป้องกันตัวง่ายๆ

“โรคไข้หูดับ” เป็นชื่อโรคที่เริ่มเห็นตามหน้าสื่อบ่อยครั้งขึ้น เนื่องจากกรมควบคุมโรคมักออกมาเตือนให้คนไทย โดยเฉพาะนักกินสายแข็ง ที่ชอบกินหมูดิบๆ ทั้งจากเมนูลาบ หลู้ ส้า หรือซอยจุ๊ ต้องระวัง


สถานการณ์โรคไข้หูดับ (ไข้หมูดิบ) ในประเทศไทยจากรายงาน 5 ปีย้อนหลัง (ปี พ.ศ. 2562 – 2566) พบจำนวนผู้ป่วยเฉลี่ย 461 ราย และผู้เสียชีวิตเฉลี่ยปีละ 22 ราย, ปี พ.ศ. 2567 พบจำนวนผู้ป่วย 956 ราย และผู้เสียชีวิต 59 ราย, ล่าสุดมี พ.ค. 68 มีรายงานพบผู้ป่วยที่ จ.แพร่ 14 ราย เสียชีวิต 2 ราย แต่ทราบหรือไม่ว่าโรคไข้หูดับนี้สามารถติดต่อได้ แม้จะไม่ได้เป็นผู้ที่รับประทานหมูดิบตรงๆ ก็ตาม


สำหรับสาเหตุของโรคหูดับนี้มาจากแบคทีเรียที่ชื่อ สเตรปโตคอคคัส ซูอิส(Streptococcus Suis) เชื้อนี้พบครั้งแรกในมนุษย์เมื่อปี พ.ศ. 2511 ที่ประเทศเดนมาร์ก ก่อนที่จะมีรายงานการตรวจพบในอีกหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย มีรายงานการตรวจพบเชื้อในมนุษย์ครั้งแรกในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2530 โดยในระยะแรกจะพบมากในพื้นที่ภาคเหนือ และผู้ป่วยมักมีประวัติสัมผัสกับหมูมาก่อน


การสัมผัสเชื้อนั้นมีทั้งการรับประทานหมูดิบ หรือหมูที่ผ่านมาการปรุงแบบกึ่งสุกกึ่งดิบ รวมถึงการสัมผัสกับหมูหรือเนื้อหมูและเลือดหมู แล้วเชื้อติดต่อเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผลหรือทางเยื่อบุตา


เมื่อสัมผัสเชื้อในระยะ 3 วันแรกจะเกิดอาการมีไข้ ปวดศีรษะ อาเจียน คอแข็ง มีอาการปวดตามข้อ มีจ้ำเลือดตามตัว ตามผิวหนัง ซึม และอาจมีอาการชัก จากนั้นเมื่อเชื้อเข้าสู่เยื่อหุ้มสมอง จะทำให้เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ข้ออักเสบ ม่านตาอักเสบ หากเชื้อลุกลามถึงประสาทหู ทำให้เกิดหนองบริเวณปลายประสาทรับเสียง และปลายประสาททรงตัว เกิดอาการหูดับหรือหูตึง หากรักษาไม่ทันอาจทำให้ประสาทหูเสียหายจนกลายเป็นหูหนวกถาวรได้ และถ้าเชื้อเข้าสู่กระแสเลือดได้ก็มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิต


โรคไข้หูดับนี้มีระยะฟักตัวของเชื้อ(ระยะเวลาตั้งแต่รับเชื้อจนออกอาการ)ตั้งแต่ไม่กี่ชั่วโมงจนถึง 3 วัน ขึ้นกับปริมาณเชื้อที่รับเข้าสู่ร่างกาย และอาการต่างๆ จะเกิดขึ้นภายใน 14 วัน หากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงทีก็อาจทำให้สูญเสียการได้ยินตลอดชีวิต หรือทำให้เสียชีวิตได้


สำหรับการรักษาในปัจจุบันจะเป็นการรักษาประกอบกันทั้งการรักษาตามอาการ และการรักษาเฉพาะโรค โดยจะมีการให้ยาฆ่าเชื้อผ่านทางหลอดเลือดดำ ไปพร้อมๆ กับให้ยา สารน้ำ เพื่อรักษาอาการอื่นๆ ร่วมไปด้วย


4 วิธีป้องกันโรคไข้หูดับ

  1. กินเนื้อหมูที่ปรุงสุกผ่านความร้อนอย่างน้อย 70 องศาเซลเซียส นาน 10 นาทีขึ้นไป เท่านั้น ไม่กินเนื้อหมูที่ยังดิบหรือกึ่งสุกกึ่งดิบ
  2. เลือกซื้อเนื้อหมูจากร้านที่ไว้ใจได้ว่าต้นทางของเนื้อนั้นมาจากโรงฆ่าสัตว์ที่ได้มาตรฐาน ตรวจสอบสภาพเนื้อหมูกลิ่นไม่เหม็นคาว สีของเนื้อไม่คล้ำ หลีกเลี่ยงหากทราบว่าเนื้อหมูนั้นมาจากหมูที่ตายจากโรค
  3. ในการประกอบอาหารต้องแยกเขียงสำหรับหั่นของดิบและของสุก รวมถึงการกินอาหารแนวปิ้งย่างหรือสุกี้ชาบู ต้องแยกถ้วย จาน รวมถึงอุปกรณ์คีบสำหรับของดิบกับของสุกออกจากกัน เพื่อป้องกันการปนเปื้อน
  4. สำหรับคนที่ต้องสัมผัสกับทั้งหมูเป็นๆ และเนื้อหมู หากมือมีบาดแผลต้องปิดแผลให้เรียบร้อย และสวมถุงมือทับ สำหรับคนที่ทำงานในฟาร์มหรือโรงฆ่า-ชำแหละสัตว์ ต้องสวมอุปกรณ์ป้องกัน และล้างมือ ล้างเท้า อาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาดทุกครั้งหลังเลิกงาน


ที่มา:

https://ddc.moph.go.th/brc/news.php?news=49225

https://www.pidst.or.th/userfiles/f11.pdf

https://ddc.moph.go.th/disease_detail.php?d=107

https://ddc.moph.go.th/odpc9/news.php?news=38993

https://ddc.moph.go.th/brc/news.php?news=42762

https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/streptococcus-suis

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat