ปปป.ตามจับ จนท.อบต. อมเงินค่าเก็บขยะนับสิบปี หนีหมายจับ

ปปป.ตามจับ จนท.อบต. อมเงินค่าเก็บขยะนับสิบปี หนีหมายจับ

11107 ต.ค. 67 21:51   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

ปปป.ตามจับ จนท.อบต. อมเงินค่าเก็บขยะนับสิบปี เห็นช่องว่างย่ามใจก่อเหตุไม่กลัวกฎหมาย

(7ต.ค.67) พ.ต.อ. ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปปป. พร้อมด้วย นายสุภาพ ศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐเขต 6 สนธิกำลังเข้าจับกุม นายเอ(นามสมมติ) เจ้าหน้าที่ อบต.แห่งหนึ่งใน จ.นครสวรรค์ ผู้ต้องหา หมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 ได้ที่ตลาดแห่งหนึ่ง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท


การจับกุมสืบเนื่องจากผู้ต้องหารายนี้มีหน้าที่ในการเก็บขยะและค่าธรรมเนียม ซึ่งได้เก็บค่าธรรมเนียมในการจัดการขยะจากชาวบ้านกว่า 100 หลังคาเรือน หลังละ 15 บาท ทั้งรายเดือนและรายปี แต่อมเงินไว้ใช้เอง ไม่ส่งเข้ารัฐ อีกทั้งยังนำบิลเก่ามาสับขาหลอกหน่วยงาน เป็นเหตุให้ อบต.แห่งนี้ ได้รับความเสียหาย ร้อง ป.ป.ท. จนออกหมายจับ ให้ดำเนินคดีจนถึงที่สุด


พ.ต.อ.ศานุวงษ์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาเริ่มก่อเหตุตั้งแต่ประมาณ ปี พ.ศ.2556 เจ้าตัวมีหน้าที่ในการเก็บขยะอยู่แล้วและเป็นผู้ที่จะต้องเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจัดการขยะจากชาวบ้านทุกหลังคาเรือนที่อยู่ในความรับผิดชอบของตนโดยมีหมู่บ้านในความรับผิดชอบประมาณ 5 - 6 หมู่บ้าน รวมกันนับ 1,000 หลังคาเรือน โดยค่าธรรมเนียมดังกล่าวเก็บเดือนละ 15 บาท แต่ก็มีบางหลังคาเรือนที่ไม่ได้จ่ายเป็นรายเดือนแต่ขอเสนอจ่ายเป็นรายปี ปีละ 180 บาท 


พ.ต.อ.ศานุวงษ์ กล่าวอีกว่า เป็นเหตุให้ผู้ต้องหามองเห็นช่องว่างในการที่จะเอาเงินมาใช้โดยไม่ต้องนำส่งคืนแก่รัฐ เพราะตนจะนำบิลเก่ามาสลักหลังหลอกกับทาง อบต. ว่าเป็นบิลเงินรายเดือน หรือรายปี สลับกันไปเพื่อที่จะได้นำส่วนต่างจากบิลดังกล่าวมาเก็บไว้ใช้ ทำมาเป็นเวลานานหลายครั้ง จนทาง อบต.ตาคลี จับได้ว่ามีการนำส่งเงินไม่ครบตามจำนวน เป็นเหตุให้ส่งเรื่องร้องเรียนไปยัง ป.ป.ท. ให้ดำเนินคดีจนกว่าจะถึงที่สุด 


เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาว่า เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่ง ผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172)” ก่อนนำส่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 ดำเนินคดีต่อไป



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง