ตรวจสอบอาณาจักรหรูริมเจ้าพระยาไม่สนคำสั่งอายัดลุยสร้างต่อ

ตรวจสอบอาณาจักรหรูริมเจ้าพระยาไม่สนคำสั่งอายัดลุยสร้างต่อ

41007 ต.ค. 67 19:25   |     AdminNews

ตร.นนทบุรีเข้าตรวจสอบโครงการอาณาจักรหรูกลุ่มนายทุนจีน หลังขัดคำสั่งอายัดทรัพย์ปลดป้ายประกาศออก พบแรงงานเป็นชาวจีนทั้งหมด ถือวีซ่านักท่องเที่ยว

จากกรณีเมื่อวันที่ 1 ต.ค.67 พ.ต.ท.จักร จุลกะรัดน์ ผู้อำนวยการกองคดี 3 และนางสาวทิพย์วรรณ วรรณโสภณ ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการ 4 กองคดี และเจ้าหน้าที่ ปปง.นำคำสั่งห้ามเคลื่อนย้ายทรัพย์สินไปติดประกาศหน้าประตูทางเข้าออกโครงการก่อสร้างคฤหาสน์หรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา ย่านสนามบินน้ำ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี เพื่อติดประกาศยึดทรัพย์สินโครงการก่อสร้างดังกล่าวตามคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ย.193/2567  

โดยโครงการก่อสร้างคฤหาสน์หรูริมแม่น้ำเจ้าพระยานั้นปัจจุบันพบว่า โครงการก่อสร้างดังกล่าวยังคงดำเนินการก่อสร้างอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยมีคนงานผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้าไซต์งานก่อสร้างตลอดเวลา ส่วนป้ายคำสั่งอายัดโครงการก่อสร้างคฤหาสน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้ได้ถูกปลดหายไปจากหน้าประตูทางเข้าออกไซด์งานแล้ว โดยบริษัทกลุ่มทุนจีนแห่งนี้ได้เข้ามาดำเนินโครงการคฤหาสน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนที่ดินประมาณ 30 ไร่ บนถนนสนามบินน้ำติดแม่น้ำเจ้าพระยา พัฒนาเป็นคฤหาสน์หรู ซึ่งตั้งราคาเริ่มต้นที่ 200 ล้านบาทขึ้นไป สูงสุดถึง 700 ล้านบาท โดยเป็นบ้านเดี่ยวหรู 5 ชั้น ประมาณ 60 หลัง ซึ่งทุกหลังมีห้องใต้ดินและสระว่ายน้ำ ยังมีอาคาร 2 ชั้น เป็นอาคารพาณิชย์และสำนักงาน ท่าเรือ และเริ่มการก่อสร้างตั้งแต่เดือน ก.พ. 2567 ตั้งเป้าให้แล้วเสร็จในเดือน ก.พ. 2568


ทั้งนี้มีรายงานเพิ่มเติมอีกว่า โครงการก่อสร้างคฤหาสน์หรูแห่งนี้ใช้แรงงานคนจีนเข้ามาทำงานก่อสร้าง 100 เปอร์เซ็นต์ ในลักษณะหมุนเวียนวีซ่านักท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 1 ต.ค. มีรายงานว่า มีเจ้าหน้าที่เข้ามาดำเนินการปิดประกาศการยึด อายัดทรัพย์ โดยติดตรงประตูบริเวณทางเข้าที่ก่อสร้าง คฤหาสน์หรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องด้วยสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(สำนักงาน ปปง.) จะดำเนินการปิดประกาศการยึดทรัพย์สิน ตามคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ ย.193/2567 ประกาศดังกล่าวมีข้อความว่า “ทรัพย์สินนี้ถูกยึด/อายัดผู้ใดยักย้าย ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย ทำให้สูญหาย หรือทำให้ไร้ประโยชน์ ต้องระวางโทษจำคกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินสามแสนบาพทหรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา ๖๕ แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2555 ตามคำสั่ง ที่ ย. 193/2567 

ส่วนป้ายที่ถูกปลดออกทางสำนักงาน ปปง. เป็นเจ้าของคำสั่งและป้ายดังกล่าว ต้องรอว่าทาง ปปง.จะดำเนินการอย่างไรกับผู้ที่ปลดป้ายออกโดยไม่ได้รับอนุญาตต่อไป

ความคืบหน้าในเรื่องนี้เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 67 ที่สภ.รัตนาธิเบศร์ พล.ต.ต.ปราถนา แผ่นผา ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รองผบก. พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ ร่วมกับฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่กองช่าง เทศบาลนครนนทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง รวมทั้งชุดสืบสวน-ปราบปราม สภ.รัตนาธิเบศร์ ร่วมประชุมปรึกษาหารือถึงมาตรการเข้าตรวจสอบ โครงการพื้นที่ คฤหาสน์หรูแห่งนี้ โดยการประชุมใช้เวลาราว 1 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น

จากนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ที่ร่วมประชุมในวันนี้ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจคนเข้าเมืองเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน-ปราบปรามสภ.รัตนาธิเบศร์ ได้เดินทางไปที่จุดที่มีการก่อสร้าง และเข้าทำการตรวจสอบหลักฐานเอกสารต่างๆ ของกลุ่มนายทุนจีน ซึ่งทราบว่า เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่โดยมีนักธุรกิจไทย 2 คน ร่วมเป็นกรรมการในการก่อสร้างคฤหาสน์หรูแห่งนี้ โดยมีการตรวจค้น เอกสารหลักฐาน ของคนงาน ซึ่งส่วนมากเป็นแรงงานต่างด้าว จำนวนหลายร้อยคน หากพบว่ามีการทำงานหรือเข้าเมืองมาอย่างผิดกฎหมายก็จะดำเนินคดีทันที

พ.ต.อ.พิสุทธิ์ กล่าวว่า วันนี้ก็เป็นการบูรณาการสนธิกําลังนําโดยท่านผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดนนทบุรีและมีผู้เกี่ยวข้องที่เกี่ยวกับเรื่องการก่อสร้างตามโครงการนี้ไม่ว่าจะเป็นเทศบาลนครนนทบุรีฝ่ายปกครองอําเภอเมืองนนทบุรีสืบจังหวัดตํารวจตรวจคนเข้าเมืองนนทบุรี ลงพื้นที่เข้ามาตรวจสอบพื้นที่การก่อสร้าง จากการตรวจสอบเบื้องต้นพื้นที่ตรงนี้มีการอนุญาตการก่อสร้างโดยเทศบาลนครนนทบุรีอย่างถูกต้องหลังจากที่ ปปง.มาปิดประกาศทางเราก็ตรวจสอบว่ามีการอายัดทรัพย์สินอยู่ในพื้นที่นี้ยังไม่มีการเคลื่อนย้ายทรัพย์สินที่เป็นสิ่งก่อสร้างทั้งหมดออกนอกพื้นที่

ตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบแรงงานลูกจ้างที่มีข่าวว่าเป็นแรงงานที่ไม่ถูกต้องทางกฎหมายก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบซึ่งเท่าที่ผ่านมาของเราเองก็ได้เข้าตรวจสอบอย่างต่อเนื่องวันนี้ก็เข้ามาตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง ในกรณีที่มีการปลดป้ายคําสั่งของ ปปง.ออกมันก็มีความผิด ได้สอบถามทาง ปปง.ผู้รับผิดชอบในคดีนี้ซึ่งเป็นกฎหมายของ ปปง.เป็นกฎหมายเฉพาะก็แจ้งว่าเรื่องป้ายการมาติดครั้งที่แล้วเป็นการติดประกาศเตือนให้กับเจ้าของทราบว่ามีการอายัดทรัพย์ ณ ตรงจุดนี้แล้วก็มีการติดที่ด้านนอก ด้านนอกถนนก็คือ ด้านบริเวณนี้ซึ่งได้ตรวจสอบทางโครงการแจ้งว่าหลุดงหายไปเอง ปปง.ก็เลยเข้ามาติดใหม่เมื่อวันที่ 4โดยติดครั้งที่ 2 ติดเข้าไปด้านในโครงการซึ่งจะไม่มีปัญหาเรื่องของการอ้างว่าหลุดหายไปได้อีก ปปง.ได้แจ้งกับโครงการชัดเจนว่าติดข้างในแล้วต้องรับผิดชอบเรื่องป้ายด้วยแต่ครั้งแรกเข้าไปติดด้านนอกมันก็เลยมีปัญหาเรื่องการก่อสร้างจริงๆของฝ่ายตํารวจเองเราไม่ได้มีหน้าที่รับผิดชอบแต่ตนได้สอบถามไปทาง ปปง. ผู้ที่รับผิดชอบคดีแล้วก็มาปิดหมายแล้วว่าการปิดหมายของ ปปง.เองก็ไม่เกี่ยวข้องกับการอนุญาตหรือระงับการก่อสร้างเป็นเรื่องของเทศบาล


ซึ่งปปง.เองไม่ได้แจ้งเรื่องของการระงับการก่อสร้างเพียงแต่ว่าห้ามเคลื่อนย้ายทรัพย์ออกนอกพื้นที่อันไม่เกิดความเสียหายแต่ถ้าเกิดเอาเข้ามาเติมมาสร้างเพิ่มเติมเป็นดุลพินิจของเจ้าของโครงการที่เขาทําระหว่างนี้เป็นการอายัดชั่วคราว อายัด 3-4 วันเป็นการชั่วคราว เพื่อให้เจ้าของโครงการไปทําการชี้แจงกับ ปปง. หลังจากนั้นมา ปปง.ก็จะทําการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานถ้ามีความผิด ปปง.จะฟ้องภายใน 90 วัน อันนั้นก็จะมีคําสั่งที่เป็นการอายัดทรัพย์ยึดทรัพย์อีกครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้เป็นการอายัดทรัพย์ ณ.จุดนี้ เป็นการชั่วคราว


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง