เช็กสถานการณ์"น้ำท่วม"ล่าสุด 11 จังหวัด ยังไม่คลี่คลาย

เช็กสถานการณ์"น้ำท่วม"ล่าสุด 11 จังหวัด ยังไม่คลี่คลาย

24915 ต.ค. 67 16:44   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

ปภ.รายงานมีสถานการณ์"น้ำท่วม"ระหว่างวันที่ 16 ส.ค. – 15 ต.ค. 67 ล่าสุดยังมี 11 จังหวัด ที่ยังไม่คลี่คลาย

(15ต.ค.67) เวลา 10.00 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานว่าในระหว่างวันที่ 16 ส.ค. – 15 ต.ค. 67 เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 46 จังหวัด ได้แก่ 


  • เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ เลย อุดรธานี กาฬสินธุ์ หนองคาย นครพนม ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุบลราชธานี ปราจีนบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา นครปฐม ปทุมธานี ระยอง ชุมพร สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ยะลา นครศรีธรรมราช พังงา กระบี่ ตรัง สตูล และสงขลา 


รวมพื้นที่ได้รับผลกระทบ 281 อำเภอ 1,248 ตำบล 6,505 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 255,750 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตรวม 57 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 28 คน 


ซึ่งปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 11 จังหวัด ได้แก่ 


  • เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน พิษณุโลก สุโขทัย ชัยนาท สิงห์บุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และนครปฐม 


รวมพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 50 อำเภอ 268 ตำบล 1,303 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 46,487 ครัวเรือน แยกเป็น


ภาคเหนือ รวม 5 จังหวัด 22 อำเภอ 70 ตำบล 298 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,246 ครัวเรือน 


  1. เชียงราย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อ.แม่สาย อ.เมืองฯ อ.แม่ลาว อ.เวียงป่าเป้า อ.เวียงชัย และ อ.เชียงแสน รวม 17 ตำบล 80 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,046 ครัวเรือน อยู่ระหว่างฟื้นฟู
  2. เชียงใหม่ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอสารภี รวม 1 ตำบล 9 หมู่บ้าน อยู่ระหว่างฟื้นฟู
  3. ลำพูน เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองฯ รวม 6 ตำบล 28 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 398 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
  4. พิษณุโลก เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.พรหมพิราม อ.บางระกำ อ.เมืองฯ อ.บางกระทุ่ม อ.วังทอง อ.นครไทย และ อ.วัดโบสถ์ รวม 27 ตำบล 104 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,749 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
  5. สุโขทัย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.สวรรคโลก อ.ศรีสำโรง อ.เมืองฯ อ.ศรีสัชนาลัย อ.กงไกรลาศ อ.คีรีมาศ และ อ.ทุ่งเสลี่ยม รวม 19 ตำบล 77 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,053 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง


ภาคกลาง รวม 6 จังหวัด 28 อำเภอ 198 ตำบล 1,005 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 40,241 ครัวเรือน 


  1. ชัยนาท เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองฯ อ.มโนรมย์ อ.วัดสิงห์ และ อ.สรรพยา รวม 16 ตำบล 49 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 755 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
  2. สิงห์บุรี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.อินทร์บุรี อ.เมืองฯ และ อ.พรหมบุรี รวม 4 ตำบล 14 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 593 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
  3. สุพรรณบุรี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.เดิมบางนางบวช อ.บางปลาม้า อ.สองพี่น้อง อ.สามชุก อ.เมืองฯ อ.อู่ทอง และ อ.ดอนเจดีย์ รวม 41 ตำบล 214 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,075 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
  4. อ่างทอง เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.วิเศษชัยชาญ อ.ไชโย อ.เมืองฯ และ อ.ป่าโมก รวม 24 ตำบล 72 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 973 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
  5. พระนครศรีอยุธยา เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.บางบาล อ.ผักไห่ อ.เสนา อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางปะอิน อ.บางไทร และ อ.บางปะหัน รวม 103 ตำบล 613 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 30,225 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
  6. นครปฐม เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.นครชัยศรี อ.บางเลน และ อ.กำแพงแสน รวม 10 ตำบล 43 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 620 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว


กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัย อาทิ เฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 เครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล เครื่องสูบน้ำ รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว รถผลิตน้ำดื่ม รถไฟฟ้าส่องสว่างขนาด 200 KVA รถบรรทุกเล็ก รถลากเรือเคลื่อนที่เร็ว เรือท้องแบน อุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำ เข้าให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ที่เกิดสถานการณ์ภัย รวมถึงนำรถขุดตักไฮดรอลิกยกสูง รถตักล้อยางอเนกประสงค์ รถขุดล้อยางกู้ภัยปรับฐานล้อ รถตีนตะขาบ รถบรรทุกเทท้าย รถขุดตักไฮดรอลิกแขนยาว เร่งขุดตักขนย้ายดินโคลน เศษวัสดุ สิ่งปรักหักพัง พร้อมทั้งปรับเกลี่ยถนน เส้นทางสัญจร ฟื้นฟูถนนหนทาง อาคารบ้านเรือนในพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด


กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รายงานเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง และปักหลักช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลังจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยประชาชนสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์ ข่าวสารสาธารณภัย ได้ทาง Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews ติดตามการประกาศแจ้งเตือนภัยได้ทางแอปพลิเคชัน “Thai Disaster Alert” ทั้งระบบ IOS และ Android และหากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง



ที่มา : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง