รีบยกของขึ้นที่สูง เขื่อนเจ้าพระยาจ่อระบาย 2,000 ลบ.ม น้ำขึ้น 1.5 ม.
รีบยกของขึ้นที่สูง เขื่อนเจ้าพระยาจ่อระบาย 2,000 ลบ.ม น้ำขึ้น 1.5 ม.
ชาวกรุงเก่า-อ่างทอง ริมคลองโผงเผง รีบยกของขึ้นที่สูง เขื่อนเจ้าพระยาจ่อระบาย 2,000 ลบ.ม น้ำขึ้น 1.5 ม.
วันที่ 26 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมชลประทาน ได้ออกประกาศแจ้งเตือน 11 จังหวัดภาคกลาง ประกอบด้วย จ.อุทัยธานี , ชัยนาท , สิงห์บุรี , อ่างทอง , พระนครศรีอยุธยา , สุพรรณบุรี , ลพบุรี , ปทุมธานี , นนทบุรี , สมุทรปราการ และ กรุงเทพมหานครฯ ที่ต้องเตรีนยมการรับมือปริมาณน้ำที่จะเกิดขึ้น จากอิทธิพลจากร่องมรุสม ที่จะทำให้ฝนตกหนักทางตอนบนและภาคกลางของประเทศ
มีผลทำให้ปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนเจ้าพระยามากขึ้นถึง 2,350 ลบ.ม./วิ ทำให้ต้องมีการพิจารณาปรับเพิ่มการระบายแบบขั้นบันได ขึ้นไปในเกณฑ์ไม่เกิน 2,000 ลบ.ม./วิ ในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อน ยกตัวหรือสูงขึ้นขึ้นอีก 1-1.5 ม.
ล่าสุด สถานการณ์น้ำที่เขื่อนเเจ้าพระยา กุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลงสู่ลุ่มภาคกลาง ได้ปรับเพิ่มอัตราการระบายน้ำขึ้น เพื่อลดผลกระทบทั้งเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน โดยพบว่า ปริมาณน้ำเหนือที่ไหลลงเขื่อนเจ้าพระยา ผ่านจุดวัดน้ำ C2 หน้าค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (09.00น.) วัดได้ 1,858ล บ.ม./วิโดยระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยายกตัวขึ้น 40 ซม.ในรอบ 24 ชม. วัดได้ 16.69 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง
ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยา ได้ปรับเพิ่มการระบายขึ้นไปที่ 1,498 ลบ.ม./วิ เพื่อสร้างพื้นที่ว่างในลำน้ำรองรับปริมาณน้ำเหนือ ทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนยกตัวขึ้น89ซ.ม.ในรอบ24ชม. ล่าสุดวัดได้ 12.82ม.รทก.
ทั้งนี้จากการเพิ่มอัตราการระบายน้ำในเกณฑ์1,500ลบ.ม./วิ ของเขื่อนเจ้าพระยา จะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ริมคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล บ้านบางหลวงโดด , ต.บางบาล , ต.หัวเวียง อ.เสนา , ต.ลาดชิด , ต.ท่าดินแดง , อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 20-30 ซม.ใน 24 ชม.ข้างหน้า จึงขอให้เฝ้าสังเกตความเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำ และติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไป