ปธ.กกต. เผย "ทักษิณ"เดินสายช่วยหาเสียง นายก อบจ. ยังไม่เข้าข่ายผิดกฎหมาย
ปธ.กกต. เผย "ทักษิณ"เดินสายช่วยหาเสียง นายก อบจ. ยังไม่เข้าข่ายผิดกฎหมาย
ปธ.กกต. เผย "ทักษิณ" ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคเพื่อไทย เดินสายช่วยหาเสียงเลือก"นายก อบจ."ยังไม่เข้าข่ายผิดกฎหมาย
(8ม.ค.68) ที่ โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์ถึงการปราศรัยหาเสียงของนายทักษิณ ชินวัตร ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ที่มีการปราศรัยหาเสียงหยิบยกนโยบายของรัฐบาลไปพูดในเวที ว่าการหาเสียงจะต้องเป็นไปตามกรอบกฎหมายที่ห้ามฝ่าฝืนกฎหมายและห้ามปราศรัยใส่ร้ายผู้อื่น และไม่เข้าข่ายหลอกลวงหากอยู่บนพื้นฐานดังกล่าวสามารถทำได้
เมื่อถามว่าสามารถหยิบยกนโยบายของรัฐบาลหาเสียงได้ใช่หรือไม่ นายอิทธิพร ระบุว่า เป็นความก้ำกึ่ง เพราะครั้งนี้การเลือกตั้ง อบจ. การพูดที่มีความเกี่ยวข้องอาจจะจำเป็น หรืออาจสามารถรับฟังได้ในบางครั้ง แต่ทุกอย่างอยู่ในการรับรู้ตรวจสอบของสำนักงาน กกต. อยู่แล้วในทุกด้านและทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ซึ่งปกติมีการมอนิเตอร์การปราศรัยอยู่แล้ว เนื่องจากมีรูปแบบการทำงานของสำนักงาน กกต. ทุกจังหวัด
นายอิทธิพร กล่าวต่อไปว่า ขณะเดียวกันมีการแต่งตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้งไปปฏิบัติหน้าที่แล้ว เพราะฉะนั้นการติดตามการกระทำที่อาจจะเป็นการฝ่าฝืนการเลือกตั้งอยู่ในวิสัยที่เจ้าหน้าที่ต้องทำงาน และรายงานตามลำดับชั้น
"ตอนนี้ยังไม่มีรายงานถึงความผิดปกติใด แต่คาดว่าการหาเสียงจะมีความเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ" นายอิทธิพร กล่าว
เมื่อถามว่า สส.รัฐมนตรีสามารถช่วยหาเสียงได้หรือไม่ นายอิทธิพร ตอบว่า สามารถทำได้ แต่จะต้องแจ้งให้ กกต.ทราบว่าเป็นผู้ช่วยหาเสียง หากหาเสียงในเวลาราชการก็จะต้องบริหารเวลาให้ดี เพราะอาจจะเข้าข่ายทำไม่ถูกตามระเบียบราชการ
เมื่อถามว่านายทักษิณไปหาเสียงประกาศค่าไฟจะลดเหลือ 3.70 บาท และต่อมารัฐบาลขานรับจะเข้าข่ายสัญญาว่าจะให้หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า จะต้องดูรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง จึงไม่สามารถตอบในขณะนี้ได้ทันที เพราะต้องเป็นกระบวนการที่ต้องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการไต่สวนสืบสวน
นายอิทธิพร กล่าวอีกว่า หากเป็นคำร้องที่เกี่ยวกับพรรคการเมืองก็เป็นหน้าที่ของเลขาธิการ กกต.ในฐานะนายทะเบียน ที่ต้องดูว่าข้อเท็จจริงที่มีขึ้นเข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายใดหรือไม่ หากเห็นสมควรว่าต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก็มีการตั้งคณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน ที่เป็นกระบวนการปกติ ซึ่งมี 2 ชุด
"หากเป็นการทำฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้งก็จะเป็นคณะกรรมการไต่สวนสืบสวน หากเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายพรรคการเมืองก็จะเป็นการตั้งคณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงพยานหลักฐาน" นายอิทธิพร กล่าว
เมื่อถามเรื่องรายงานเกี่ยวกับซุ้มมือปืน นายอิทธิพร ระบุว่า ซุ้มมือปืนได้ยินมา แต่เด็ก ๆ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากตำรวจทุกจังหวัด เพราะเป็นประเด็นที่ให้ความสำคัญเอาใจใส่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการเลือกตั้ง กกต.มีชุดเคลื่อนที่เร็วที่จะทำงานร่วมกับผู้ตรวจการเลือกตั้ง และทีมงานระดับจังหวัด
"เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่ประสานงานโดยปกติในพื้นที่ทุกที่ หากบางแห่งมีความเข้มข้นมากตำรวจในจังหวัดขอความร่วมมือจากตำรวจในจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งมีให้เห็นตัวอย่างแล้วในหลายจังหวัด อย่างเช่น จังหวัดชุมพร เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานความเคลื่อนไหวใด ซึ่งอยู่ในกระบวนการที่ต้องดำเนินการตามกฎหมายในด้านการข่าวให้มีความชัดเจนก่อน" นายอิทธิพร ระบุ
ข่าวเวิร์คพอยท์23
ข่าวที่เกี่ยวข้อง