ปธ.สภาฯ เผยเลื่อนประชุมร่วมแก้ รธน. ไม่แน่ใจ"รธน."ใหม่ ทันรัฐสภาชุดนี้หรือไม่

ปธ.สภาฯ เผยเลื่อนประชุมร่วมแก้ รธน. ไม่แน่ใจ"รธน."ใหม่ ทันรัฐสภาชุดนี้หรือไม่

24008 ม.ค. 68 18:21   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

ปธ.สภาฯ เผย วิป 3 ฝ่าย เคาะเลื่อนประชุมร่วมแก้ รธน. ไปอีก 1 เดือน ไม่แน่ใจ"รธน."ใหม่ ทันรัฐสภาชุดนี้หรือไม่

(8ม.ค.68) ที่ รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุมวิป 3 ฝ่าย โดยมี นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน และนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร สว. ในฐานะเลขาฯวิปวุฒิสภา ร่วมประชุมเพื่อกำหนดวันประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งใช้เวลาประชุมประมาณ 1.30 ชั่วโมง


นายวันมูหะมัดนอร์ ให้สัมภาษณ์ว่า กำหนดเดิมประชุมร่วม วันที่ 14 - 15 ม.ค. แต่การแก้ไขทั้งฉบับต้องรอบคอบหลายด้าน จึงขอนำไปพิจารณาก่อน และพรรคเพื่อไทยจะยื่นร่างเข้ามาเพิ่มอีก ไม่ทราบว่าจะมีพรรคอื่นหรือพรรคประชาชนจะเสนอเข้ามาด้วยหรือไม่ ที่ประชุมมีมติว่าจะพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม มาตรา 256 และหมวด 15/1 วันที่ 13-14 ก.พ. เมื่อมีการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ฉบับเสร็จแล้ว การทำประชามติก็สามารถไปใช้ร่างที่สภายืนยัน หรือร่างที่วุฒิสภาแสดงความคิดเห็นไปทำประชามติได้ จะทำประชามติ 2 ครั้ง ไม่ได้ขัดแย้งกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ หรือที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ และในวันที่ 14 ม.ค. จะมีการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการแก้ไขข้อบังคับการประชุมร่วม


“การเลื่อนออกไป 1 เดือน เนื่องจากในที่ประชุมวิป 3 ฝ่าย พิจารณาร่วมกันว่าถ้าเราพิจารณาเสร็จเร็วก็ต้องรอกฎหมายประชามติที่ต้องรอ 180 วัน แต่ขณะนี้เหลือ 100 กว่าวัน จึงคิดว่าต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ ก็ไม่ช้าเกินไป ยังไงก็ต้องรอ เพราะอยากให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปด้วยดี ทุกฝ่ายร่วมกันรับผิดชอบ”


เมื่อถามว่า หวังว่าจะได้เห็นรัฐธรรมนูญใหม่ในรัฐสภาชุดนี้หรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ไม่สามารถจะพูดได้ว่าจะได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ เพราะขั้นตอนขึ้นอยู่กับการประชุมร่วมรัฐสภา ทั้ง 2 ครั้ง ครั้งแรกคือรับหลักการและครั้งที่ 2 คือร่างที่สภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) จะไปร่างอีกครั้ง รวมถึงประชาชนจะต้องออกเสียงประชามติอีก 2 ครั้ง จึงหวังว่าน่าจะได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่หน้าตาเป็นอย่างไรยังพูดไม่ได้


ด้าน นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เหตุผลที่ต้องเลื่อนเวลาออกไป 1 เดือน เนื่องจากรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องสำคัญ และมีผลกระทบต่อประชาชนทั้งประเทศ เพื่อให้เกิดความรอบคอบ สว. ก็ยืนยันว่าต้องมีการนำไปพิจารณา แต่การที่จะไปกำหนดระยะเวลาสั้นๆ ก็ทำไม่ได้ เพราะหลายคนก็มีภารกิจหลายอย่าง เรื่องนี้ถือเป็นความร่วมมือที่ดีของทั้ง 3 ฝ่าย อีกทั้ง นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำในที่ประชุม ครม. ว่าให้แต่ละพรรคร่วมที่คิดจะยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ไปเตรียมการ แต่เราไม่สามารถตอบได้ว่าพรรคอื่นจะยื่นหรือไม่ ซึ่งเราต้องให้โอกาสเขาด้วย ส่วนที่มีการมองว่าเป็นนโยบายของรัฐบาลแต่รัฐบาลไม่ยื่นร่างแก้ไขเข้ามานั้น รัฐบาลประกอบด้วยหลายพรรค แต่ที่คุยกันมาหลายพรรคยังไม่พร้อม แต่หากพรรคไหนที่จะเสนอเราก็ยินดี เพราะเป็นการทำงานร่วมกัน


นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ฝ่ายค้านมองว่าการเลื่อนออกไป 1 เดือนอาจจะช้าเกินไป ตอนแรกเราขอให้เลื่อนออกไปเพียง 2 สัปดาห์ เพราะอยากให้มีการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการให้มากที่สุด ซึ่งเป็นชั้นที่สำคัญจึงอยากให้มีการพิจารณาอย่างรอบคอบ แต่เมื่อทางวุฒิสภาอยากมีเวลาพิจารณาเพิ่มเติม เราจึงหาตรงกลาง จึงคิดว่าการเลื่อนออกไปก็ไม่ได้กระทบกับกรอบ พ.ร.บ.ประชามติ แม้จะเห็นไม่ตรงกัน แต่อยากให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น


ด้าน นายวุฒิชาติ กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องใหญ่ของประเทศ จากการที่ได้คุยนอกรอบกับพรรคเพื่อไทยก็บอกว่าจะมีการยื่นร่างประกบเข้ามา ตนจึงบอกว่าวุฒิสภาต้องใช้เวลาในการศึกษาและทุกคนมีเอกสิทธิ์ในการที่จะพูด รวมถึงมุมมองแตกต่างกัน จึงได้ขอความกรุณาจากฝ่ายค้านและรัฐบาล และเราก็สามารถหากรอบระยะเวลาที่ลงตัวกันได้ 


ส่วนประเด็นที่จะมีการแก้ไขมาตรา 256 และให้มี สสร. มายกร่าง ส่วนใหญ่ สว. เห็นด้วยหรือไม่นั้น ก็ต้องตอบว่าส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย เพราะค่อนข้างสุ่มเสี่ยงกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา จึงขอระยะเวลาในการศึกษา


เมื่อถามว่า หากไม่มีความชัดเจนก็จะไม่โหวตให้ ใช่หรือไม่ นายวุฒิชาติ กล่าวว่า เป็นเอกสิทธิ์ของ สว. เพราะมีทั้งบางกลุ่มที่สนับสนุนและไม่สนับสนุน


ข่าวเวิร์คพอยท์23

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง