‘กัณวีร์’ จี้นายกฯ ห้ามเงียบ เหตุสังหาร ‘ลิม กิมยา’ กลางกรุง

‘กัณวีร์’ จี้นายกฯ ห้ามเงียบ เหตุสังหาร ‘ลิม กิมยา’ กลางกรุง

41808 ม.ค. 68 14:06   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

‘กัณวีร์’ ชี้เหตุสังหารโหด ‘ลิม กิมยา’ หน้าวัดบวรฯ เป็นมาตรการกดปราบข้ามชาติ ชี้นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นักเคลื่อนไหวทางการเมืองจากต่างประเทศมาเสียชีวิตที่ไทย - จี้เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีเงียบไม่ได้ อย่าตกเป็นเครื่องมือประเทศเพื่อนบ้าน

(8 ม.ค. 68) ที่รัฐสภา นายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม กล่าวถึงคนร้ายก่อเหตุยิง นายลิม กิมยา ชาวกัมพูชา นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และอดีต ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน ชาวกัมพูชา ที่ย่านบางลำภู เมื่อวานนี้ (7 ม.ค.) ว่า


เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเรียกว่า การกดปราบข้ามชาติ ซึ่งเหตุการณ์นี้ไม่ใช่กรณีแรก เป็นการที่ผู้ลี้ภัยหนีการประหัตประหาร จากประเทศหนึ่งมาอีกประเทศหนึ่ง และมีการร่วมมือกันไม่ว่าจะเป็นอย่างเปิดเผยหรือในทางลับ ทำให้เกิดการกดปราบข้ามชาติ เหมือนกรณีของ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์  ที่หายตัวในกัมพูชา ขณะที่เมื่อเดือนที่แล้วทางการไทยได้ส่งตัวอดีตนักเคลื่อนไหวชาวกัมพูชากลับไปกัมพูชา ซึ่งสะท้อนให้เห็นความหย่อนยานในกระบวนการกฎหมายไทย


เหตุการณ์ครั้งนี้เห็นได้อย่างชัดแจ้งว่าเป็นความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศ นายกัณวีร์ กล่าวว่า แน่นอนเพราะตนทำเรื่องนี้มาอย่างยาวนานและช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีอดีตนักเคลื่อนไหวทางการเมืองของฝั่งกัมพูชา มาเสียชีวิตในพื้นที่ภาคอีสานของไทยอย่างต่อเนื่อง จึงสงสัยว่า เมื่อไหร่รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับเรื่องการกดปราบข้ามชาติอย่างจริงจัง จะต้องไม่เป็นเครื่องมือ ทางการเมืองของประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านของเรา


เมื่อถามถึงมาตรการการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนหรือผู้ลี้ภัยทางการเมือง ไม่ใช่การผลักดันกลับประเทศ แต่สามารถยิงได้เลยใช่หรือไม่ นายกัณวีร์ เผยว่า จริงๆ แล้วไม่ได้เพราะทางกฎหมายและประเพณีปฏิบัติระหว่างประเทศที่เรายึดมั่นอยู่แล้วเป็นหลักการไม่ส่งกลับ โดยเฉพาะมาตรา 13 ของพระราชบัญญัติ ป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหายหรือ พ.ร.บ.อุ้มหาย ที่ระบุว่าไทยไม่สามารถผลักดันคนที่หนีการประหัตประหาร กลับไปที่ประเทศต้นทางได้ แต่ที่ยิ่งเลวร้ายกว่าคือการปล่อยให้ มีการประหัตประหารในพื้นดินไทย ซึ่งไทยผิดทั้งกฎหมายในประเทศ และหลักการระหว่างประเทศทั้งนี้ ยังบอกไม่ได้ว่าเหตุการณ์ยิงครั้งนี้เป็นการกระทำโดยเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ จะต้องสืบสวนสอบสวนอย่างโปร่งใส


ทั้งนี้ ตนขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรี ว่าการคุ้มครองระหว่างประเทศโดยเฉพาะผู้ลี้ภัยในประเทศไทย ว่า แม้ประเทศไทยจะยังไม่ลงสัตยาบัน ในอนุสัญญาว่าด้วยผู้ลี้ภัย แต่เรามีทั้งกฎหมายระหว่างประเทศและในประเทศ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ซึ่งอย่างไรต้องรับผิดชอบอยู่แล้วเพราะมีคนมาตายในประเทศไทย แต่ต้องขยายความให้ได้ว่าเขาเป็นผู้ลี้ภัยจริงหรือไม่ แต่เราต้องให้ความคุ้มครองคนที่อยู่ในประเทศไทยไม่ว่าเขาจะสัญชาติอะไร ซึ่งการที่ผู้ลี้ภัยทางการเมืองมาเสียชีวิตในประเทศไทยมีมานานแล้ว เรื่องก็เงียบมานานแล้ว เพราะฉะนั้นจะต้องไม่เงียบอีกต่อไป



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง