วินาทีเด็ก ม.6 ได้เจอหน้าพ่อแม่ครั้งแรกยกมือไหว้ร้องไห้ขอโทษ หลังถูกหลอกไปร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ประเทศเพื่อนบ้าน

วินาทีเด็ก ม.6 ได้เจอหน้าพ่อแม่ครั้งแรกยกมือไหว้ร้องไห้ขอโทษ หลังถูกหลอกไปร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ประเทศเพื่อนบ้าน

127922 ก.ย. 67 23:58   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

วินาทีเด็ก ม.6 ได้เจอหน้าพ่อแม่ครั้งแรกยกมือไหว้ร้องไห้ขอโทษ หลังถูกหลอกไปร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนส่งข้อความให้ช่วย จนทางการไทยและกัมพูชา ประสานช่วยเหลือออกมาอย่างปลอดภัย พร้อมเล่านาทีถูกให้ทำงาน 12 ชม. และทำหน้าที่หลอกเหยื่อผ่านแอปหาคู่

(22 ก.ย.67) ความคืบหน้ากรณีที่นายสมจิตร์ และนางเพชร สองสามีภรรยา ได้ออกมาวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือน้องวิว อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นลูกชาย หลังหายออกจากบ้านตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2567 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


กระทั่งต่อมาทราบว่าลูกชายถูกหลอกให้ไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน โดยลูกชายได้ถ่ายรูปที่พักอาศัย และข้อมูล ส่งให้เพื่อนเพื่อให้หาทางช่วยเหลือ


หลังทราบเรื่องนายอำเภอนางรอง พร้อมด้วยผู้กำกับการ สภ.นางรอง ก็ได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สถานทูตไทยในประเทศเพื่อนบ้าน (กัมพูชา) รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน หาแนวทางช่วยเหลือน้องวิว ที่ตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามที่ครอบครัวร้องขอความช่วยเหลือ


กระทั่งช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ทราบว่าเจ้าหน้าที่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ได้ช่วยเหลือน้องออกมาจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์และให้ไปอยู่ในสถานที่ปลอดภัยแล้ว จากนั้นก็มีการทำเรื่องเอกสารต่างๆ ก่อนจะส่งตัวน้องกลับบ้าน 


พลตำรวจตรีภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 (สอท.5) , พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ , นางสาวเพชรรัตน์ ภูมาศ นายอำเภอนางรอง , พ.ต.อ.กัมพล วงษ์สงวน ผู้กำกับการ สภ.นางรอง ได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิมชัย เณรธรณี รอง สว.(สอบสวน) สภ.นางรอง พาครอบครัว เดินทางไปรับตัวน้อง ที่ สภ.คลองลึก อ.อรัญประเทศ 


เมื่อน้องวิว และพ่อแม่ รวมถึงน้องชายที่เดินทางไปรับ ต่างก็โผเข้ากอดกันด้วยความคิดถึง หลังจากไม่ได้เจอกันนานกว่า 40 วัน ซึ่งก่อนที่เจ้าหน้าที่จะพาขึ้นรถตู้เพื่อเดินทางกลับบ้าน น้องวิวก็ได้ถือพวงมาลัยมายกมือไหว้พร้อมขอโทษพ่อและแม่ ต่างฝ่ายต่างก็กอดกันร้องไห้  

 

จากการสอบถามน้องวิว เล่าว่า เพื่อนที่ชวนไปทำงานบอกว่าเป็นแอดมินคอยตอบแชตเพจขายของออนไลน์ แต่พอไปถึงรู้ว่าถูกหลอกไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ให้ทำงานวันละ 12 ชั่วโมง โดยให้ตนทำหน้าที่หลอกเหยื่อผ่านแอปหาคู่ ให้หลอกล่อพูดคุยสร้างความสัมพันธ์เป็นแฟน จากนั้นให้หลอกร่วมลงทุนในบริษัทของเขา โดยให้โทรหลอกไปเรื่อยภายใน 4 วันต้องสร้างสัมพันธ์ให้เชื่อว่าเป็นแล้วหลอกลงทุน


แต่ตนเองยังทำไม่ถึงขั้นตอนนั้น เพราะพอรู้ว่าถูกหลอกให้มาเป็นคอลเซ็นเตอร์ก็พยายามติดต่อกับเพื่อน เพื่อให้ประสานขอความช่วยเหลือ ซึ่งที่ตนอยู่มีคนจากหลายประเทศมาทำงานเกือบ 1,000 คน ซึ่งเขาขู่ว่าหากทำยอดไม่ได้ตามเป้าเขาก็จะทำโทษ รู้สึกดีใจมากที่ได้รับการช่วยเหลือจนได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย 


ทั้งนี้น้องวิว ยังได้ขอบคุณทางสถานทูตไทย ตำรวจ นักข่าว และทุกหน่วยงานที่ติดต่อประสานช่วยเหลือ หลังจากนี้จะไม่หลงเชื่อใครง่ายๆ อีก จะตั้งใจกลับไปเรียนและดูแลพ่อแม่


ขณะที่นางเพชร ผู้เป็นแม่ พูดทั้งน้ำตาว่า หลังจากที่รู้ว่าลูกถูกหลอกไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็ทุกข์ทรมานใจมากเฝ้ารอทุกวันคิดว่าจะไม่ได้ลูกคืนแล้ว แต่พอทราบว่ามีหลายหน่วยงานติดต่อประสานช่วยเหลือลูกชายได้แล้วก็รู้สึกโล่งใจแต่ยังเดินทางไปรับไม่ได้ก็เฝ้ารอคอยมาตลอด วันนี้ดีใจมากที่ได้ลูกกลับมาอย่างปลอดภัย


หลังจากไม่ได้เจอกันมานานกว่า 40 วัน ที่ผ่านมาก็ไปกราบไหว้บนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์หลายที่ให้ปกปักรักษาลูกให้ปลอดภัย หลังจากนี้ก็จะดูแลลูกชายอย่างดีเพราะถ้าถูกหลอกลักษณะนี้อีกก็อาจจะไม่โชคดีเหมือนครั้งนี้ ขอขอบคุณสถานทูตไทยในกัมพูชา ตำรวจและทุกหน่วยงานที่ติดต่อประสานช่วยเหลือ จนลูกชายได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง