รวบ 'แม่ใบหนาด' หลอกขายทองเหยื่อสูญกว่า 180 ล้านบาท

วันที่ 9 ต.ค. 67 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รรท.ผบช.สอท. พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สอท.4 นำหมายค้นศาลธัญบุรีที่ 647/2567 ลงวันที่ 9 ต.ค. เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ก่อนจับกุมนายพรมธาดา หรือ 'แม่ใบหนาด' อายุ 31 ปี กรรมการบริษัทห้างเพชรทอง ธาดาโกลด์ ตามหมายจับศาลอาญาที่ 4953/2567 ลงวันที่ 8 ต.ค. ในข้อหาความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อประชาชน จนมีผู้เสียหายกว่า 500 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 180 ล้าน

พล.ต.ต.จิรวัฒน์ เปิดเผยว่า การจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มผู้เสียหายเดินทางมาร้องเรียนที่บช.สอท. ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาหลังมีพฤติการณ์เข้าข่ายฉ้อโกง และเมื่อวานนี้ ชุดสืบสวนได้ไปขอศาลอาญาออกหมายจับในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ชุดสืบสวนได้เข้าทำการจับกุมดังกล่าว สอบปากคำเจ้าตัวให้การรับสารภาพ

โดยก่อนหน้านี้นายพรมธาดา ประกอบอาชีพ ลูกจ้างร้านทอง ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และมีการเรียนรู้วิธีซื้อขายทอง จนกระทั่งในปี 2566 มีการจัดตั้งบริษัทเป็นของตัวเอง โดยมีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท และมีการเริ่มไลฟ์ขายของ และจูงใจให้คนมาซื้อด้วย การเสนอราคาที่ถูกกว่าตลาดประมาณร้อยละ 50 พร้อมอ้างว่า ตัวเองกำลังอยู่ระหว่างทำโรงงานขายทองและ จะมีสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าที่มาสั่งซื้อทองเพื่อสมนาคุณให้กับผู้ติดตามในสื่อโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์ม TikTok โดยหากใครมาซื้อในระยะเวลาเร็วที่สุดก็จะได้ทองราคาถูก ขณะเดียวกันยังพบว่ามีการว่าจ้างอินฟลูเอ็นเซอร์ชื่อดัง ให้มาร่วมไลฟ์ ขายของด้วยจึงทำให้มีผู้หลงเชื่อเป็นจำนวนมาก รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาทก่อนจะยุติการขายในปี 2567 เนื่องจากราคาทองมีการเปลี่ยนแปลง 

พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ เปิดเผยว่า สำหรับการตรวจสอบทรัพย์สินขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบข้อมูลว่ามีทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ นอกจากบ้าน รถยนต์ รถจักรยานยนต์ซึ่งอยู่ระหว่างการผ่อนชำระ และบัญชีธนาคาร 3 บัญชี ซึ่งมีเงินคงค้างอยู่เพียงหลักหมื่นเท่านั้นส่วนนี้จึงต้องตรวจสอบว่า ผู้ต้องหามีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน หรือ มีพฤติการณ์เข้าข่ายฟอกเงินหรือไม่ เนื่องจากจากการตรวจสอบในบัญชีพบว่า มีเงินหมุนเวียนกว่า 200 ล้านบาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างส่งข้อมูลให้สำนักงานป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ตรวจสอบ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัว นายพรมธาดา ไปสอบปากคำต่อที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 ก่อนจะนำตัวไปฝากขังที่สน. ทุ่งสองห้อง โดยระหว่างการควบคุมตัวนายพรหมธาดา เปิดเผยว่า ขอโทษลูกค้าทุกคน พร้อมที่จะรับผิดชอบและจะให้การในชั้นศาลพร้อมตอบคำถามทีเดียว