ไม่มีปาฏิหาริย์ พบร่างผู้สูญหายในอุโมงค์อีก 2 ราย

ไม่มีปาฏิหาริย์ พบร่างผู้สูญหายในอุโมงค์อีก 2 ราย

88030 ส.ค. 67 09:12   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

เสียชีวิตทั้งหมด! หลัง จนท.เร่งค้นหาผู้สูญหายอีก 2 ราย ในอุโมงค์รถไฟถล่มที่ จ.นครราชสีมา ด้วยความหวังว่าจะเข้าถึงตัวผู้ประสบเหตุได้ทันเวลา แต่สุดท้ายปาฏิหาริย์ไม่มีจริง พบร่างไร้วิญญาณของคนงานทั้ง 2 เช้านี้

(30 ส.ค. 67) ความคืบหน้าการช่วยเหลือคนงานอีก 2 รายที่ติดอยู่ในอุโมงค์รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงคลองขนานจิตร อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา หลังอุโมงค์ที่กำลังก่อสร้างนี้ถล่มลงมา ตั้งแต่คืนวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา


หลังจากมีข้อมูล ยืนยัน พบพิกัดผู้สูญหายแล้ว มีรายงานว่า ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้เร่งค้นหา ผู้สูญหาย ทั้ง 2 ชีวิต ท่ามกลางอุปสรรคมากมายทั้งสภาพแวดล้อมภายในที่มีความแคบ และพบเจอซีเมนต์ และหินจำนวนมาก


ล่าสุดเวลาประมาณ 06.00 น. ได้รับแจ้งจากทีมกู้ภัยว่า พบร่างคนงานที่เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย คือ นายหูเสียงหมิ่น เพศชาย สัญชาติจีน (ผู้ควบคุมงาน) นายตงชิ่นหลิน เพศชาย สัญชาติจีน (ขับรถแม็คโคร) โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ขุดดินและสร้างกล่องค้ำยันทะลุกองดินเข้าไปภายในอุโมงค์ ห่างจากจุดแรก ประมาณ 3 เมตร และอยู่ระหว่างการหาวิธีเร่งนำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ออกจากที่เกิดเหตุ


ทั้งนี้ การรถไฟฯ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง และพร้อมให้ความช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิต และขอขอบคุณทีมงานกู้ภัย เจ้าหน้าที่ภาครัฐ ภาคเอกชนทุกคน ที่มีส่วนร่วมในการให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ จนสามารถพบร่างของคนงานที่ติดค้างทั้ง 3 ราย


สำหรับ อุโมงค์รถไฟคลองไผ่ ช่วงคลองขนานจิตร ต.จันทึก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เป็นอุโมงค์ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ซึ่งเกิดเหตุดินทรุดตัวภายในอุโมงค์ เมื่อเวลา 23.40 น. ของคืนวันที่ 24 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยตลอดปฏิบัติการช่วยเหลือคนงานที่ติดค้างทั้ง 3 ราย ใช้เวลารวมทั้งสิ้นประมาณ 126 ชั่วโมง


ทีมงานกู้ภัยต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ทั้งจากปัญหาดินสไลด์ลงมาจากด้านบนอุโมงค์อย่างต่อเนื่องทำให้ต้องใช้เวลาในการขุดดินเพิ่มมากขึ้น การดันท่อช่วยชีวิตแล้วติดชั้นหินจนเจ้าหน้าที่ต้องเปลี่ยนวิธีเป็นการสร้างกล่องค้ำยัน เพื่อป้องกันดินและหินที่ไหลลงมาเพิ่มเติม ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง