จับสาวบัญชี! ลักแหวนทองหนัก 2 สลึง 48 วง รวมมูลค่าเสียหายเฉียด 1 ล้านบาท

จับสาวบัญชี! ลักแหวนทองหนัก 2 สลึง 48 วง รวมมูลค่าเสียหายเฉียด 1 ล้านบาท

32511 มิ.ย. 67 16:49   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

จับสาวบัญชี! ลักแหวนทองหนัก 2 สลึง 48 วง รวมมูลค่าเสียหายเฉียด 1 ล้านบาท สารภาพทำมาแล้วหลายครั้ง

(11 มิ.ย.67) พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6 , พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร รองผบก.น.6 พ.ต.อ.ภาวัต วรรธสุภัทร ผกก.สน.พระราชวัง , พ.ต.ท.ไพศาล เดชกัลยา รอง ผกก.สส.สน.พระราชวัง , พ.ต.ต.พลาวัสถ์ คนกล้า สว.สส.สน.พระราชวัง พร้อมกำลังลังเจ้าหน้าที่ สส.สน.พระราชวัง ได้ร่วมกันจับกุมตัว นางสาวณัฐธิดา หรืออิ๋ว อายุ 38 ปี พร้อมด้วยของกลางในคดี คือ แหวนทองคำรูปพรรณ ลายหัวมังกร โลโก้ ตรางู จำนวน 1 วง น้ำหนัก 2 สลึง มูลค่า 22,000 บาท 


พร้อมทั้งขยายผลเพิ่ม พบแหวนทองรูปพรรณต่างๆ ที่ได้เคยลักไปจากร้านทอง จำนวน 48 วง โดยมีมูลค่ารวม 950,000 บาท ซึ่งอยู่ในถาดบรรจุอยู่ภายในตู้เซฟนิรภัย ห้องนอนชั้น 2 ของบ้านผู้ถูกจับ


สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.เวลาประมาณ 16.20 น. ชุดสืบสวนสน.พระราชวัง ได้รับแจ้งจาก ผู้เสียหายว่ามีเหตุลักทรัพย์ แหวนทองคำรูปพรรณ ลายหัวมังกร โลโก้ ตรางู จำนวน 1 วง น้ำหนัก 2 สลึง มูลค่า 22,000 บาท ภายในร้านทอง ถนนพาหุรัด แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร และได้ทำการควบคุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุลักทรัพย์ดังกล่าวได้ คือ น.ส.ณัฐธิดา หรืออิ๋ว พนักงานแผนกเสมียนประจำร้าน 


จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.พระราชวัง จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุตามที่ได้รับแจ้ง เมื่อไปถึงปรากฎพบเจ้าของร้านและเป็นผู้แจ้ง พร้อมทั้งได้แจ้งแสดงบุคคลที่ก่อเหตุลักทรัพย์ดังกล่าว พร้อมของกลางที่อยู่ภายในกำมือข้างซ้ายในขณะนั้น 


จากการตรวจสอบได้ขโมยแหวนทั้งหมด 47 วง โดยมี ขนาดน้ำหนัก 1 บาท จำนวน 5 วง , ขนาดน้ำหนัก 2 สลึง จำนวน 29 วง และ ขนาดน้ำหนัก 1 สลึง จำนวน 13 วง รวมน้ำหนักได้ 22 บาท 3 สลึง มูลค่า 930,000 บาท


จากนั้นชุดสืบสวน สน.พระราชวัง จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและเข้าทำการตรวจสอบถาม นางสาวณัฐธิดา หรืออิ๋ว อีกครั้ง ซึ่งจากการสอบถามยอมรับสารภาพว่าได้ทำการลักทรัพย์ โดยอาศัยช่วงจังหวะร้านปิด พนักงานจะต้องช่วยกันย้ายถาดใส่แหวนทองรูปพรรณเข้ามาเก็บภายในตู้เซฟ ซึ่งตนจะเป็นคนแรกที่อยู่ใกล้ช่องส่งถาดทอง และเมื่อตนได้รับถาดใส่แหวนทองรูปพรรณถาดสุดท้ายแล้ว ตนจะใช้นิ้วเกี่ยวแหวนทองเอามากำไว้ภายในมือ แล้วกลับมานั่งที่โต๊ะทำงาน ก่อนจะเอาแหวนทองรูปพรรณมาใส่ไว้ในกางเกง แต่ถูกจับได้เสียก่อน 


ตนได้ก่อเหตุลักทรัพย์เป็นแหวนทองรูปพรรณ ขนาดน้ำหนักต่างๆ ของภายในร้านทอง มาแล้วหลายครั้งแล้ว โดยครั้งแรกได้ก่อเหตุต้นเดือนเม.ย. 2567 ซึ่งในแต่ละครั้งตนจะมีแผนในการก่อเหตุ คือในช่วงจังหวะร้านปิด พนักงานจะต้องช่วยกันย้ายถาดใส่แหวนทองรูปพรรณเข้ามาเก็บภายในตู้เซฟ 


ซึ่งตนจะเป็นคนแรกที่อยู่ใกล้ช่องส่งถาดทองจากหน้าร้าน มาภายในออฟฟิศที่มีตู้เซฟวางอยู่ และเมื่อตนได้รับถาดใส่แหวนทองรูปพรรณถาดสุดท้ายแล้ว ตนจะใช้นิ้วเกี่ยวแหวนทองเอามากำไว้ภายในมือ แล้วกลับมานั่งที่โต๊ะทำงาน ก่อนจะเอาแหวนทองรูปพรรณมาใส่ไว้ในกางเกง และซุกซ่อนเอาออกจากร้านตามปกติ 


ตนในฐานะที่เป็นพนักงานเสมียนประจำร้าน จะไม่ถูกตรวจค้นตัวก่อนออกนอกร้าน เพราะตนมีหน้าที่ในการทำบัญชีของร้านเท่านั้น ไม่ได้ทำหน้าที่ในการขายทอง จากนั้นจะนำแหวนทองรูปพรรณที่ตนได้ลักทรัพย์มาทั้งหมดเก็บไว้ภายในตู้เซฟภายในบ้านของตนเองย่านรามอินทรา


เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง” ก่อนนำตัวส่งสน.พระราชวัง ดำเนินคดีตามกฎหมาย

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง