ศาลมีคำสั่งห้ามนำเด็ก 8 ขวบ ทำกิจกรรมเชื่อมจิตทุกช่องทาง เป็นเวลา 6 เดือน

ศาลมีคำสั่งห้ามนำเด็ก 8 ขวบ ทำกิจกรรมเชื่อมจิตทุกช่องทาง เป็นเวลา 6 เดือน

37828 ส.ค. 67 13:59   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

ศาลเยาวชนสุราษฎร์ มีคำสั่งไม่ให้ครอบครัวนำเด็ก 8 ขวบ ไปทำกิจกรรมเชื่อมจิต เผยแพร่คำสอนในสถานที่ต่างๆ สังคมออนไลน์ หรือทำกิจกรรมดังกล่าวภาพเสียงสื่อพิมพ์ พร้อมให้นำไปตรวจสุขภาพจิตโดยคำสั่งมีอายุ 6 เดือน

(28 ส.ค.67) ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี นางนัฐพร นายพิชญะ และ นายธรรมราช สาระปัญญา ทนายต้อ ทนายความ พร้อมนายอภิเชษฐ์ ปานจรัตน์ ผู้อำนวยการฟื้นฟูเด็กและเยาวชน บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.สุราษฎร์ธานี ได้เดินทางมาฟังคำสั่งศาล 


จากกรณีสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) สุราษฎร์ธานี ยื่นขอคุ้มครอง น้องไนซ์ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ต่อศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้ผู้ปกครองหยุดดำเนินการนำเด็กไปทำกิจกรรมต่างๆ และให้ผู้ปกครองร่วมมือกับ พม.ในการวางแผนเลี้ยงดูเด็ก 

   

โดยศาลได้มีศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้มีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องปฏิบัติตามดังต่อไปนี้ 


1.ห้ามผู้ร้องทั้งสองแสวงหาผลประโยชน์จากเด็กชายนิรมิต ศูนย์ยะคณิต โดยห้ามไปทำกิจกรรมเชื่อมจิต หรือเผยแพร่คำสอนในสถานที่ต่างๆสังคมออนไลน์ หรือทำกิจกรรมดังกล่าวภาพเสียงสื่อพิมพ์ 

    

2.ให้ผู้ถูกร้องทั้งสองนำเด็กชายเข้าพบและรับคำปรึกษาจากจิตแพทย์ ประจำสถาบันสุขภาพจิตภาคใต้ อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภายใน 15 วันนับแต่วันนี้ โดยให้คณะแพทย์ตรวจรักษาให้คำปรึกษา 2 ครั้งภายใน 6 เดือน และให้ผู้ตรวจรักษาทำรายงานต่อศาล และให้ผู้ร้องกำกับดูแล ใช้อำนาจปกครองผู้ร้องคำสั่งมีผลภายใน 6 เดือน นับแต่ทราบคำสั่งใช้เวลาอ่านคำสั่ง โดยศาลใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษในการอ่านคำสั่ง 

   

ด้าน แม่นก บอกว่า หลังจากฟังคำสั่งแล้วความรู้สึกก็ไม่ได้เหนือความคาดหมาย ศาลก็จะมองโดยที่สวัสดิภาพของน้องเป็นหลัก เพราะว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็เกิดจากการที่การนำภาพน้องไปเผยแพร่และมีการไปตัดต่อ ในส่วนที่ตนไม่เห็นด้วยก็ในเรื่องของการที่ศาลมองเห็นว่าเราแสวงหาผลประโยชน์ ด้วยทางครอบครัวทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ส่วนการให้น้องมาสอนธรรมเราก็ไม่ได้รับผลประโยชน์อะไร สามารถไปพิสูจน์ไปตรวจสอบได้ใน tiktok หากทางเราทำในลักษณะธุรกิจเพื่อให้ได้ในการปล่อยคลิปหรือใน YouTube ในแง่ธุรกิจที่มีรายได้จริงหรือเปล่าทั้ง 3 ช่องทางไม่ว่าจะเป็น เฟซบุ๊ก YouTube หรือ tiktok ทางพ่อแม่ไม่มีผลประโยชน์อะไรจากน้องเลย

   

ในส่วนของการตรวจสุขภาพจิตเรามองว่าศาลอาจจะมองว่าน้องมีความเครียดเรื่องของข่าว ทางครอบครัวก็จะมีการอุทธรณ์ในเรื่องการสอนธรรมของน้อง เพราะเรามีหลักฐานเพิ่มเติม ส่วนกรณีที่ศาลมองว่าทางเรามีผลประโยชน์ ตรงนี้ทางศาลก็อาจจะมองว่าโดยปกติคนเราการที่ลุกขึ้นมาทำอะไรแบบนี้ ถ้าไม่มีผลประโยชน์ก็ไม่มีใครเขาทำกัน นั่นก็เป็นมุมมองทั่วไปที่มีการมองเป็นอย่างนั้น ซึ่งทางเรายังไม่ได้แสดงหลักฐานให้ทางศาลได้เห็นอย่างชัดเจน เพราะฉะนั้นจะนำหลักฐานทั้งหมดประกอบส่งยื่นในชั้นอุทธรณ์  

   

ในการที่ศาลให้หยุดในเรื่องของการแสวงหาผลประโยชน์จากน้อง ซึ่งตอนนี้เราดูแล้วในเรื่องช่อง YouTube หรือช่องทางที่เราเผยแพร่ทางออนไลน์ไม่ว่าจะในเฟซบุ๊ก ในติ๊กต๊อก เราก็ไม่ได้ทำแบบธุรกิจหรือมีผลประโยชน์ การที่น้องไปสอนธรรมในเรื่องค่าวิทยากรนั้น ทางน้องก็ไม่เคยรับเงินค่าวิทยากรในการสอนธรรมแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นมีประเด็นเดียวที่หมิ่นเม่ก็ในเรื่องของการจัดสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรม หลังจากมีคำสั่งศาลแล้ว ทางเราจะมีการประกาศหน้าเพจ หยุดการรับบริจาค หยุดดำเนินการก่อสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรม เพื่อให้ญาติธรรมทุกท่านทราบต่อไป

   

ด้านนายธรรมราช สาระปัญญา ทนายความเปิดเผยว่า ศาลมีคำสั่งไม่ให้เอาเด็ก 8 ขวบ ไปแสวงหาผลประโยชน์ และตรวจสุขภาพจิต คำสั่งนี้มีอายุ 6 เดือน ส่วนบางประเด็นที่ไม่เห็นด้วย ทางครอบครัวเด็ก 8 ขวบ จะยื่นอุทธรณ์ไปตามกระบวนการต่อไป 

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง