“คมนาคม” เดินหน้าเอาผิดผู้รับเหมา ทางด่วนมรณะคานยุบ

(21 มี.ค. 68) นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม ในฐานะโฆษกกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย นำเอกสาร มาแจ้งความกับผู้รับเหมาและบริษัทก่อวร้าง ที่ทำให้เกิดเหตุคานก่อสร้างถล่มเมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต  

นายกฤชนนท์ บอกว่า วันนี้เป็นการ นำข้อมูลมาให้ตำรวจเพื่อนำไปตรวจสอบและดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ที่ทำให้เกิดเหตุดังกล่าว ตัวบุคคลและนิติบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเชิงทุจริต ทั้งอาญาและแพ่ง โดยจะนำผลจากการตรงจสอบข้อเท็จจริงจากคณะกรรมการตรวขสอบข้อเท็จจริงที่ตั้งขึ้นมาในการดูสาเหตุ ตั้งแต่วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง อุปกรณ์ที่นำเข้ามา ซึ่งการตรวจสอบจะต้องตรวจในห้องปฏิบัติการ กระบวนการทำงาน และขั้นตอนของแต่ละบุคคล ว่ามีความผิดพลาดอย่างไรถึงทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น โดยตั้งกรอบกำหนดไว้ ภายใน 20 วัน หลังเกิดเหตุ มาประกอบสำนวนเพื่อดำเนินคดีด้วย ซึ่งมูลค่าความเสียหายอยู่นะหว่างการประเมิน 

นอกจากนี้ยังได้ประสานไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ในการตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างโครงการดังกล่าว ว่าถูกต้องหรือไม่ เพราะโครงการนี้มูลค่าสูงประมาณ 7-8 พันล้านบาท ซึ่งดีเอสไอ จะมาตรวจสอบเพื่อพิสูจน์ขั้นตอนการทำงานในโครลการว่ามีจุดบกพร่องอะไรบ้าง 

และทางกระทรวงคมนาคมได้ตั้งคณะกรรมการ “เซฟตี้ออดิท” ชึ้นเพื่อตรวจสอบการก่อสร้างขนาดใหญ่ ทั่งประเทศ ว่าเป็นไปตามมาตรฐานหรือมไม่ ซึ่งจะขอ ผู้เชี่ยวชาญจากวิศวกรรมสถานและสภาวิศวกรให้เข้ามาร่วมในคณะกรรมการดังกล่าว พร้อมทั้งจะเก็บข้อมูลของผู้รับเหมาแต่ละเจ้า

ด้านนายสุรเชษฐ์ ได้กล่าวย้ำว่า หลังจากที่มีการประชุมกับนายกก่อนหน้านี้ได้มีการเสนอให้ดีไซน์เข้ามาร่วมตรวจสอบ โครงกาีจัดซื้ จัดจ้างเพื่อให้ชัดเจน ไม่เกิดกังขามนสังคมว่ามีการฮั้วเกิดขึ้น จนนำไปสู่การใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐานและเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น 

สำหรับช่วงเทศการสงกรานต์ ที่จะมีประชาชนใช้ถนนเส้นพระราม 2 กลับบ้าน จำนวนมาก และประชาชนเกิดความกังวลเรื่องความปลอดภัย นายสุรเชษฐ์ บอกว่า ไม่ต้องกังวล จะให้การก่อสร้างนั้น หยุดเป็นการชั่วคราวตามข้อตกลงระหว่างเทศกาลสงกรานต์

พ.ต.อ. สนชัย พูนผล ผู้กำกับการสน.บางมด บอกว่า จะดำเนินคดีอย่างเคร่งครัด เบื้องต้น จะสามารถดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อให้เกิดเหตุ ในข้อหา ประมาท ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต อัตตราโทษกรณีเสียชีวิต จำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท กรณี บาดเจ็บ จำตุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ