หนุ่มหลอนยา บุกกระทืบเจ้าคณะตำบลคากุฏิ

วันที่ 4 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระชัยวุฒิ อายุ 58 ปี หัวหน้าสำนักสงฆ์บ้านXXX และเป็นเจ้าคณะตำบลแห่งหนึ่ง ใน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาร้องเรียน และอยากฝากผ่านสื่อมวลชน ไปถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี หลังจากโดนวัยรุ่นหลอนยาบ้าในหมู่บ้าน บุกมาทำร้ายถึงกุฏิในวัด โดยไม่มีเหตุผล

พระชัยวุฒิ เล่าว่า เมื่อเวลา 21.00 น.ของคืนที่ผ่านมา(3 ส.ค.67) กำลังพักผ่อนอยู่ในกุฏิ ได้ยินเสียงคนโวยวายภายในวัด จากนั้นเสียงมาดังอยู่ข้างกุฏิ พร้อมกับตะโกนว่า "ไอ้ยัด (ชื่อเล่นของพระ)มึงทำของใส่กู" จากนั้นวัยรุ่นคนดังกล่าว ได้กระโดดถีบประตูกุฏิ 3 ครั้ง ทำให้ประตูพังลงมา ตนซึ่งอยู่ในห้องอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งไม่มีประตู ได้แต่ทำใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก ก่อนที่วัยรุ่นคนดังกล่าว ซึ่งพอรู้ตัวหลังจากนั้นว่าเป็น นายอนุชา หรือ โอม (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นคนในหมู่บ้าน ได้กระโจนเข้าไปหาตน แล้วเกิดการชุลมุนขึ้น

ตนเองถือพัดลมเอาไว้ป้องกันตัว แต่สู้ไม่ได้ ทำให้ล้มลง จากนั้นนายโอม ได้เตะบริเวณใบหน้า และตามลำตัวหลายครั้ง ตนพยายามตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ แต่ไม่เป็นผล เพราะในวัดมีตนจำพรรษาอยู่พระรูปเดียว กระทั่งนายโอมหนำใจ แล้วเดินจากไป หลังจากนายโอมซ้อมตนจนแน่นิ่ง นายโอมได้กล่าวหาตนว่า เอาผีปอบไปใส่ตัว ทำให้เจ้าตัวเสียสติ

พระชัยวุฒิ เล่าด้วยว่า ที่จริงแล้วนายโอมเสพยาบ้าจนหลอน ที่ผ่านมาทราบข่าวมาโดยตลอด ว่าไปทำร้ายพ่อแม่และญาติของนายโอมเองหลายครั้ง ตอนนี้ตนได้รับบาดเจ็บตามร่างกายหลายจุด ส่วนนายโอม ตำรวจนำตัวไป รพ.สตึก ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ เกิดขึ้นบ่อยในประเทศไทย จึงอยากจะฝากไปถึงนายกรัฐมนตรี ที่รับปากเอาไว้ว่าจะปราบยาเสพติด "เมื่อรับปากแล้ว ต้องทำ" มองว่ายาบ้าตอนนี้มีเป็นจำนวนมาก คนหลอนยาก็มีเยอะ ทำร้ายคนในครอบครัว ฆ่าคน ไม่เว้นพระอย่างตน ก็ยังโดนทำร้าย ถ้าผู้ก่อเหตุเกิดหลอนตอนมีอาวุธ ไม่อยากคิดว่าจะจะเกิดอะไรขึ้น

ส่วนตัว ก็อยากให้รัฐบาลตั้งโทษให้สูงขึ้น แต่ตอนนี้คดีมันกำกวม ถ้าจับไปอย่างนายโอม ซึ่งเป็นแค่คนเสพและหลอน 1-2 วัน ก็ออกมา แล้วไม่รู้จะมาก่อเหตุอะไรอีก อยากให้รัฐบาลทำเด็ดขาด มีสถานที่ให้เป็นของเขา(ผู้เสพ-หลอนยา) ใช้ภาษีของคนไทยนี่แหละ ไปตั้งสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่ง ซึ่งมีที่ดินเยอะแยะ อยากให้เขาอยู่ในกลุ่มเดียวกัน ในโลกของเขาเอง ถ้ามีคนแจ้ง ก็จับส่งไปโซนนั้นไปเลย

ขณะที่นายพีระฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี อาของนายโอมผู้ก่อเหตุ เล่าว่า หลานเคยเสพยาจริง แต่ระยะหลังไม่ค่อยได้เสพ และมีอาการเพี้ยนเป็นระยะ ที่ผ่านมาได้ทำร้ายแค่คนในครอบครัว กับล่าสุดที่บุกไปทำร้ายพระเจ้าคณะตำบล ซึ่งในอนาคต ตนก็ไม่กล้ารับประกันว่าจะมาก่อเหตุอะไรอีก